ททท.เด้งรับนโยบายนายกฯ สั่งทำยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ 14 ล้านคน สั่งทุกสำนักงานในต่างประเทศ ทำแผนเชิงรุกจู่โจมแบบอินมาร์เก็ตดึงนักท่องเที่ยวเร่งด่วน เน้น จีน อินเดีย เป็นพิเศษ ด้วยงบ 715 ล้านบาท จากโครงการไทยเข้มแข็ง
น.ส.เพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าด้านบริหาร และรักษาการผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ททท.อยู่ระหว่างการปรับแผนการตลาดด้านการท่องเที่ยว ให้สอดคล้องกับแนวทางที่นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้ ททท.ดำเนินการกระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ได้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสิ้นปีนี้ที่ 14 ล้านคน โดยสั่งการให้ผู้อำนวยสำนักงาน ททท.ในต่างประเทศทั้ง 22 แห่ง ไปจัดทำแผนการตลาดในรูปแบบอินมาร์เก็ต แบบเจาะลึกในรายละเอียดว่า จะต้องทำอะไร อย่างไรกับใครบ้าง พร้อมกำหนดเป้าหมายว่าจะสามารถนำนักท่องเที่ยวเข้ามาได้จำนวนเท่าใด โดยให้เสร็จพร้อมส่งรายงานมาให้ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อที่จะนำเสนอต่อนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อพิจารณษในสัปดาห์หน้า
“ในรายละเอียดของการจัดทำแผน แต่ละสำนักงานต้องเขียนแผนมาให้ชัดเจนในเรื่องของการวางแผนการใช้สื่อให้เหมาะสมแก่นักท่องเที่ยวเป้าหมายในตลาดนั้นๆ ตลอดจนการจับมือกับการหาพันธมิตรส่งเสริมการตลาดร่วมกันแบบได้ผลทันทีทันใด พร้อมกำหนดเป้าหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวที่จะนำมาได้ งบประมาณที่จะต้องใช้เพื่อให้บรรลุผลการทำงาน เพื่อทำเรื่องเบิกจ่ายงบประมาณ”
ทั้งนี้แผนงานที่แต่ละสำนักงานฯเสนอมา หากได้รับการพิจารณาจากนายชุมพล ก็จะทำเรื่องขอเบิกเงินจากโครงการไทยเข้มแข็ง ซึ่ง ททท.ได้รับจัดสรรวงเงินไว้ที่ 715 ล้านบาท โดยเงื่อนไขการขอใช้วงเงินก้อนนี้ จะต้องทำโครงการไปนำเสนอเพื่อขอเบิกงบประมาณ เพราะเป็นเงินที่รัฐบาลกู้มาจากประชาชน ซึ่งต่างจากงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจงวดก่อนๆที่ได้มา เป็นเงินจากงบประมาณ
โดยเงื่อนไขการใช้เงินในโครงการไทยเข้มแข็งนี้ จะต้องทำเป้าหมายนักท่องเที่ยวให้ได้ตามที่แจ้งไว้ และต้องเห็นผลรวดเร็วเป็นรูปธรรมภายในปีนี้ ต่างจากการใช้งบทุกครั้งของททท.ในช่วงที่ผ่านมา จะเน้นจะส่งเสริม การสร้างภาพลักษณ์เพื่อให้เกิดผลในอนาคต
สำหรับรูปแบบ เบื้องต้น ททท.จะเน้นตลาดระยะใกล้ ที่เดินทางได้เร็วระยะ 3-5 ชั่วโมงบิน โดยเฉพาะตลาดจีนและอินเดีย ซึ่งไทยมีโลเกชั่นที่ได้เปรียบ เพราะทั้ง 2 ประเทศ มีประชากรมากประเทศละกว่า 1 พันคน ใช้ระยะเวลาเดินทางมาประเทศไทยได้เร็ว เพราะระยะทางใกล้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดจีน จะใช้วิธีเจรจากับบริษัทนำเที่ยวยักษ์ใหญ่ 3 ราย เพื่อจัดส่งเสริมการขายแบบได้ผลทันทีทันใด ดึงนักท่องเที่ยวชาวจีนมาให้ได้มากที่สุด โดยจะเสนอให้อินเซนทีฟแก่บริษัททัวร์ ที่ทำได้ตามเป้าหมายที่ตกลงร่วมกัน โดยวงเงิน 715 ล้านบาท จากโครงการไทยเข้มแข็ง ททท.วางแผนว่า จะใช้สำหรับต่างประเทศ 200 ล้านบาท เพื่อตั้งสำนักงาน ททท.ที่ เฉินตู ประเทศจีน และ จากาต้า ประเทศอินโดนีเซีย อีก 15 ล้านบาท ใช้ตั้งสำนักงานในประเทศที่ จ. ลพบุรี ส่วนอีก 500 ล้านบาท ใช้เพื่อกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ
น.ส.เพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าด้านบริหาร และรักษาการผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ททท.อยู่ระหว่างการปรับแผนการตลาดด้านการท่องเที่ยว ให้สอดคล้องกับแนวทางที่นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้ ททท.ดำเนินการกระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ได้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสิ้นปีนี้ที่ 14 ล้านคน โดยสั่งการให้ผู้อำนวยสำนักงาน ททท.ในต่างประเทศทั้ง 22 แห่ง ไปจัดทำแผนการตลาดในรูปแบบอินมาร์เก็ต แบบเจาะลึกในรายละเอียดว่า จะต้องทำอะไร อย่างไรกับใครบ้าง พร้อมกำหนดเป้าหมายว่าจะสามารถนำนักท่องเที่ยวเข้ามาได้จำนวนเท่าใด โดยให้เสร็จพร้อมส่งรายงานมาให้ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อที่จะนำเสนอต่อนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อพิจารณษในสัปดาห์หน้า
“ในรายละเอียดของการจัดทำแผน แต่ละสำนักงานต้องเขียนแผนมาให้ชัดเจนในเรื่องของการวางแผนการใช้สื่อให้เหมาะสมแก่นักท่องเที่ยวเป้าหมายในตลาดนั้นๆ ตลอดจนการจับมือกับการหาพันธมิตรส่งเสริมการตลาดร่วมกันแบบได้ผลทันทีทันใด พร้อมกำหนดเป้าหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวที่จะนำมาได้ งบประมาณที่จะต้องใช้เพื่อให้บรรลุผลการทำงาน เพื่อทำเรื่องเบิกจ่ายงบประมาณ”
ทั้งนี้แผนงานที่แต่ละสำนักงานฯเสนอมา หากได้รับการพิจารณาจากนายชุมพล ก็จะทำเรื่องขอเบิกเงินจากโครงการไทยเข้มแข็ง ซึ่ง ททท.ได้รับจัดสรรวงเงินไว้ที่ 715 ล้านบาท โดยเงื่อนไขการขอใช้วงเงินก้อนนี้ จะต้องทำโครงการไปนำเสนอเพื่อขอเบิกงบประมาณ เพราะเป็นเงินที่รัฐบาลกู้มาจากประชาชน ซึ่งต่างจากงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจงวดก่อนๆที่ได้มา เป็นเงินจากงบประมาณ
โดยเงื่อนไขการใช้เงินในโครงการไทยเข้มแข็งนี้ จะต้องทำเป้าหมายนักท่องเที่ยวให้ได้ตามที่แจ้งไว้ และต้องเห็นผลรวดเร็วเป็นรูปธรรมภายในปีนี้ ต่างจากการใช้งบทุกครั้งของททท.ในช่วงที่ผ่านมา จะเน้นจะส่งเสริม การสร้างภาพลักษณ์เพื่อให้เกิดผลในอนาคต
สำหรับรูปแบบ เบื้องต้น ททท.จะเน้นตลาดระยะใกล้ ที่เดินทางได้เร็วระยะ 3-5 ชั่วโมงบิน โดยเฉพาะตลาดจีนและอินเดีย ซึ่งไทยมีโลเกชั่นที่ได้เปรียบ เพราะทั้ง 2 ประเทศ มีประชากรมากประเทศละกว่า 1 พันคน ใช้ระยะเวลาเดินทางมาประเทศไทยได้เร็ว เพราะระยะทางใกล้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดจีน จะใช้วิธีเจรจากับบริษัทนำเที่ยวยักษ์ใหญ่ 3 ราย เพื่อจัดส่งเสริมการขายแบบได้ผลทันทีทันใด ดึงนักท่องเที่ยวชาวจีนมาให้ได้มากที่สุด โดยจะเสนอให้อินเซนทีฟแก่บริษัททัวร์ ที่ทำได้ตามเป้าหมายที่ตกลงร่วมกัน โดยวงเงิน 715 ล้านบาท จากโครงการไทยเข้มแข็ง ททท.วางแผนว่า จะใช้สำหรับต่างประเทศ 200 ล้านบาท เพื่อตั้งสำนักงาน ททท.ที่ เฉินตู ประเทศจีน และ จากาต้า ประเทศอินโดนีเซีย อีก 15 ล้านบาท ใช้ตั้งสำนักงานในประเทศที่ จ. ลพบุรี ส่วนอีก 500 ล้านบาท ใช้เพื่อกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