ASTVผู้จัดการรายวัน - ผบ.หมู่ สภ.เมืองราชบุรี หน่วยกล้าตายร้อง ป.ป.ช.ตรวจสอบ ผบ.ตร.แต่งตั้งบุตรสาวเป็นตำรวจสัญญาบัตรมิชอบ ยันไม่เกี่ยวการเมือง โฆษก ตร.ร่อนเอกสารแจง มีความรู้ความสามารถด้านภาษา ได้รับการคัดเลือก ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกประการ ด้าน "ชัชจ์" อ้างบุตรชายเก่งภาษาอังกฤษ จึงถูกบรรจุเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร ทำหน้าที่ล่ามตามขั้นตอน
วานนี้(19 ส.ค.)ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด.ต.รัฐภูมิ โพธิ์ศรีดา ผบ.หมู่ สภ.เมืองราชบุรี เดินทางยื่นหนังสือถึงคณะกรรม ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบ กรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ไม่ให้ความเป็นธรรม ต่อข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่จบการศึกษาปริญญาโท และสอบผ่านเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรจำนวน 423 นาย สมัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็น ผบ.ตร.
ด.ต.รัฐภูมิ กล่าวว่า หลักฐานที่ยื่นเป็นกระบวนการทั้งหมดในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา มั่นใจว่าหลักฐานที่นำมาชัดเจน เพราะว่าการขึ้นบัญชีค้างเอาไว้ แล้วบอกว่า หากมีอัตราจะได้รับการแต่งตั้งโดยไม่มีการสอบ ขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งไปแล้วกว่า 3 พันอัตรา แต่ก็ยังมี 423 นาย ที่ยังค้างอยู่ ส่วนเรื่องหลักฐานที่กล่าวถึงการแต่งตั้งบุตรสาวของ พล.ต.อ.พัชรวาท ก็มีประกาศอยู่ในอินเตอร์เนตอย่างชัดเจน แต่เรื่องของบุตรสาวของ ผบ.ตร. นั้นมันเป็นประเด็นบังเอิญที่เพิ่งเข้ามาในช่วงนี้พอดี ซึ่งทางเราได้เรียกร้องสิทธิ ความเป็นธรรม ความถูกต้องให้สู่กระบวนการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาโดยตลอด 2 ปี ไม่มีการเว้นวรรคใดๆ ซึ่งทางเราไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว และก็ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องการเมือง
พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงคนใดเป็นคนบงการหรือหนุนหลังให้กระทำการเช่นนี้ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง นอกจากนี้ ขอให้สื่อเป็นกำลังใจให้ตนและนายทหารอีก 4 ร้อยกว่าคน
**โฆษก ตร.อ้างแต่งตั้งตามระเบียบ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รอง ผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แจกเอกสารชี้แจงกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บรรจุ น.ส.นวพร วงษ์สุวรรณ บุตรสาวของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.เข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจในสังกัดกองการต่างประเทศ
เอกสารดังกล่าวระบุว่า กองการต่างประเทศเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการติดต่อประสานงานในภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับต่างประเทศ จำเป็นต้องมีบุคลากรผู้มีความรู้ความสามารถทางภาษาต่างประเทศมาปฏิบัติงาน ทั้งนี้ ในการสรรหาบุคคลผู้มีความรู้ความสามารถทางภาษาต่างประเทศมาปฏิบัติงานดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะพิจารณาจากเหตุผลความจำเป็นที่กองการต่างประเทศเสนอขอในแต่ละครั้งคราว โดยที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการพิจารณาอนุมัติให้ กองการต่างประเทศ ดำเนินการรับสมัครและคัดเลือกบุคคลภายนอกผู้มีความรู้ความสามารถทางภาษาต่างประเทศต่างๆ เช่น ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เป็นต้น เพื่อบรรจุเข้ารับราชการในสังกัดตามเหตุผลความจำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนผู้ปฏิบัติงานให้แก่กองการต่างประเทศมาโดยตลอด
