ASTVผู้จัดการรายวัน- ทอท.จับมือตำรวจโชว์ "ผักชี" จับกลุ่มแท็กซี่ป้ายดำได้กว่า 200 ราย ไกด์ผี 83 ราย หลังนายกณ รุดลงพื้นที่จี้ด้วยตัวเองหวังปราบแก๊งมาเฟียในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ “อภิสิทธิ์”ขึงขังพร้อมปราบมาเฟียสั่งออกมาตรการคุมเข้มทุกส่วน พร้อมสั่งเบรกแผนขอขึ้นค่าโดยสารยันรัฐลดดีเซลให้แล้วและยังไม่ถึง 30 บาทต่อลิตร
นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานกรรมการบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชนหรือทอท. เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการตั้งคณะอนุกรรมการเข้ามาตรวจสอบในเรื่องระบบขนส่งและการให้บริการผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งมีหลายหน่วยงานเข้าร่วมดำเนินการตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม มาจนถึงปัจจุบันสามารถจับกุมแท็กซี่ป้ายได้ 205 ราย หลังจากกระทำการผิดกฎหมาย นำรถส่วนบุคคลมาให้บริการ
พร้อมกันนี้ยังสามารถจับกุมกลุ่มไกด์ผีได้ถึง 83 ราย ซึ่งขณะนี้ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่วันละกว่า 100 คน ออกตระเวรดูแลความเรียบร้อยบริเวณภายใน และภายนอกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมกับติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มอีก 30 กล้อง ขณะเดียวกันได้เข้มงวดในเรื่องของแท็กซี่สาธารณะให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ของการท่าอากาศยาน และมีการเพิ่มเที่ยวรถแท็กซี่สาธารณะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวอย่างเพียงพอ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ได้เดินทางไปตรวจปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วยตนเอง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีข่าวคราวไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องของสนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการไปกลั่นแกล้งนักท่องเที่ยว ในเรื่องว่าเขาไปขโมย ของจากร้านค้าปลอดภาษีหรือไม่ กระบวนการว่าเมื่อถูกจับไปแล้ว ถูกรีดไถ หรือว่าถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินหรืออะไรต่างๆ รวมไปจนถึงปัญหาทั้งไกด์ผี แท็กซี่ที่ไม่ถูกกฎหมาย รวมไปถึงเรื่องของปัญหาของหาย สำหรับคนที่เดินทาง กระเป๋าขาเข้า-ขาออก โดยได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมา
ทั้งนี้คงจะต้องออกมาตรการที่ทำให้เห็นว่ากลุ่มมิจฉาชีพจะไม่สามารถกระทำความผิดในพื้นที่ได้อีกตั้งแต่เรื่อง ร้านค้าปลอดภาษีจะต้องติดป้ายให้เกิดความชัดเจนว่าสินค้าราคาเท่าไหร่ จุดจ่ายเงินอยุ่จุดไหน และจุดใดที่ห้ามนำสินค้าออกมา รวมถึงสถานีตำรวจที่จะต้องมีการสืบสวนสอบสวนเอาผิดกับผู้กระทำผิดแบบครบวงจรไม่ให้ยืดเยื้อ ส่วนปัญหาการกรีดกระเป๋าจะต้องมีการติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม
“ได้เดินตรวจและรับทราบปัญหาในทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้านค้าปลอดภาษี รวมถึงขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนผู้กระทำความผิด ปัญหารถแท็กซี่เถื่อน การกรีดกระเป๋าของนักท่องเที่ยว ปัญหาผู้มีอิทธิพล รวมถึงข้าราชการที่วางตัวเป็นกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งได้ทำความเข้าใจกับผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องของการท่าอากาศายานสุวรรณภูมิแล้ว โดยจะมีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และให้เกิดความมั่นใจต่อนักท่องเที่ยว”นายกรัฐมนตรีกล่าว
สำหรับมาตรการที่พูดคุยตกลงกัน จะมีการนำเสนอผ่านทางกระทรวง หลักๆ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กลับไปสู่คณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง และน่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น รวมถึงได้ให้ผู้เกี่ยวข้องไปชี้แจง ทั้งต่อสถานทูต และผู้สื่อข่าวต่างประเทศด้วย เพื่อขจัดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นข่าวคราวไปทั่วโลก 2-3 เหตุการณ์
