xs
xsm
sm
md
lg

"เนวิน"รับกรรมกล้ายาง ป.ป.ช.ลั่นชนะ100%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - "เนวิน" รับบ่าย 2 โผล่แน่!! ลั่นน้อมรับคำตัดสินศาลคดีกล้ายาง พร้อมสั่งลูกพรรคให้ทำใจยอมรับทุกสถานการณ์ ขอร้องกองเชียร์อยู่ที่บ้าน ด้านศาลฎีกาฯ ประสานตำรวจรักษาความสงบเรียบร้อย องค์คณะฯ พร้อมประชุมลับลงมติช่วงเช้าก่อนนั่งบัลลังก์ตัดสินช่วงบ่าย ขณะที่ทนายป.ป.ช.มั่นใจชนะคดี 100 %

วานนี้(16 ส.ค.) นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการนัดฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันนี้(17 ส.ค.) ว่า จะเดินทางไปรับฟังคำพิพากษาของศาลฯ เวลา 14.00 น.อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ เมื่อถามว่าหากศาลพิพากษาจำคุกจะยื่นถวายฎีกา หรือไม่ นายเนวิน กล่าวว่า ยังไม่ได้คิด แต่จะทำทุกอย่างโดยสุจริต เมื่อถามว่ากลัวการปะทะกันระหว่างคนเสื้อแดง และคนที่ไปให้กำลังใจหรือไม่ นายเนวิน กล่าวว่า ไม่มีการจัดตั้งคนเข้ามา แต่หากใครจะเข้ามาก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัว อย่างไรก็ตามขอให้พวกพ้องของตนฟังผลอยู่ที่บ้าน เพื่อให้เกิดความสงบสุข และเจ้าหน้าที่จะได้ไม่หนักใจ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

ด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่า จะเดินทางไปให้กำลังใจนายเนวินที่ศาลฎีกา พร้อมทั้งปฏิเสธไม่ทราบข่าวที่มีการเกณฑ์คนจากต่างจังหวัดเข้ามาในกรุงเทพฯ และยังไม่ได้รับรายงานความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ และหากนายเนวิน ถูกตัดสินจำคุก พรรคก็มีแนวทางของพรรคที่จะต้องก้าวต่อไป ส่วนจะถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ ยังไม่ทราบต้องรอคำตัดสินก่อน

**สั่งลูกพรรคยอมรับทุกสถานการณ์
ขณะที่นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า นายเนวินจะเดินทางไปฟังคำพิพากษาอย่างแน่นอน โดยมีแกนนำและส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยเดินทางไปให้กำลังใจกับนายเนวิน และล่าสุดนายเนวิน ได้กล่าวกับส.ส.ของพรรคภท. ว่า ให้ทำใจยอมรับทุกสถานการณ์ไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาอย่างไร และยืนยันว่าโครงการกล้ายางเป็นโครงการที่มีเจตนารมณ์ที่ดี ที่ต้องการจะช่วยเหลือเกษตรที่มีฐานะยากจนในภาคอีสาน และโครงการนี้ได้ยึดหลักกฎหมายของบ้านเมืองเป็นหลัก อีกทั้งนายเนวินได้แสดงความมั่นใจว่าที่ผ่านมาได้ชี้แจงต่อศาลอย่างชัดเจนแล้ว โดยขณะนี้นายเนวินมีความสบายใจขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองว่าหากนายเนวินถูกศาลตัดสินว่ามีความผิด ก็อาจจะทำให้อนาคตของพรรคภูมิใจไทยจบลงไปด้วย นายศุภชัย กล่าวว่า ในวันนี้พวกเรามั่นใจในตัวของนายเนวิน และภาวนาให้ศาลมีความเมตตา แต่ก็ยอมรับว่านายเนวินมีบทบาทที่มีความสำคัญในการให้คำปรึกษากับพรรคภูมิใจไทย แต่เรื่องกระบวนการภายในพรรคก็เป็นเรื่องส.ส. และยังมีนายชวรัตน์ เป็นหัวหน้าพรรคคอยดูแลอยู่ จึงเชื่อว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรเกิดขึ้นกับนายเนวิน พรรคภูมิใจไทยก็จะยืนหยัดอยู่ได้

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าจะมีการปะทะ และสร้างสถานการณ์ฝ่ายเสื้อแดงและเสื้อน้ำเงิน นายศุภชัย กล่าวว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร ไม่มีการเตรียมคน และที่ศาลฎีกาเราก็จะไม่ใส่เสื้อน้ำเงิน เพราะจุดยืนของเราคือต้องการสร้างความสามัคคีในประเทศชาติ จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ไเด้ที่สร้างสถานการณ์ให้เกิดความล่อแหลม

