ASTVผู้จัดการรายวัน-“รถร่วม บขส.-ขสมก.-เรือด่วน” เมินรัฐลดเงินกองทุนน้ำมัน ดาหน้าเตรียมเสนอขอขึ้นค่าโดยสาร ชี้ดีเซล บี 5 ลดแค่ 40สตางค์ ไม่มีผล เจ๊เกียว” หารือสมาชิกสัปดาห์หน้า คาดขอขึ้น 6สต./กม. รถร่วมขสมก. ขอขึ้น 2 บาท เรือด่วนชี้ต้องปรับค่าโดยสารเพราะน้ำมันเกิน 25 บาทต่อลิตร
นางสุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าสมาคมฯจะเรียกประชุมคณะกรรมการ เพื่อพิจารณาอัตราค่าโดยสารให้สอดคล้องตามสถานการณ์ของระดับราคาน้ำมันอีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้ระดับราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกภายในประเทศยังคงทรงตัวอยู่ในระดับที่สูง
แม้ว่าตามนโยบายรัฐบาลได้ปรับลดเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับลดลง โดยในส่วนของน้ำมันดีเซลบี 2 ลดลง 2 บาทต่อลิตร และดีเซลบี 5 ลดลง 40 สตางค์ต่อลิตรก็ตาม
“ตอนนี้ยังต้องรอดูก่อนว่าจะปรับขึ้นค่าโดยสารหรือไม่ ซึ่งสัปดาห์หน้าจะประชุมกัน คงจะได้ข้อสรุป แม้ว่ารัฐบาลจะปรับลดราคาน้ำมันลง แต่ลดลงเพียง 40 สตางค์เท่านั้น”นางสุจินดา กล่าว
มีรายงานข่าวว่า ในเบื้องต้นนั้น ผู้ประกอบการรถร่วมบขส.เตรียมขอปรับขึ้นค่าโดยสารอีกประมาณ 6 สตางค์ต่อกิโลเมตร เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ประกอบการได้ตรึงค่าโดยสารไว้ที่ระดับราคาน้ำมัน 20 บาทต่อลิตร
ก่อนหน้านี้นายฉัตรชัย ชัยวิเศษ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน องค์การขนส่งทวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า ทางสมาคมฯ เตรียมเข้ายื่นหนังสือต่อกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อขอปรับขึ้นค่าโดยสารอีก 2 บาท จากเดิมที่เก็บอยู่ 8 บาท เป็น 10 บาท ภายในเดือนส.ค.นี้
ด้านนาวาโทปริญญา รักวาทิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ในฐานะอุปนายกสมาคมเรือไทย กล่าวว่า ราคาน้ำมันดีเซลที่รัฐบาลได้ปรับลดลงมา 2 บาทต่อลิตรนั้น ยังเป็นระดับราคาที่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องปรับค่าโดยสาร ตามที่ได้ตกลงไว้กับกระทรวงคมนาคมก่อนหน้านี้ ซึ่งระบุว่า หากราคาน้ำมันดีเซลเกิน 25 บาทต่อลิตร ผู้ประกอบการก็สามารถปรับขึ้นค่าโดยสารได้ โดยภายในสัปดาห์หน้าบริษัทฯจะเข้ายื่นหนังสือต่อกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี (ขน.) เพื่อขอให้มีการพิจารณา โดย ราคาน้ำมันที่ลดลงมานั้น ราคาวัสดุที่ใช้ในการซ่อมบำรุงไม่ได้ปรับลดตามด้วย ซึ่งผู้ประกอบการก็แบกรับภาระดังกล่าวอยู่เป็นเวลานานแล้ว ส่วนจำนวนผู้โดยสารก็ได้ปรับลดลงมากกว่า 3,000 คนต่อวัน เนื่องจากมาตรการรถเมล์ฟรี ของรัฐบาล
นางสุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าสมาคมฯจะเรียกประชุมคณะกรรมการ เพื่อพิจารณาอัตราค่าโดยสารให้สอดคล้องตามสถานการณ์ของระดับราคาน้ำมันอีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้ระดับราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกภายในประเทศยังคงทรงตัวอยู่ในระดับที่สูง
แม้ว่าตามนโยบายรัฐบาลได้ปรับลดเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับลดลง โดยในส่วนของน้ำมันดีเซลบี 2 ลดลง 2 บาทต่อลิตร และดีเซลบี 5 ลดลง 40 สตางค์ต่อลิตรก็ตาม
“ตอนนี้ยังต้องรอดูก่อนว่าจะปรับขึ้นค่าโดยสารหรือไม่ ซึ่งสัปดาห์หน้าจะประชุมกัน คงจะได้ข้อสรุป แม้ว่ารัฐบาลจะปรับลดราคาน้ำมันลง แต่ลดลงเพียง 40 สตางค์เท่านั้น”นางสุจินดา กล่าว
มีรายงานข่าวว่า ในเบื้องต้นนั้น ผู้ประกอบการรถร่วมบขส.เตรียมขอปรับขึ้นค่าโดยสารอีกประมาณ 6 สตางค์ต่อกิโลเมตร เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ประกอบการได้ตรึงค่าโดยสารไว้ที่ระดับราคาน้ำมัน 20 บาทต่อลิตร
ก่อนหน้านี้นายฉัตรชัย ชัยวิเศษ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน องค์การขนส่งทวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า ทางสมาคมฯ เตรียมเข้ายื่นหนังสือต่อกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อขอปรับขึ้นค่าโดยสารอีก 2 บาท จากเดิมที่เก็บอยู่ 8 บาท เป็น 10 บาท ภายในเดือนส.ค.นี้
ด้านนาวาโทปริญญา รักวาทิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ในฐานะอุปนายกสมาคมเรือไทย กล่าวว่า ราคาน้ำมันดีเซลที่รัฐบาลได้ปรับลดลงมา 2 บาทต่อลิตรนั้น ยังเป็นระดับราคาที่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องปรับค่าโดยสาร ตามที่ได้ตกลงไว้กับกระทรวงคมนาคมก่อนหน้านี้ ซึ่งระบุว่า หากราคาน้ำมันดีเซลเกิน 25 บาทต่อลิตร ผู้ประกอบการก็สามารถปรับขึ้นค่าโดยสารได้ โดยภายในสัปดาห์หน้าบริษัทฯจะเข้ายื่นหนังสือต่อกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี (ขน.) เพื่อขอให้มีการพิจารณา โดย ราคาน้ำมันที่ลดลงมานั้น ราคาวัสดุที่ใช้ในการซ่อมบำรุงไม่ได้ปรับลดตามด้วย ซึ่งผู้ประกอบการก็แบกรับภาระดังกล่าวอยู่เป็นเวลานานแล้ว ส่วนจำนวนผู้โดยสารก็ได้ปรับลดลงมากกว่า 3,000 คนต่อวัน เนื่องจากมาตรการรถเมล์ฟรี ของรัฐบาล