กรณีนี้ กองการต่างประเทศได้เสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขออนุมัติรับสมัครและคัดเลือกบุคคลภายนอกเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนกำลังพลในระดับรองสารวัตร (ทำหน้าที่วิเทศสัมพันธ์) ให้แก่ ฝ่ายการต่างประเทศ 3 กองการต่างประเทศ เนื่องจากมีรองสารวัตร อยู่ปฏิบัติหน้าที่เพียง 2 นาย จากจำนวนตำแหน่งที่ได้รับการกำหนดไว้ 7 ตำแหน่ง แต่งานในความรับผิดชอบ คือ การติดต่อและประสานงานกับองค์กรหรือหน่วยงานใน ต่างประเทศในด้านความช่วยเหลือและความร่วมมือด้านกิจการตำรวจ รวมทั้งการจัดการระหว่างประเทศทั้งในภูมิภาคและนานาชาติ มีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากตามความเจริญเติบโตของประเทศ และสถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติ โดยได้ขออนุมัติรับสมัครและคัดเลือกบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิปริญญาโททางสังคมศาสตร์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยต้องผ่านการทดสอบพื้นฐานความรู้ภาษาต่างประเทศจากคณะกรรมการทดสอบภาษาต่างประเทศ เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ ฝ่ายการต่างประเทศ 3 กองการต่างประเทศ โดยใช้วิธีการคัดเลือก และเมื่อผ่านการอบรมตามระเบียบแล้วจึงแต่งตั้งเลื่อนชั้นเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร ดำรงตำแหน่งรองสารวัตร ฝ่ายการต่างประเทศ 3 กองการต่างประเทศ
กรณีดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้พิจารณาเหตุผลความจำเป็นแล้วเห็นว่า การสนับสนุนกำลังพลให้กับกองการต่างประเทศจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานและสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยรวม จึงได้เห็นชอบให้ กองการต่างประเทศดำเนินการได้ตามที่เสนอ ต่อมากองการต่างประเทศได้ดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยในกระบวนการคัดเลือกกำหนดให้มีการทดสอบความรู้ความสามารถด้านภาษาต่างประเทศ สัมภาษณ์เพื่อดูบุคลิกภาพ และตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆ ตามกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ที่ได้รับการคัดเลือก คือ น.ส.นวพร วงษ์สุวรรณ ซึ่งมีวุฒิปริญญาตรี รัฐศาสตร์การทูต สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (เกียรตินิยม) จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมีวุฒิ MASTER OF INTERNATIONAL RELATIONS จาก MACQUARIE UNIVERSITY ประเทศออสเตรเลีย ตรงกับความต้องการของกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้ดำเนินการบรรจุแต่งตั้งผู้นี้เข้ารับราชการ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกประการ
**"ชัชจ์"อ้างลูกชายสมัครตามขั้นตอน
พล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อดีตผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (บชก.)กล่าวถึงการแต่งตั้ง ส.ต.ต.ทรงพันธุ์ กุลดิลก บุตรชาย เป็น นายตำรวจชั้นสัญญาบัตรโดยลัดขั้นตอนว่า บุตรชายของตนเรียนจบปริญญาโทด้านรัฐศาสตร์มาจากประเทศอังกฤษ เขาอยากเป็นตำรวจเลยมาสมัครตามขั้นตอน ในประเภทวุฒิการศึกษาที่ขาดแคลน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญที่ทาง สตช. ต้องการเฉพาะด้าน อาทิ เภสัช แพทย์ โดยบุตรชายของตนมีความรู้เชี่ยวชาญ ด้านภาษา ทาง สตช.จึงต้องการให้มาเป็นล่ามเพื่อประสานงานกับตำรวจสากล ทุกอย่างเป็นไปตามระบบ แต่ที่มีการร้องเรียนคาดว่าเด็กกลุ่มนี้ไม่รู้ระบบนี้ จึงถูกยุแหย่จัดฉากมาร้องคณะกรรมาธิการฯ ถ้าเขารู้ขั้นตอนเหล่านี้ก็คงไม่ออกมา เพราะตำรวจชั้นประทวนจะมาทำหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไม่ได้
พอมีข่าวออกมา ผมได้คุยกับลูกชายแล้ว เดิมเขามาปรึกษาว่าต้องการจะลาออกไปเรียนต่อปริญญาเอก พอมาเจอเรื่องนี้เข้าไปอีก เลยยิ่งอยากออก แต่ผมบอกไปว่าอย่าไปกลัว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ในเมื่อเราไม่ทำอะไรผิด ก็ไม่ต้องไปกลัว ถ้าใครมาว่าลูกโดยไม่ตรงข้อเท็จจริง ผมจะฟ้องให้ เรื่องนี้คิดว่า เป็นขบวนการที่พยายามดิสเครดิตผม ที่ออกมาวิจารณ์เรื่องการแทรกแซง ในองค์กรตำรวจ
วานนี้(19 ส.ค.)ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด.ต.รัฐภูมิ โพธิ์ศรีดา ผบ.หมู่ สภ.เมืองราชบุรี เดินทางยื่นหนังสือถึงคณะกรรม ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบ กรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ไม่ให้ความเป็นธรรม ต่อข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่จบการศึกษาปริญญาโท และสอบผ่านเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรจำนวน 423 นาย สมัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็น ผบ.ตร.
ด.ต.รัฐภูมิ กล่าวว่า หลักฐานที่ยื่นเป็นกระบวนการทั้งหมดในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา มั่นใจว่าหลักฐานที่นำมาชัดเจน เพราะว่าการขึ้นบัญชีค้างเอาไว้ แล้วบอกว่า หากมีอัตราจะได้รับการแต่งตั้งโดยไม่มีการสอบ ขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งไปแล้วกว่า 3 พันอัตรา แต่ก็ยังมี 423 นาย ที่ยังค้างอยู่ ส่วนเรื่องหลักฐานที่กล่าวถึงการแต่งตั้งบุตรสาวของ พล.ต.อ.พัชรวาท ก็มีประกาศอยู่ในอินเตอร์เนตอย่างชัดเจน แต่เรื่องของบุตรสาวของ ผบ.ตร. นั้นมันเป็นประเด็นบังเอิญที่เพิ่งเข้ามาในช่วงนี้พอดี ซึ่งทางเราได้เรียกร้องสิทธิ ความเป็นธรรม ความถูกต้องให้สู่กระบวนการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาโดยตลอด 2 ปี ไม่มีการเว้นวรรคใดๆ ซึ่งทางเราไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว และก็ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องการเมือง
พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงคนใดเป็นคนบงการหรือหนุนหลังให้กระทำการเช่นนี้ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง นอกจากนี้ ขอให้สื่อเป็นกำลังใจให้ตนและนายทหารอีก 4 ร้อยกว่าคน
**โฆษก ตร.อ้างแต่งตั้งตามระเบียบ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รอง ผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แจกเอกสารชี้แจงกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บรรจุ น.ส.นวพร วงษ์สุวรรณ บุตรสาวของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.เข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจในสังกัดกองการต่างประเทศ
เอกสารดังกล่าวระบุว่า กองการต่างประเทศเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการติดต่อประสานงานในภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับต่างประเทศ จำเป็นต้องมีบุคลากรผู้มีความรู้ความสามารถทางภาษาต่างประเทศมาปฏิบัติงาน ทั้งนี้ ในการสรรหาบุคคลผู้มีความรู้ความสามารถทางภาษาต่างประเทศมาปฏิบัติงานดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะพิจารณาจากเหตุผลความจำเป็นที่กองการต่างประเทศเสนอขอในแต่ละครั้งคราว โดยที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการพิจารณาอนุมัติให้ กองการต่างประเทศ ดำเนินการรับสมัครและคัดเลือกบุคคลภายนอกผู้มีความรู้ความสามารถทางภาษาต่างประเทศต่างๆ เช่น ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เป็นต้น เพื่อบรรจุเข้ารับราชการในสังกัดตามเหตุผลความจำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนผู้ปฏิบัติงานให้แก่กองการต่างประเทศมาโดยตลอด
กรณีนี้ กองการต่างประเทศได้เสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขออนุมัติรับสมัครและคัดเลือกบุคคลภายนอกเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนกำลังพลในระดับรองสารวัตร (ทำหน้าที่วิเทศสัมพันธ์) ให้แก่ ฝ่ายการต่างประเทศ 3 กองการต่างประเทศ เนื่องจากมีรองสารวัตร อยู่ปฏิบัติหน้าที่เพียง 2 นาย จากจำนวนตำแหน่งที่ได้รับการกำหนดไว้ 7 ตำแหน่ง แต่งานในความรับผิดชอบ คือ การติดต่อและประสานงานกับองค์กรหรือหน่วยงานใน ต่างประเทศในด้านความช่วยเหลือและความร่วมมือด้านกิจการตำรวจ รวมทั้งการจัดการระหว่างประเทศทั้งในภูมิภาคและนานาชาติ มีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากตามความเจริญเติบโตของประเทศ และสถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติ โดยได้ขออนุมัติรับสมัครและคัดเลือกบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิปริญญาโททางสังคมศาสตร์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยต้องผ่านการทดสอบพื้นฐานความรู้ภาษาต่างประเทศจากคณะกรรมการทดสอบภาษาต่างประเทศ เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ ฝ่ายการต่างประเทศ 3 กองการต่างประเทศ โดยใช้วิธีการคัดเลือก และเมื่อผ่านการอบรมตามระเบียบแล้วจึงแต่งตั้งเลื่อนชั้นเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร ดำรงตำแหน่งรองสารวัตร ฝ่ายการต่างประเทศ 3 กองการต่างประเทศ
กรณีดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้พิจารณาเหตุผลความจำเป็นแล้วเห็นว่า การสนับสนุนกำลังพลให้กับกองการต่างประเทศจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานและสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยรวม จึงได้เห็นชอบให้ กองการต่างประเทศดำเนินการได้ตามที่เสนอ ต่อมากองการต่างประเทศได้ดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยในกระบวนการคัดเลือกกำหนดให้มีการทดสอบความรู้ความสามารถด้านภาษาต่างประเทศ สัมภาษณ์เพื่อดูบุคลิกภาพ และตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆ ตามกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ที่ได้รับการคัดเลือก คือ น.ส.นวพร วงษ์สุวรรณ ซึ่งมีวุฒิปริญญาตรี รัฐศาสตร์การทูต สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (เกียรตินิยม) จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมีวุฒิ MASTER OF INTERNATIONAL RELATIONS จาก MACQUARIE UNIVERSITY ประเทศออสเตรเลีย ตรงกับความต้องการของกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้ดำเนินการบรรจุแต่งตั้งผู้นี้เข้ารับราชการ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกประการ
**"ชัชจ์"อ้างลูกชายสมัครตามขั้นตอน
พล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อดีตผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (บชก.)กล่าวถึงการแต่งตั้ง ส.ต.ต.ทรงพันธุ์ กุลดิลก บุตรชาย เป็น นายตำรวจชั้นสัญญาบัตรโดยลัดขั้นตอนว่า บุตรชายของตนเรียนจบปริญญาโทด้านรัฐศาสตร์มาจากประเทศอังกฤษ เขาอยากเป็นตำรวจเลยมาสมัครตามขั้นตอน ในประเภทวุฒิการศึกษาที่ขาดแคลน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญที่ทาง สตช. ต้องการเฉพาะด้าน อาทิ เภสัช แพทย์ โดยบุตรชายของตนมีความรู้เชี่ยวชาญ ด้านภาษา ทาง สตช.จึงต้องการให้มาเป็นล่ามเพื่อประสานงานกับตำรวจสากล ทุกอย่างเป็นไปตามระบบ แต่ที่มีการร้องเรียนคาดว่าเด็กกลุ่มนี้ไม่รู้ระบบนี้ จึงถูกยุแหย่จัดฉากมาร้องคณะกรรมาธิการฯ ถ้าเขารู้ขั้นตอนเหล่านี้ก็คงไม่ออกมา เพราะตำรวจชั้นประทวนจะมาทำหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไม่ได้
พอมีข่าวออกมา ผมได้คุยกับลูกชายแล้ว เดิมเขามาปรึกษาว่าต้องการจะลาออกไปเรียนต่อปริญญาเอก พอมาเจอเรื่องนี้เข้าไปอีก เลยยิ่งอยากออก แต่ผมบอกไปว่าอย่าไปกลัว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ในเมื่อเราไม่ทำอะไรผิด ก็ไม่ต้องไปกลัว ถ้าใครมาว่าลูกโดยไม่ตรงข้อเท็จจริง ผมจะฟ้องให้ เรื่องนี้คิดว่า เป็นขบวนการที่พยายามดิสเครดิตผม ที่ออกมาวิจารณ์เรื่องการแทรกแซง ในองค์กรตำรวจ