ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์ประสานเสียงธุรกิจบัตรเครดิตครึ่งปีหลังมีโอกาสรุ่งกว่าช่วงที่ผ่านมา จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นหลังรัฐบาลเร่งอัดฉีดเงินออกมา ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน-ผู้บริโภคดีขึ้น คาดยอดใช้จ่ายผ่านบัตรโต 5% ขณะที่ยังมีการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาฐานลูกค้า
นางสาวอัญชลี จรัสยศวุฒิชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดบัตรเครดิต ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตโดยรวมในครึ่งหลังของปี 2552 นี้ว่า น่าจะมีทิศทางที่ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเติบโตของการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตหรือการเติบโตของยอดบัตรใหม่ ทั้งนี้ ปัจจัยหลักมาจากการพิจารณาจากภาพรวมเศรษฐกิจที่คาดว่าแนวโน้มจะฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในแง่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภค หลังจากที่มีเม็ดเงินจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเข้ามาในระบบค่อนข้างมาก อีกทั้งช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงของการจับจ่ายใช้สอยตามเทศกาลเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจบัตรเครดิตทุกรายก็ยังคงมีการกระตุ้นผู้บริโภคให้สมัครและใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของตัวเองด้วยการออกแคมเปญที่ให้สิทธิประโยชน์มากขึ้น ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว แต่อย่างไรก็ตาม ในด้านความรุนแรงในการแข่งขันนั้น อาจจะมีไม่มากเท่าช่วงก่อนหน้า เนื่องจากผู้ประกอบการทุกรายมีข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณ และเมื่อออกแคมเปญใดออกมาแล้วก็จะต้องประเมินผลที่ออกมาด้วยว่าคุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ไปหรือไม่
สำหรับในส่วนของธนาคารกสิกรไทยเอง ยังคงเน้นการกระจายโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ไปในทุกหมวดการใช้จ่ายของลูกค้าเพื่อให้เกิดสิทธิประโยชน์มากที่สุด รวมถึงการร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับผู้ประกอบการอาทิ โรงแรม การท่องเที่ยว ร้านอาหาร ซึ่งธนาคารจะมีสิทธิประโยชน์ในเรื่องส่วนลดต่างๆ หากลูกค้ามีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในสถานที่ที่เป็นพันธมิตรกับธนาคาร
"เชื่อว่าในครึ่งปีหลังผู้ประกอบจะยังมีแคมเปญต่างๆออกมาอย่างต่อเนื่อง เพราะหากผู้ประกอบการทำธุรกิจแบบปกติ โดยที่ไม่มีอะไรสามารถจูงใจผู้บริโภคได้เลยก็คงจะไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้ แต่เป็นการแข่งขันอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมไปพร้อมกับการจูงใจลูกค้าใหม่แต่การแข่งขันจะไม่รุนแรงเหมือนปีที่ผ่านมา"
สำหรับอัตราการค้างชำระหนี้บัตรเครดิตของธนาคารในปัจจุบัน ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่ได้มีตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจนถึงขั้นน่าเป็นห่วง เนื่องจากธนาคารมีระบบบริหารจัดการที่ดีตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นการคัดกรองลูกค้าที่เข้มงวด รวมถึงมีการติดตามหนี้อย่างใกล้ชิดและรัดกุมมากขึ้น ทั้งนี้ ในปัจจุบันบัตรเครดิตของธนาคารสามารถเติบโตได้แล้วกว่า 20% จากเป้าหมายที่ธนาคารวางไว้ทั้งปีนี้ที่ 30% ส่วนยอดบัตรเครดิตทั้งปีนี้จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายหรือไม่นั้น คงจะต้องขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจโดยรวม
ด้านนายรุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB)กล่าวว่า ภาพรวมตลาดบัตรเครดิตในครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกในแง่ของยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร เพราะยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรในครึ่งปีแรกเติบโตลดลงเหลือเพียง 10% จากปกติที่มีการเติบโต 15%
ทั้งนี้ ธนาคารคาดว่าในครึ่งปีหลังยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทั้งระบบจะเติบโตได้อีก 5% ซึ่งได้รับผลบวกจากปลายปีเป็นฤดูการท่องเที่ยวที่กำลังจะมาโดยเฉพาะไตรมาส 4 โดยการแข่งขันทำการตลาดบัตรเครดิตเชื่อว่าจะยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นในลักษณะร่วมมือกับผู้ประกอบการรายย่อยประเภทห้างสรรพสินค้าในการให้ส่วนลดแก่ลูกค้าเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตร ขณะที่ยอดการอนุมัติบัตรเครดิตนั้นจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนักคืออยู่ในประมาณ 40-50%
นางสาวอัญชลี จรัสยศวุฒิชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดบัตรเครดิต ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตโดยรวมในครึ่งหลังของปี 2552 นี้ว่า น่าจะมีทิศทางที่ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเติบโตของการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตหรือการเติบโตของยอดบัตรใหม่ ทั้งนี้ ปัจจัยหลักมาจากการพิจารณาจากภาพรวมเศรษฐกิจที่คาดว่าแนวโน้มจะฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในแง่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภค หลังจากที่มีเม็ดเงินจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเข้ามาในระบบค่อนข้างมาก อีกทั้งช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงของการจับจ่ายใช้สอยตามเทศกาลเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจบัตรเครดิตทุกรายก็ยังคงมีการกระตุ้นผู้บริโภคให้สมัครและใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของตัวเองด้วยการออกแคมเปญที่ให้สิทธิประโยชน์มากขึ้น ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว แต่อย่างไรก็ตาม ในด้านความรุนแรงในการแข่งขันนั้น อาจจะมีไม่มากเท่าช่วงก่อนหน้า เนื่องจากผู้ประกอบการทุกรายมีข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณ และเมื่อออกแคมเปญใดออกมาแล้วก็จะต้องประเมินผลที่ออกมาด้วยว่าคุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ไปหรือไม่
สำหรับในส่วนของธนาคารกสิกรไทยเอง ยังคงเน้นการกระจายโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ไปในทุกหมวดการใช้จ่ายของลูกค้าเพื่อให้เกิดสิทธิประโยชน์มากที่สุด รวมถึงการร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับผู้ประกอบการอาทิ โรงแรม การท่องเที่ยว ร้านอาหาร ซึ่งธนาคารจะมีสิทธิประโยชน์ในเรื่องส่วนลดต่างๆ หากลูกค้ามีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในสถานที่ที่เป็นพันธมิตรกับธนาคาร
"เชื่อว่าในครึ่งปีหลังผู้ประกอบจะยังมีแคมเปญต่างๆออกมาอย่างต่อเนื่อง เพราะหากผู้ประกอบการทำธุรกิจแบบปกติ โดยที่ไม่มีอะไรสามารถจูงใจผู้บริโภคได้เลยก็คงจะไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้ แต่เป็นการแข่งขันอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมไปพร้อมกับการจูงใจลูกค้าใหม่แต่การแข่งขันจะไม่รุนแรงเหมือนปีที่ผ่านมา"
สำหรับอัตราการค้างชำระหนี้บัตรเครดิตของธนาคารในปัจจุบัน ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่ได้มีตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจนถึงขั้นน่าเป็นห่วง เนื่องจากธนาคารมีระบบบริหารจัดการที่ดีตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นการคัดกรองลูกค้าที่เข้มงวด รวมถึงมีการติดตามหนี้อย่างใกล้ชิดและรัดกุมมากขึ้น ทั้งนี้ ในปัจจุบันบัตรเครดิตของธนาคารสามารถเติบโตได้แล้วกว่า 20% จากเป้าหมายที่ธนาคารวางไว้ทั้งปีนี้ที่ 30% ส่วนยอดบัตรเครดิตทั้งปีนี้จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายหรือไม่นั้น คงจะต้องขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจโดยรวม
ด้านนายรุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB)กล่าวว่า ภาพรวมตลาดบัตรเครดิตในครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกในแง่ของยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร เพราะยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรในครึ่งปีแรกเติบโตลดลงเหลือเพียง 10% จากปกติที่มีการเติบโต 15%
ทั้งนี้ ธนาคารคาดว่าในครึ่งปีหลังยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทั้งระบบจะเติบโตได้อีก 5% ซึ่งได้รับผลบวกจากปลายปีเป็นฤดูการท่องเที่ยวที่กำลังจะมาโดยเฉพาะไตรมาส 4 โดยการแข่งขันทำการตลาดบัตรเครดิตเชื่อว่าจะยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นในลักษณะร่วมมือกับผู้ประกอบการรายย่อยประเภทห้างสรรพสินค้าในการให้ส่วนลดแก่ลูกค้าเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตร ขณะที่ยอดการอนุมัติบัตรเครดิตนั้นจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนักคืออยู่ในประมาณ 40-50%
