xs
xsm
sm
md
lg

พยานชี้ “บู่ บุนนาค” ยิงสนธิ คนบงการร้อนขู่อุ้ม “ธานี”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คอลัมน์ “เรื่องมันฟ้อง” โดย กรงเล็บ


กลับมาทำงานคึกคักกันอีกครั้งสำหรับทีมคลี่คลายคดีลอบยิง สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมี พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้กำกับดูแล

หลังจากที่ “ตอ” กระเด็นกระดอนกลายเป็นนกขมิ้นไร้แหล่งพำนัก

ต้องระเห็จไปปฏิบัติภารกิจที่จีนแล้ววกกลับไปทำงานเพื่อชาติเสียบ้างในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ทำให้ความมั่นใจในการทำงานกลับสู่ชุดคลี่คลายคดีอีกครั้ง

ถึงขนาด “อัศวิน” ซึ่งเคยขวัญผวาไปก่อนหน้านี้ก็ยังเรียกขวัญตัวเองกลับคืนมาได้ หลังจากได้พ่อหมอดีจากตึกไทยคู่ฟ้าเป่ากระหม่อมกล่อมขวัญให้ จนทุ่มเทเต็มที่ รวมทีมกันเต็มกำลัง ทำให้ออกหมายจับ

สิบเอกสมชาย หรือ บู่ บุนนาค

ทหารสังกัดกองร้อยกองบังคับการกรมรบพิเศษที่ 3 ค่ายเอราวัณ จ.ลพบุรี เพิ่มอีก 1 ราย หลังจากที่ได้ออกหมายจับ ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ หรืออรรถพล ปาทาน และ จ.ส.อ.ปัญญา หรือ ห่อ ศรีเหรา เพื่อนสนิทของ “บู่ บุนนาค” ทั้งในการทำงานและวงเหล้าไปก่อนหน้านี้

เท่ากับว่าเพื่อนสนิททั้งสองคนได้ร่วมชะตากรรมเดียวกันแล้ว ในฐานะทีมล่าสังหาร

ยังเหลือ “ร.ต. ว.” เพื่อนซี้อีก 1 ราย ที่ยังอยู่วงนอก


ไม่รู้ว่าจะสนใจร่วมชะตากรรมเดียวกับเพื่อนสนิททั้งสองคนด้วยหรือไม่ อันนี้คงต้องพึ่งฝีมือของชุดคลี่คลายคดีที่ต้องเดินหน้าทำงานกันอย่างเต็มกำลังต่อไป

ความเชื่อมโยงทางคดีที่นำไปสู่การออกหมายจับคนร้ายรายล่าสุด ต้องขอบคุณ “คนขายของกิน” ในตลาดเช้าใกล้ที่เกิดเหตุ ที่บังเอิญใช้เส้นทางเดียวกันกับทีมล่าสังหาร และจอดรถติดไฟแดงตีคู่อยู่กับมือสังหาร ทำให้จำได้แม่นยำ เมื่อทีมสืบสวนนำรูปภาพไปให้ชี้

กว่าคดีนี้จะเดินหน้าได้อย่างที่เห็นมีคนหลายคนที่ต้องเหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ

เริ่มจาก “พล.ต.อ.ธานี” ที่ทุ่มเททำคดีชนิดไม่มีวันหยุดราชการ แถมชีวิตสมถะเรียบง่าย ที่เคยได้ออกกำลังกายด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้งทุกเย็นในหมู่บ้านย่านเมืองทองธานี ก็ต้องแปรเปลี่ยนมาเป็นออกกำลังกายด้วยลู่วิ่งภายในบ้านแทน หลังจากที่มีการข่มขู่เอาชีวิตผ่านโทรศัพท์หากยังเดินหน้าทำคดีนี้ต่อ

ว่ากันว่าหลังรับโทรศัพท์ขู่อุ้ม “พล.ต.อ.ธานี” ไม่ได้มีทีท่าสะทกสะท้าน แต่ตอบกลับไปตามสายด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “แน่จริงก็มาอุ้มเลย”


ไม่เพียงระดับหัวหน้าชุดถูกข่มขู่เท่านั้น แม้แต่ชุดสืบสวนบางคนก็ยังถูกคุกคามด้วยถ้อยคำที่รุนแรงยิ่งกว่า แถมเป็นการพูดฝากเพื่อนตำรวจด้วยกันมาเสียด้วย

“มีคนฝากมาเตือนว่าถ้ายังทำคดีต่อระวังจะไม่มีลมหายใจ” คำพูดดังกล่าวทำเอานักสืบมือดีถึงกับลมออกหู สวนไปทันทีว่า

“ให้มันมายิงเลย ฝากไปบอกมันด้วยว่าถ้ายิงแล้วกูไม่ตาย กูจะกลับไปยิงลูกกับเมียมันแทน”


ดุดันกลับไปอย่างนั้นจึงทำให้การคุกคามข่มขู่หายไป แต่ทีมคลี่คลายคดีรู้ดีว่า งานนี้มีอันตรายซ่อนกายอยู่และพร้อมจะแสดงตัวตนออกมาทุกเมื่อ

ทั้งอันตรายต่อชีวิต อันตรายต่อหน้าที่การงาน และขณะนี้ยังเป็นอันตรายสำหรับเสถียรภาพของรัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ด้วย

สาเหตุเป็นเพราะ “อภิสิทธิ์” เดินหน้าชน เปิดทางโล่งให้ชุดคลี่คลายคดีเดินหน้าต่อได้โดยไม่ต้องเผชิญกับ “ตอ” อย่างที่เกิดขึ้นในช่วงแรก

แม้ท่วงท่าของ “อภิสิทธิ์” จะเล่นหมากรุกแบบหมากอุดทำให้คนลุ้นอึดอัด เพราะไม่ยอมรุกตามเสียงเชียร์ แต่ด้วยลีลาอย่างนี้แหละที่มีส่วนสำคัญทำให้คดีลอบยิงสนธิ เดินหน้ามาไกลได้ถึงขนาดนี้

ถ้าไม่เชื่อก็ลองถาม “พล.ต.อ.ธานี” กับ “พล.ต.ท.อัศวิน” ดูจะรู้ว่า “อภิสิทธิ์” เหนื่อยไม่แพ้คนทำคดี ถึงขนาดสองนายพลเอ่ยปากตรงกันว่า “เห็นใจนายกฯ”

ส่วนจะเห็นใจเพราะเหตุอันใดนั้น คอข่าวที่ติดตามมาตลอดคงมีคำตอบในใจอยู่แล้ว

กำลังโหลดความคิดเห็น