ASTVผู้จัดการรายวัน -มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 6 คัดสรรผักพื้นบ้านและสมุนไพรกว่า 200 ชนิด จาก 4 ภาค นำมาจัดแสดง หวังรื้อฟื้นความทรงจำคนไทย ตระหนักถึงคุณประโยชน์จากการกินพืชผักสมุนไพรในท้องถิ่น กลไกสร้างภูมิป้องกันไข้หวัดจากภายใน
รศ. ดร. พร้อมจิต ศรลัมพ์ เภสัชกร มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า การจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 6 นี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด พืชผักสมุนไพร สร้างเศรษฐกิจไทย ต้านภัยไข้หวัด ซึ่งได้รวบรวมพันธุ์ผักพื้นบ้านและข้าวพื้นบ้านกว่า 200 ชนิด นำมาจัดแสดงเพื่อต้องการให้เห็นฐานทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยที่มีความหลากหลายและคุณค่าของผักพื้นบ้านนานาชนิดจากทั้ง 4 ภูมิภาคที่เกษตรกรอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ในวิถีชีวิตซึ่งสะท้อนถึงภูมิปัญญา และวัฒนธรรมการกินของแต่ละท้องถิ่น
“คนไทยเราโชคดีที่สุดที่มีความหลากหลายทางทรัพยากร และภูมิปัญญาของเราเอง ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ครั้งนี้ เป็นเพราะเราไม่รู้จักมาก่อน และร่างกายเราเองก็ไม่รู้จัก ในทางทฤษฏีการแพทย์แผนไทย เน้นการป้องกันก่อนเกิดโรค การบริโภคพืชผักและสมุนไพรที่มีฤทธิ์ป้องกันจากภายใน โดยเข้าไปช่วยการสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับเม็ดเลือดขาว”
ความหลากหลายของผักและสมุนไพรพื้นบ้าน ซึ่งคนโบราณมีวิธีแยกความแตกต่างและคุณประโยชน์ จากสี กลิ่น และรสชาติ ทำให้สามารถนำมาใช้ได้ในวิถีชีวิตประจำวัน ทั้งในช่วงที่เป็นไข้หวัดและไม่เป็นไข้หวัด จะเห็นได้ว่าวัฒนธรรมการกินของคนไทยจะเลือกพืชผักที่มีสีสวยและกลิ่นหอม สีสดๆ อาทิ หอมแดง จะมีสารแอนตี้ออกซิเดนท์ ที่ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง ชนิดที่มีกลิ่นหอมเท่ากับน้ำมันหอมระเหย ส่วนผักที่มีรสเปรี้ยว ฝาด จะมีกรดวิตามินซีสูง เพิ่มความต้านทานไข้หวัด ในพืชผักในแต่ละท้องถิ่นเห็นถึงความแตกต่าง และเลือกนำมากินได้อย่างเหมาะสมและถูกวิธี
สำหรับพืชผักที่ควรนำมาบริโภคในช่วงไข้หวัดระบาดนี้ ได้แก่กลุ่มผักมีสี อาทิ กระเจี๊ยบแดง มะเขือเทศ มะละกอ กลุ่มที่มีกลิ่นหอม อาทิ หอมแดง กระชาย มะตูม กลุ่มที่มี รสเปรี้ยว อาทิ สมอ มะขามป้อม ส่วนที่มีรสเผ็ดร้อน อาทิ ขิง ขมิ้น โหระพา กระเพรา กลุ่มรสฝาด อาทิ สมอไทย สมอพิเภก ชาเขียว สำหรับรสขม สะเดา เพกา(ลิ้นฟ้า) ซึ่งมีวิตามินซีสูงมาก
ทั้งนี้การเลือกกินและคุณประโยชน์ของผักชนิดต่างๆ โดยเฉพาะ “15 สุดยอดผักพื้นบ้าน” ที่มีคุณค่าสูงบริโภคได้หลายรูปแบบ และ “ 10 ผักสามัญประจำบ้าน” ที่ควรมีไว้ในทุกครัวเรือน ข้อมูลเหล่านี้จะมีเผยแพร่ให้ความรู้ จัดกลุ่ม วิธีการรับประทาน รวมทั้งการประยุกต์ทำอาหารได้ง่าย อร่อยและมีประโยชน์ ผู้ที่สนใจจะทำความรู้จักผักพื้นบ้านนานาชนิดเหล่านี้สามารถหาชมได้ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 2-6 กันยายน 2552 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
