ASTVผู้จัดการรายวัน - “เทพเทือก-ก.ตร.” จับโผเป็นตัวประกัน! มีมติเลื่อนประกาศ “พ.ร.ฎ.โครงสร้างฯ” ไป 7 ก.ย. เพราะต้องใช้เวลาพิจารณาคุณสมบัติผู้ได้รับการแต่งตั้ง พร้อมทั้งตั้งอนุ ก.ตร.ชุดพิเศษ สอบการซื้อขายตำแหน่งโดยให้รายงานผลภายใน 15 วัน “มาร์ค” เผยไม่เกิน 3 อาทิตย์ได้ตัว ผบ.ตร.คนใหม่ ด้าน “พัชรวาท” มีโปรแกรมลาไปยุโรปต่อถึงสิ้นเดือน ส.ค.เปิดทางให้ “วิเชียร” ทำโผ
เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ (13 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยมี พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา (สบ 10) รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รอง ผบ.ตร. จเรตำรวจ และ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง
ตั้ง กก.สอบซื้อขายตำแหน่ง
หลังการประชุม พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รอง ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า ก.ตร.มีมติในเรื่องสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1. นายสุเทพ ได้นำเรื่องเกี่ยวกับการซื้อขายตำแหน่งตำรวจระดับรอง ผบก. ลงมา ที่ปรากฏข่าวตามสื่อมวลชนมานำเสนอ ซึ่งในที่ประชุมได้มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง นายสุเทพได้แจ้งข้อมูลให้ทราบว่า ได้ทำหนังสือขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว จากผู้ที่ปรากฏชื่อตามสื่อมวลชน พร้อมทั้งมีการตั้งคณะอนุ ก.ตร.ชุดพิเศษมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ประกอบด้วย คณะกรรมการ ก.ตร.7 ท่าน เป็น ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน ก.ตร.โดยตำแหน่ง 2 ท่าน โดยมีนายสมศักดิ์ บุญทอง ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธาน มี พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ พล.ต.อ.บุญเพ็ญ บำเพ็ญบุญ พล.ต.ท.อำนวย ดิษฐกวี พล.ต.ท.เหมราช ธารีไทย ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. ซึ่งเป็น ก.ตร.โดยตำแหน่ง เป็นคณะกรรมการ โดยให้อนุ ก.ตร.ตรวจสอบเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง และให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ และรายงานให้ ก.ตร.ทราบภายใน 15 วัน
เลื่อนประกาศ พ.ร.ฎ.ไป 7 ก.ย.
เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องที่ พล.ต.อ.วิเชียร ได้เสนอที่ประชุม ก.ตร. ถึงมติ ก.ตร.เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่ก.ตร.มีมติให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งโดยการยกเว้นหลักเกณฑ์ทุกตำแหน่ง ต้องเข้าที่ประชุม ก.ตร.เพื่อพิจารณา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องยกเว้นหลักเกณฑ์มีเป็นจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบคุณสมบัติอย่างรอบคอบ กองทะเบียนพลต้องไปตรวจสอบรายชื่อ จึงจำเป็นต้องเลื่อนเวลาให้ พ.ร.ฎ.แบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในราชกิจจานุเบกษาออกไป จากเดิมที่มีกำหนดให้ พ.ร.ฎ.มีผลบังคับใช้ วันที่ 16 ส.ค. เป็นวันที่ 7 ก.ย. ซึ่งจะมีเวลาเพียงพอให้มีการเตรียมการแต่งตั้งระดับ รอง ผบก.ลงมา
ทั้งนี้ กระบวนการแต่งตั้งนั้น คนที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย คือ ผบ.ตร. หรือรักษาราชการแทน ผบ.ตร. เป็นคนดำเนินการแต่งตั้ง ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.ตำรวจมาตรา 56 ให้อำนาจ ผบ.ตร.ในการแต่งตั้ง และให้รอง ผบ.ตร. และจเรตำรวจเป็นกรรมการในการแต่งตั้ง ซึ่งการแต่งตั้งทั้งหมดก็ให้มีผลพร้อมกันในวันที่ พ.ร.ฎ.แบ่งส่วนราชการมีผลบังคับใช้ และไม่มีผลกับการแต่งตั้งระดับนายพลที่ผ่านไปแล้วไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เพียงแต่เลื่อนเวลาไปเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะส่งผลกระทบกับการแต่งตั้งวาระประจำปีหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ก็มีการอภิปรายกันในที่ประชุม เพราะเคยมีมติ ก.ตร.ให้การแต่งตั้งวาระประจำปี ระดับ ผบช.-ผบก.ให้แล้วเสร็จภายใน 31 ส.ค. แต่ก็สามารถให้อำนาจ ก.ตร. ขอขยายเวลาได้ และเรื่องนี้ก็ไม่มีผลกับการเลือก ผบ.ตร. คนใหม่เพราะไม่เกี่ยวกัน เป็นคณะกรรมการคนละชุด เรื่องการเลือก ผบ.ตร. ทาง ก.ต.ช. จะเป็นคนเลือก