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย แกนนำพรรคภูมิใจไทย อีกคน กล่าวว่า ในส่วนที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่ากลุ่มคนเสื้อน้ำเงินที่อาจจะเดินทางมาให้กำลังใจกับนายเนวิน ชิดชอบ ที่จะต้องมาขึ้นศาลเพื่อรับฟังคดีกล้ายาง และอาจจะเผชิญหน้ากับกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีการเกณฑ์ประชาชนจากฝ่ายใดมาให้กำลังใจนายเนวินฯอย่างแน่นอน นายเนวิน เป็นจำเลยก็ต้องมาฟังคำพิพากษาของศาล ส่วนใครจะมาให้กำลังใจอย่างไรไม่เกี่ยวข้องกับตนและกระทรวงมหาดไทย

**ศาลห้ามป่วน -ขอตร.ดูแล
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานการเตรียมความพร้อมของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในการนัดอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตจัดซื้อต้นกล้ายางพาราของกรมวิชาการเกษตร จำนวน 90 ล้านต้น มูลค่า 1,440 ล้านบาท ในวันนี้ (17 ส.ค.) เวลา 14.00 น.ว่า ศาลฎีกาฯ ได้ประสานขอกำลังสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม เพื่อร่วมดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณศาล กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ศาลจำนวนหนึ่ง เพื่อเตรียมการที่จะมีผู้สนับสนุนของกลุ่มจำเลยเดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษา

ทั้งนี้ ก่อนถึงเวลานัดฟังคำพิพากษา องค์คณะผู้พิพากษา รวม 9 คน ที่มีนายบุญรอด ตันประเสริฐ ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา เป็นเจ้าของสำนวน จะประชุมลับองค์คณะในช่วงเช้าวันที่ 17 ส.ค.ก่อน เพื่อพิจารณาลงมติข้อกล่าวหาแต่ละประเด็นว่าจำเลยมีความผิดตามข้อกล่าวหาหรือไม่ อย่างไร ซึ่งผู้พิพากษาแต่ละคนจะเขียนคำพิพากษาส่วนตัวมาเสนอต่อที่ประชุม แล้วร่วมกันพิจารณาลงคะแนนตัดสินในข้อกล่าวหาแต่ละประเด็น ก่อนเขียนคำพิพากษากลางซึ่งคำตัดสินจะเป็นไปตามมติเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมองค์คณะฯ โดยเมื่อได้คำพิพากษาแล้วจะทำการอ่านในช่วงบ่ายวันเดียวกันทันที

อย่างไรก็ตาม หากในวันดังกล่าวพบว่า มีจำเลย หรือทนายความรับมอบอำนาจ ยื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำพิพากษา องค์คณะฯ จะพิจารณาว่าจำเลยมีเหตุผล ความจำเป็นอย่างไร หากมีเหตุสมควร ที่มีเหตุผลเพียงพอ องค์คณะฯ สามารถใช้ดุลยพินิจเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาได้ที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะที่การเดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ก็มีระเบียบศาลฎีกาว่าด้วยการรักษาความเรียบร้อยในศาลหรือบริเวณศาล และการเข้าฟังการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2544 ซึ่งวางข้อกำหนดการเข้ามาในศาล หรือบริเวณศาล เพื่อรักษาความเรียบร้อยไว้ โดยบุคคลภายนอกที่จะเข้ามาในศาล หรือบริเวณศาล หรือห้องพิจารณาคดี ต้องแต่งการให้สุภาพและประพฤติตนให้เรียบร้อยห้ามส่งเสียงดัง เสพสุราและของมึนเมาอย่างอื่นจนเป็นเหตุประพฤติวุ่นวาย หรือกระทำการอื่นใดอันก่อให้เกิดความไม่เรียบร้อยในศาลหรือบริเวณศาล และห้ามนำอาวุธทุกชนิดเข้ามาในบริเวณศาล ส่วนการเข้าฟังการพิจารณาคดีของศาล ต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวข้าราชการหรือบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐมาแลกบัตรเข้าฟังการพิจารณาคดีที่แผนกประชาสัมพันธ์ของศาล ซึ่งก่อนหน้าการอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก ศาลฎีกาฯ ได้ใช้ระเบียบศาลฎีกาฯ ดังกล่าวเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในบริเวณด้วย