“เราควรดูแลป้องกันตนเอง ซึ่งเป็นการป้องกันที่มาจากการดูแลสุขภาพภายในร่างกายให้แข็งแรง ขณะที่การล้างมือ ใช้ช้อนกลาง ใส่หน้ากากอนามัย เป็นการป้องกันจากภายนอก”รศ.ดร พร้อมจิตกล่าว
รศ. ดร. พร้อมจิต ศรลัมพ์ เภสัชกร มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า การจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 6 นี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด พืชผักสมุนไพร สร้างเศรษฐกิจไทย ต้านภัยไข้หวัด ซึ่งได้รวบรวมพันธุ์ผักพื้นบ้านและข้าวพื้นบ้านกว่า 200 ชนิด นำมาจัดแสดงเพื่อต้องการให้เห็นฐานทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยที่มีความหลากหลายและคุณค่าของผักพื้นบ้านนานาชนิดจากทั้ง 4 ภูมิภาคที่เกษตรกรอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ในวิถีชีวิตซึ่งสะท้อนถึงภูมิปัญญา และวัฒนธรรมการกินของแต่ละท้องถิ่น
“คนไทยเราโชคดีที่สุดที่มีความหลากหลายทางทรัพยากร และภูมิปัญญาของเราเอง ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ครั้งนี้ เป็นเพราะเราไม่รู้จักมาก่อน และร่างกายเราเองก็ไม่รู้จัก ในทางทฤษฏีการแพทย์แผนไทย เน้นการป้องกันก่อนเกิดโรค การบริโภคพืชผักและสมุนไพรที่มีฤทธิ์ป้องกันจากภายใน โดยเข้าไปช่วยการสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับเม็ดเลือดขาว”
ความหลากหลายของผักและสมุนไพรพื้นบ้าน ซึ่งคนโบราณมีวิธีแยกความแตกต่างและคุณประโยชน์ จากสี กลิ่น และรสชาติ ทำให้สามารถนำมาใช้ได้ในวิถีชีวิตประจำวัน ทั้งในช่วงที่เป็นไข้หวัดและไม่เป็นไข้หวัด จะเห็นได้ว่าวัฒนธรรมการกินของคนไทยจะเลือกพืชผักที่มีสีสวยและกลิ่นหอม สีสดๆ อาทิ หอมแดง จะมีสารแอนตี้ออกซิเดนท์ ที่ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง ชนิดที่มีกลิ่นหอมเท่ากับน้ำมันหอมระเหย ส่วนผักที่มีรสเปรี้ยว ฝาด จะมีกรดวิตามินซีสูง เพิ่มความต้านทานไข้หวัด ในพืชผักในแต่ละท้องถิ่นเห็นถึงความแตกต่าง และเลือกนำมากินได้อย่างเหมาะสมและถูกวิธี
สำหรับพืชผักที่ควรนำมาบริโภคในช่วงไข้หวัดระบาดนี้ ได้แก่กลุ่มผักมีสี อาทิ กระเจี๊ยบแดง มะเขือเทศ มะละกอ กลุ่มที่มีกลิ่นหอม อาทิ หอมแดง กระชาย มะตูม กลุ่มที่มี รสเปรี้ยว อาทิ สมอ มะขามป้อม ส่วนที่มีรสเผ็ดร้อน อาทิ ขิง ขมิ้น โหระพา กระเพรา กลุ่มรสฝาด อาทิ สมอไทย สมอพิเภก ชาเขียว สำหรับรสขม สะเดา เพกา(ลิ้นฟ้า) ซึ่งมีวิตามินซีสูงมาก
ทั้งนี้การเลือกกินและคุณประโยชน์ของผักชนิดต่างๆ โดยเฉพาะ “15 สุดยอดผักพื้นบ้าน” ที่มีคุณค่าสูงบริโภคได้หลายรูปแบบ และ “ 10 ผักสามัญประจำบ้าน” ที่ควรมีไว้ในทุกครัวเรือน ข้อมูลเหล่านี้จะมีเผยแพร่ให้ความรู้ จัดกลุ่ม วิธีการรับประทาน รวมทั้งการประยุกต์ทำอาหารได้ง่าย อร่อยและมีประโยชน์ ผู้ที่สนใจจะทำความรู้จักผักพื้นบ้านนานาชนิดเหล่านี้สามารถหาชมได้ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 2-6 กันยายน 2552 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
“เราควรดูแลป้องกันตนเอง ซึ่งเป็นการป้องกันที่มาจากการดูแลสุขภาพภายในร่างกายให้แข็งแรง ขณะที่การล้างมือ ใช้ช้อนกลาง ใส่หน้ากากอนามัย เป็นการป้องกันจากภายนอก”รศ.ดร พร้อมจิตกล่าว