ต่อข้อถามที่ว่าการประชุม ก.ตร.เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ห่างกับการประชุม ก.ตร. ครั้งนี้เพียงไม่กี่วัน ก.ตร. ก็มีมติให้เลื่อนการประกาศ พ.ร.ฎ.แบ่งส่วนราชการฯออกไป ทำไมเมื่อครั้งที่ผ่านมาไม่ได้มีการพูดถึงกัน พล.ต.อ.วัชพล กล่าวว่า ครั้งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวกับการแต่งตั้งได้ชี้แจงว่ามีการเตรียมการเรื่องการแต่งตั้งเอาไว้แล้ว แต่เมื่อที่ประชุม ก.ตร.มีมติยกเว้นในหลายๆ ข้อ ทุกรายที่เข้าเงื่อนไขการยกเว้นต้องเข้าที่ประชุม ก.ตร.จึงมีความจำเป็นต้องใช้เวลามากขึ้นในการดูรายละเอียดเตรียมข้อมูลเพื่อเสนอ ก.ตร.ซึ่งต้องทำอย่างรอบคอบ ชัดเจนและโปรงใส ยิ่งมีข่าวเรื่องการซื้อขายตำแหน่งขึ้นมา ก็ต้องยิ่งรอบคอบ ซึ่งการแต่งตั้งระดับรอง ผบก.-ลงมา ก็มีทั้งที่เลื่อนตำแหน่งขึ้นและหมุนในระนาบเดียวกัน ซึ่งตอนนี้สำนักงานกำลังพล ก็อยู่ระหว่างเตรียมพร้อมด้านเอกสารต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อนวันที่ 6 ส.ค. ถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการนัดคณะกรรมการการแต่งตั้งประชุมแต่อย่างใด เนื่องจากโผการแต่งตั้งโยกย้ายยังไม่เสร็จสมบูรณ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากการพิจารณาเรื่องการซื้อขายตำแหน่งไม่เป็นจริง จะพิจารณาฟ้องกลับหรือไม่ พล.ต.อ.วัชพล กล่าวว่า เรื่องนี้คงยังตอบไม่ได้ ต้องรอพลการพิจารณาของคณะกรรมการก่อน ส่วนจะเรียกบุคคลที่ออกมาเปิดเผยเรื่องการซื้อขายตำแหน่งมาสอบหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของอนุ ก.ตร.ตนเองไม่สามารถตอบได้
ต่อข้อถามที่ว่านายกรัฐมนตรี พูดทำนองว่า พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นตอในการทำคลี่คลายคดีการลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ เรื่องนี้มีการดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.วัชรพล กล่าววา ทราบว่า เรื่องนี้มีคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องอยู่แล้วโดยมีเลขาธิการ ก.พ.เป็นหัวหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไรอยู่แล้ว
ไม่เกิน 3 สัปดาห์ได้ตัว ผบ.ตร.ใหม่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการที่รักษาการ ผบ.ตร. เลื่อนการโยกย้ายข้าราชการ ตามโครงสร้างใหม่ออกไปว่า คงเป็นการเลื่อนของทางตำรวจเอง ว่าทำอย่างไรจะให้ราบรื่นที่สุด ทั้งเรื่องคำสั่ง การยกเว้นคุณสมบัติ ทำอย่างไรไม่ให้เกิดสุญญากาศ ก็เข้าใจ เดิมตั้งไว้กลางเดือน ส.ค.ไม่ทัน ก็ต้องเลื่อนออกไป
เมื่อถามว่า ผลจากการเลื่อนไป จะทำให้ปัญหาบรรเทาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สันนิษฐานว่าอย่างนั้น เพราะก.ตร. ต้องเลือกวันที่ทำหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนการคาบเกี่ยว การทำบัญชีรายชื่อในโครงสร้างใหม่ ก็ไม่เป็นไร เพราะได้สอบถามกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และได้ให้ข้อคิดไปว่าจะมีปัญหาหรือไม่ อยากจะทำรอบเดียว หรือสองรอบ เวลาติดกันจะมีปัญหาหรือไม่ และได้รับการยืนยันจากทุกฝ่ายว่า ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า ทำไมไม่ให้ ผบ.ตร.คนใหม่ เป็นคนดำเนินการเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อถึงจุดที่เป็นปัญหาอีก ก็ต้องพิจารณาในชั้นนี้ ก.ตร.พิจารณาเพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าได้ ส่วนการกำหนดการประชุม กตช. คิดว่าจะประชุมไม่น่าจะเกินสัปดาห์ที่ 3 ถัดจากนี้ (ช่วงต้นเดือนก.ย. ) น่าจะได้ตัว ผบ.ตร.
“ป๊อด” ทัวร์ยุโรปยาวถึงสิ้นสิงหา
ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ ถึงเรื่องโผโยกย้ายนายตำรวจว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ต้องรอให้ปฏิบัติราชการในพื้นที่ภาคใต้เสร็จก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีกำหนดว่าจะกลับมาเมื่อไรกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.พัชรวาท หลังจากเสร็จการปฏิบัติราชการภาคใต้ จะลาพักยาวไปประเทศแถบยุโรป จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม เพื่อหลีกทางให้ พล.ต.อ.วิเชียร เป็นคนทำโผแต่งตั้งโยกย้าย