การอ่านคำพิพากษาทุจริตการจัดซื้อกล้ายางคดีนี้ นับเป็นคดีที่ 2 ที่เป็นการพิสูจน์คดีการทุจริตในคณะรัฐมนตรีสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อจากคดีทุจริตซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก มูลค่า 772 ล้านบาท ซึ่งศาลพิพากษาจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี และให้ยกฟ้อง คุณหญิงพจมาน ชินวัตร (ขณะนั้น)

**ทนายป.ป.ช.มั่นใจชนะแน่
ด้านนายเจษฎา อนุจารีย์ ทนายความ ป.ป.ช.ในคดีนี้ กล่าวว่า ขณะนี้ สบายใจดี ไม่เป็นห่วง และไม่รู้สึกกังวล เพราะคดีนี้ศาลฎีกาฯได้ดำเนินการไต่สวนตามกระบวนการยุติธรรม ให้โอกาสทั้งโจทก์-จำเลย นำพยานหลักฐานเข้าสู่กระบวนพิจารณาอย่างเต็มที่ ส่วนจำเลยทั้ง 44 คนจะเดินทางมาครบหรือไม่ ก็ต้องรอดู อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ นายเจษฎากล่าวว่า ถ้าถามโจทก์ว่ามั่นใจหรือไม่ ก็ต้องบอกว่ามั่นใจ 100% ว่าจะชนะคดี โดยความผิดที่ยื่นฟ้องคดีนี้ที่มีอัตราโทษสูงสุด คือ การทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และ 157 แต่ถ้าจะไปถามฝ่ายจำเลยก็คงได้รับตำตอบว่ามั่นใจเช่นกัน อย่างไรก็ดี ถ้าศาลจะพิพากษายกฟ้องในคดีนี้ก็ไม่กระทบกับคดีอื่นที่ คตส.สรุปสำนวนและยื่นฟ้องคดีเอง เพราะแต่ละคดีมีพฤติการณ์ ข้อเท็จจริงที่แตกต่าง

เมื่อซักต่อถึงการยื่นอุทธรณ์หากศาลพิพากษายกฟ้อง นายเจษฎากล่าวว่า แม้ตามรัฐธรรมนูญ มีบทบัญญัติให้ยื่นอุทธรณ์คดีได้ แต่ตามกฎหมายระบุไว้ว่าต้องเป็นกรณีที่มีพยานหลักฐานใหม่เท่านั้น

นายเจษฎากล่าวด้วยว่า หากศาลพิพากษายกฟ้อง แล้วจะมีจำเลยใช้สิทธิยื่นฟ้องกลับคดีอาญาและแพ่งต่อ คตส.หรือ ป.ป.ช.นั้นก็ไม่ห่วง เนื่องจากการทำหน้าที่ของ คตส.ในการสรุปสำนวนทุกคดี ทำตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายขณะนั้นให้อำนาจไว้ ขณะที่การทำความเห็นในคดี เป็นเรื่องของการตีความกฎหมาย ซึ่งระหว่างการทำความเห็น คตส.เองก็มีความเห็นแตกต่างกัน โดยมี คตส.เสียงข้างน้อยเห็นว่าการดำเนินการของคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ที่มีมติให้อนุมัติเงินใช้ในโครงการนั้น เป็นการดำเนินการตามนโยบายซึ่งไม่ควรรับผิดทางอาญา แต่น่าจะมีความรับผิดทางแพ่งที่ทำให้เกิดความเสียหาย ดังนั้นย่อมแสดงให้เห็นว่า การทำความเห็นสรุปสำนวนของ คตส.ไม่มีได้มีเจตนาใส่ร้าย กลั่นแกล้งบุคคลใด

“การตัดสินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีผู้พิพากษาชั้นผู้ใหญ่ระดับศาลฎีกา ที่มีความรู้ ความสามารถ และความซื่อสัตย์เป็นที่ไว้วางใจ ทำการตัดสิน ดังนั้นไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ทุกฝ่ายก็ต้องน้อมรับ จึงเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา” นายเจษฎาระบุ

สำหรับคดีนี้ ป.ป.ช.ยื่นฟ้อง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ ในฐานะประธาน คชก., นายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง ในฐานะ คชก., นายเนวิน ชิดชอบ อดีต รมช.เกษตรฯ ในฐานะผู้ริเริ่มโครงการ, นายสรอรรถ กลิ่นปทุม อดีต รมว.เกษตร ฯ และนายอดิศัย โพธารามิก อดีต รมว.พาณิชย์ ในฐานะ คชก. กับพวกรวม 44 คน
กำลังโหลดความคิดเห็น