ASTVผู้จัดการรายวัน - รมช.คลังเร่งรัด EXIM BANK ปล่อยสินเชื่อใหม่ 37,200 ล้าน ขยายบริการครบวงจร ปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อให้ผ่อนปรนสนองความต้องการตามขนดลูกค้า อนุมัติสินเชื่อได้ใน 7 วัน
นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง กำชับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เร่งรัดการให้สินเชื่อตามเป้าหมายใหม่ 37,200 ล้านบาท โดยขยายบริการครบวงจรทั้งโดยตรงและผ่านความร่วมมือกับธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อให้ผ่อนปรนและตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการรายใหญ่ กลาง และเล็กมากยิ่งขึ้น
“ได้มอบนโยบายให้ธนาคารกำหนดมาตรการในการเร่งรัดการอำนวยสินเชื่อซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาประมาณ 43,000 ล้านบาท การปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อให้มีความผ่อนปรนมากยิ่งขึ้น พิจารณาความเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์ของธุรกิจหรือโครงการ มองถึงโอกาสระยะปานกลางและยาวของผู้ยื่นขอกู้แทนที่จะพิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ จากปัญหาเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา และในกรณี Fast Track ลดระยะเวลาการพิจารณาสินเชื่อเป็น 7 วันทำการ”
นายอภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลังมีนโยบาย กำหนดให้ EXIM BANK ขยายเป้าหมายสินเชื่อเพิ่มขึ้น 17,500 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิม 19,700 ล้านบาท เป็นเป้าหมายสินเชื่อใหม่ปี 2552 รวม 37,200 ล้านบาท EXIM BANK พร้อมจะเร่งรัดการให้สินเชื่อตามเป้าหมายด้วยบริการที่มีอยู่ในปัจจุบันและโครงการใหม่ๆ
ประกอบด้วย โครงการประกันการส่งออก (EXIMSurance) เพื่อกระตุ้นและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ส่งออกในการขยายการส่งออกไปตลาดเดิมและตลาดใหม่ โครงการบริการสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ซื้อในต่างประเทศ (Buyer’s Credit) เพื่อเพิ่มศักยภาพของผู้ซื้อในต่างประเทศให้ซื้อสินค้าจากประเทศไทยมากขึ้น โครงการค้ำประกันการให้สินเชื่อลูกค้า SMEs ของ EXIM BANK โดย บสย. เพื่อขยายบริการสินเชื่อแก่ผู้ส่งออก SMEs ได้เพิ่มมากขึ้นในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจปัจจุบัน โครงการ EXIM Credit Fast Track เพื่อพิจารณาอนุมัติวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนรวมไม่เกิน 10 ล้านบาท ให้แก่ผู้ส่งออกรายย่อยที่มียอดขายไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปี เพื่อช่วยให้ผู้ส่งออกรายย่อยที่มีศักยภาพสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถอนุมัติได้ใน 7 วันทำการ และโครงการสินเชื่อเพื่อซัพพลายเออร์ส (EXIM for Your Suppliers) เพื่อให้สินเชื่อหมุนเวียนแก่ผู้ผลิตสินค้าให้ผู้ส่งออก (ซัพพลายเออร์) ซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้แก่ซัพพลายเออร์ในการผลิตสินค้าให้แก่ผู้ส่งออก
ทั้งนี้ ระยะเวลาการให้สินเชื่อกรณีที่วงเงินอนุมัติไม่เกิน 150 ล้านบาทจะสามารถอนุมัติได้ภายใน 15 วัน จากเดิมที่ใช้เวลาประมาณ 30 วัน
"ธนาคารจะพิจารณาผ่อนปรนหลักเกณฑ์การให้สินเชื่อมากขึ้น โดยคำนึงถึงศักยภาพของผู้ยื่นขอกู้ ให้โอกาสผู้ยื่นขอกู้ที่ธุรกิจยังไม่มีกำไร/ขาดทุน หรือมีปัญหาทางบัญชีเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา แต่มีแนวโน้มในการหารายได้ที่ดีในอนาคต ตลอดจนเพิ่มวงเงินต่อหลักประกัน ลดความสำคัญของการใช้หลักประกัน และบางกรณีสามารถให้สินเชื่อโดยไม่ต้องใช้หลักประกัน"
สำหรับการอนุมัติสินเชื่อ ตั้งแต่เดือน มกราคม ถึง มิถุนายน 2552 ธนาคารมียอดอนุมัติสินเชื่อทั้งสิ้น 9,607 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 48.7 ของเป้าสินเชื่อเดิม (19,700 ล้านบาท) คิดเป็นร้อยละ 25.8 ของเป้าหมายใหม่ (37,200 ล้านบาท) ซึ่งธนาคารต้องทำการปล่อยสินเชื่อประมาณเดือนละ 3,000 ล้านบาท ในระยะเวลาที่เหลือของปี 2552.
นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง กำชับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เร่งรัดการให้สินเชื่อตามเป้าหมายใหม่ 37,200 ล้านบาท โดยขยายบริการครบวงจรทั้งโดยตรงและผ่านความร่วมมือกับธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อให้ผ่อนปรนและตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการรายใหญ่ กลาง และเล็กมากยิ่งขึ้น
“ได้มอบนโยบายให้ธนาคารกำหนดมาตรการในการเร่งรัดการอำนวยสินเชื่อซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาประมาณ 43,000 ล้านบาท การปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อให้มีความผ่อนปรนมากยิ่งขึ้น พิจารณาความเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์ของธุรกิจหรือโครงการ มองถึงโอกาสระยะปานกลางและยาวของผู้ยื่นขอกู้แทนที่จะพิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ จากปัญหาเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา และในกรณี Fast Track ลดระยะเวลาการพิจารณาสินเชื่อเป็น 7 วันทำการ”
นายอภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลังมีนโยบาย กำหนดให้ EXIM BANK ขยายเป้าหมายสินเชื่อเพิ่มขึ้น 17,500 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิม 19,700 ล้านบาท เป็นเป้าหมายสินเชื่อใหม่ปี 2552 รวม 37,200 ล้านบาท EXIM BANK พร้อมจะเร่งรัดการให้สินเชื่อตามเป้าหมายด้วยบริการที่มีอยู่ในปัจจุบันและโครงการใหม่ๆ
ประกอบด้วย โครงการประกันการส่งออก (EXIMSurance) เพื่อกระตุ้นและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ส่งออกในการขยายการส่งออกไปตลาดเดิมและตลาดใหม่ โครงการบริการสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ซื้อในต่างประเทศ (Buyer’s Credit) เพื่อเพิ่มศักยภาพของผู้ซื้อในต่างประเทศให้ซื้อสินค้าจากประเทศไทยมากขึ้น โครงการค้ำประกันการให้สินเชื่อลูกค้า SMEs ของ EXIM BANK โดย บสย. เพื่อขยายบริการสินเชื่อแก่ผู้ส่งออก SMEs ได้เพิ่มมากขึ้นในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจปัจจุบัน โครงการ EXIM Credit Fast Track เพื่อพิจารณาอนุมัติวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนรวมไม่เกิน 10 ล้านบาท ให้แก่ผู้ส่งออกรายย่อยที่มียอดขายไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปี เพื่อช่วยให้ผู้ส่งออกรายย่อยที่มีศักยภาพสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถอนุมัติได้ใน 7 วันทำการ และโครงการสินเชื่อเพื่อซัพพลายเออร์ส (EXIM for Your Suppliers) เพื่อให้สินเชื่อหมุนเวียนแก่ผู้ผลิตสินค้าให้ผู้ส่งออก (ซัพพลายเออร์) ซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้แก่ซัพพลายเออร์ในการผลิตสินค้าให้แก่ผู้ส่งออก
ทั้งนี้ ระยะเวลาการให้สินเชื่อกรณีที่วงเงินอนุมัติไม่เกิน 150 ล้านบาทจะสามารถอนุมัติได้ภายใน 15 วัน จากเดิมที่ใช้เวลาประมาณ 30 วัน
"ธนาคารจะพิจารณาผ่อนปรนหลักเกณฑ์การให้สินเชื่อมากขึ้น โดยคำนึงถึงศักยภาพของผู้ยื่นขอกู้ ให้โอกาสผู้ยื่นขอกู้ที่ธุรกิจยังไม่มีกำไร/ขาดทุน หรือมีปัญหาทางบัญชีเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา แต่มีแนวโน้มในการหารายได้ที่ดีในอนาคต ตลอดจนเพิ่มวงเงินต่อหลักประกัน ลดความสำคัญของการใช้หลักประกัน และบางกรณีสามารถให้สินเชื่อโดยไม่ต้องใช้หลักประกัน"
สำหรับการอนุมัติสินเชื่อ ตั้งแต่เดือน มกราคม ถึง มิถุนายน 2552 ธนาคารมียอดอนุมัติสินเชื่อทั้งสิ้น 9,607 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 48.7 ของเป้าสินเชื่อเดิม (19,700 ล้านบาท) คิดเป็นร้อยละ 25.8 ของเป้าหมายใหม่ (37,200 ล้านบาท) ซึ่งธนาคารต้องทำการปล่อยสินเชื่อประมาณเดือนละ 3,000 ล้านบาท ในระยะเวลาที่เหลือของปี 2552.