**เบรกขึ้นค่าโดยสาร
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ระบุไม่มีเหตุผลอะไรที่ผู้ประกอบการขนส่งจะขึ้นค่าโดยสารหรือเพิ่มภาระให้ประชาชนอีก หลังรัฐบาลลดราคาน้ำมันดีเซลลงได้ลิตรละ 2 บาท ซึ่งขณะนี้ราคาไม่ถึง 30 บาท/ลิตร อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าหากราคาน้ำมันขยับขึ้นในตลาดโลกอีกรัฐบาลจะมีมาตรการเพิ่มเติมและอาจจะเริ่มใช้มาตรการทางด้านภาษีสรรพสามิตมาพิจารณาในอนาคต พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหากรณีที่ได้รับข้อร้องเรียนจากเกษตรกรกรณีการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนศรีนครินทร์จนสร้างความเสียหายแก่เกษตรกรจำนวนมาก
**กฟผ.รับผิดแต่ต้องดูแลไฟภาพรวม
นายกิตติ ตันเจริญ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ กล่าวว่า ยินดีชดใช้ค่าเสียหายแก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำจากเขื่อนวชิราลงกรณ์ และเขื่อนศรีนครินทร์ช่วง1-2วันที่ผ่านมาจนล้นทะลักเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านที่อยู่ท้ายเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนท่าทุ่งนา อ.เมือง อ.ศรีสวัสดิ์ และ.อ.ไทรโยก จ.กาญจนบุรี จนได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยขอให้ชาวบ้านแจ้งไปยังเขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนท่าทุ่งนา ว่าได้รับความเสียหายอะไรบ้าง โดยทางเขื่อนจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ กฟผ.ออกสำรวจและประเมินค่าเสียหายให้
“เราต้องเดินเครื่องผลิตไฟจากน้ำกระทันหันกเพื่อไม่ให้ไฟขาดเพราะพม่าไม่ส่งก๊าซให้ไทยเนื่องจากมีปัญหาทางเทคนิคไม่เกี่ยวกับการเมืองคิดเป็นไฟ 10,000 เมกะวัตต์หากไม่ผลิตแทนจะมีปัญหาไฟฟ้าทั้งระบบได้แต่ขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว”
นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานกรรมการบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชนหรือทอท. เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการตั้งคณะอนุกรรมการเข้ามาตรวจสอบในเรื่องระบบขนส่งและการให้บริการผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งมีหลายหน่วยงานเข้าร่วมดำเนินการตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม มาจนถึงปัจจุบันสามารถจับกุมแท็กซี่ป้ายได้ 205 ราย หลังจากกระทำการผิดกฎหมาย นำรถส่วนบุคคลมาให้บริการ
พร้อมกันนี้ยังสามารถจับกุมกลุ่มไกด์ผีได้ถึง 83 ราย ซึ่งขณะนี้ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่วันละกว่า 100 คน ออกตระเวรดูแลความเรียบร้อยบริเวณภายใน และภายนอกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมกับติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มอีก 30 กล้อง ขณะเดียวกันได้เข้มงวดในเรื่องของแท็กซี่สาธารณะให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ของการท่าอากาศยาน และมีการเพิ่มเที่ยวรถแท็กซี่สาธารณะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวอย่างเพียงพอ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ได้เดินทางไปตรวจปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วยตนเอง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีข่าวคราวไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องของสนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการไปกลั่นแกล้งนักท่องเที่ยว ในเรื่องว่าเขาไปขโมย ของจากร้านค้าปลอดภาษีหรือไม่ กระบวนการว่าเมื่อถูกจับไปแล้ว ถูกรีดไถ หรือว่าถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินหรืออะไรต่างๆ รวมไปจนถึงปัญหาทั้งไกด์ผี แท็กซี่ที่ไม่ถูกกฎหมาย รวมไปถึงเรื่องของปัญหาของหาย สำหรับคนที่เดินทาง กระเป๋าขาเข้า-ขาออก โดยได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมา
ทั้งนี้คงจะต้องออกมาตรการที่ทำให้เห็นว่ากลุ่มมิจฉาชีพจะไม่สามารถกระทำความผิดในพื้นที่ได้อีกตั้งแต่เรื่อง ร้านค้าปลอดภาษีจะต้องติดป้ายให้เกิดความชัดเจนว่าสินค้าราคาเท่าไหร่ จุดจ่ายเงินอยุ่จุดไหน และจุดใดที่ห้ามนำสินค้าออกมา รวมถึงสถานีตำรวจที่จะต้องมีการสืบสวนสอบสวนเอาผิดกับผู้กระทำผิดแบบครบวงจรไม่ให้ยืดเยื้อ ส่วนปัญหาการกรีดกระเป๋าจะต้องมีการติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม
“ได้เดินตรวจและรับทราบปัญหาในทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้านค้าปลอดภาษี รวมถึงขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนผู้กระทำความผิด ปัญหารถแท็กซี่เถื่อน การกรีดกระเป๋าของนักท่องเที่ยว ปัญหาผู้มีอิทธิพล รวมถึงข้าราชการที่วางตัวเป็นกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งได้ทำความเข้าใจกับผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องของการท่าอากาศายานสุวรรณภูมิแล้ว โดยจะมีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และให้เกิดความมั่นใจต่อนักท่องเที่ยว”นายกรัฐมนตรีกล่าว
สำหรับมาตรการที่พูดคุยตกลงกัน จะมีการนำเสนอผ่านทางกระทรวง หลักๆ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กลับไปสู่คณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง และน่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น รวมถึงได้ให้ผู้เกี่ยวข้องไปชี้แจง ทั้งต่อสถานทูต และผู้สื่อข่าวต่างประเทศด้วย เพื่อขจัดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นข่าวคราวไปทั่วโลก 2-3 เหตุการณ์
**เบรกขึ้นค่าโดยสาร
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ระบุไม่มีเหตุผลอะไรที่ผู้ประกอบการขนส่งจะขึ้นค่าโดยสารหรือเพิ่มภาระให้ประชาชนอีก หลังรัฐบาลลดราคาน้ำมันดีเซลลงได้ลิตรละ 2 บาท ซึ่งขณะนี้ราคาไม่ถึง 30 บาท/ลิตร อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าหากราคาน้ำมันขยับขึ้นในตลาดโลกอีกรัฐบาลจะมีมาตรการเพิ่มเติมและอาจจะเริ่มใช้มาตรการทางด้านภาษีสรรพสามิตมาพิจารณาในอนาคต พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหากรณีที่ได้รับข้อร้องเรียนจากเกษตรกรกรณีการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนศรีนครินทร์จนสร้างความเสียหายแก่เกษตรกรจำนวนมาก
**กฟผ.รับผิดแต่ต้องดูแลไฟภาพรวม
นายกิตติ ตันเจริญ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ กล่าวว่า ยินดีชดใช้ค่าเสียหายแก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำจากเขื่อนวชิราลงกรณ์ และเขื่อนศรีนครินทร์ช่วง1-2วันที่ผ่านมาจนล้นทะลักเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านที่อยู่ท้ายเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนท่าทุ่งนา อ.เมือง อ.ศรีสวัสดิ์ และ.อ.ไทรโยก จ.กาญจนบุรี จนได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยขอให้ชาวบ้านแจ้งไปยังเขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนท่าทุ่งนา ว่าได้รับความเสียหายอะไรบ้าง โดยทางเขื่อนจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ กฟผ.ออกสำรวจและประเมินค่าเสียหายให้
“เราต้องเดินเครื่องผลิตไฟจากน้ำกระทันหันกเพื่อไม่ให้ไฟขาดเพราะพม่าไม่ส่งก๊าซให้ไทยเนื่องจากมีปัญหาทางเทคนิคไม่เกี่ยวกับการเมืองคิดเป็นไฟ 10,000 เมกะวัตต์หากไม่ผลิตแทนจะมีปัญหาไฟฟ้าทั้งระบบได้แต่ขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว”