ASTVผู้จัดการรายวัน - “อภิสิทธิ์” ออกแถลงการณ์ฐานะประธานอาเซียน เผยผิดหวังที่ศาลพม่าสั่งกัดตัว “ออง ซาน ซูจี” 18 เดือน ยันต้องการให้รัฐบาลทหารปล่อยนักโทษการเมืองและนำประเทศไปสู่การเป็นประชาธิปไตย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงท่าทีของอาเซียนต่อกรณีที่นางออง ซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้านในพม่าถูกศาลสั่งกักตัวอีก 18 เดือนว่า นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ จะประสานเพื่อให้มีแถลงการณ์ออกมา จะเป็นในนามประธานอาเซียน หรือในนามร่วมกันก็ตาม และกำลังประสานความเป็นไปได้ว่า จะดำเนินการก้าวต่อไปอย่างไร
ส่วนข้อเรียกร้องของชาติตะวันตกที่จะให้คว่ำบาตรพม่านั้น ก็จะต้องหารือกันใน กลุ่มอาเซียน และเคยเป็นความห่วงใยของอาเซียนหลายครั้งว่า หากการตอบสนองต่อเสียงสะท้อนต่อประชาคมโลกไม่เกิดขึ้น สุดท้ายอาเซียนจะได้ช่วยสามารถแก้ปัญหาได้ เรื่องนี้จะยกระดับไปสู่เวทีอื่นๆ เราพยามสื่อสารกับพม่ามาโดยตลอดด้วยความปรารถนาดี เพราะจริงๆ แล้วน่าจะต้องมาปรึกษาหารือในอาเซียนดีที่สุด เท่าที่ติดตาม ขณะนี้ประเทศต่างๆ ที่เรียกร้องจะเรียกร้องในเรื่องการค้าอาวุธ มากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการกดดันให้พม่าออกจากประเทศสมาชิกอาเซียนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในชั้นนี้จะดูในกรอบความเคลื่อนไหวของประชาคมโลก ซึ่งดูจะมุ่งไปที่สหประชาชาติ เมื่อถามว่า ท่าทีอาเซียนที่มีออกไปจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กับพม่าหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยืนยันอีกครั้งว่า สิ่งที่เราสะท้อนออกไปเป็นการสะท้อนบนความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี ต้องการเห็นพม่าอยู่ในเวทีต่างๆ และในประชาคมโลกเพื่อประโยชน์ของคนพม่าทั้ง เรื่องเศรษฐกิจและความมั่นคง กระบวนการการเลือกตั้งที่วางเอาไว้พม่าต้องการให้เป็นขั้นตอนสำคัญที่ไปสู่เรื่องการปรองดองระหว่างกลุ่มต่างๆ หากไม่ได้รับความเชื่อถือก็จะเป็นปัญหาที่กลับไปสู่จุด เดิมสิ่งที่พม่าทำมาก็สูญเปล่า ดังนั้นที่ทุกอย่างที่เราพูด เป็นเรื่องของเพื่อนบ้านที่ดีพึงจะสะท้อนต่อกัน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า แผนการเยือนพม่าของตนนั้นขณะนี้ยังไม่มีเวลาที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ในการประชุมอาเซียนครั้งต่อไปในเดือนต.ค. ตนคิดว่าพม่าคงจะมีแรงกดดันมาก เพราะเป็นหัวข้อที่ทั่วโลกให้ความสำคัญมากที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่มาบดบังที่อาเซียนทำไว้ในหลายด้านจึงอยากให้พม่าได้ทำความ เข้าใจด้วย
นาย อภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมานายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ เดินทางไปพบปะผู้นำพม่า ก็มีการสะท้อนพูดคุยแลกเปลี่ยนกันชัดเจน ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นรัฐบาลพม่าคงบอกว่าเป็นเรื่องของศาล และฝ่ายบริหารเป็นคนไปปรับลดโทษลงมา แต่ตนว่าข้อเท็จจริงจากเสียงสะท้อนของประชาคมโลกจะเป็น อุปสรรคในการทำงานแน่นอน ดังนั้นเป็นเรื่องที่เราอยากให้รัฐบาลพม่ารับฟัง ตนคิดว่าทุกคนต้องมาทบทวนจะมีวิธีใดสื่อสารให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันได้ ตนเข้าใจว่าทางรัฐบาลพม่ามองเป็นเรื่องภายใน หรือเป็นเรื่องที่ใครจะมีแอบแฝง หรือไม่ แต่เราต้องพยายามสื่อสารว่าจริงๆ แล้วจุดยืนต่างสะท้อนออก มามันไม่ใช่ ทุกคนพยายามสื่อสาร แต่ไปไม่ถึง หรืออาจจะเป็นมุมมองที่แตกต่างกันก็ต้องมาคิด จุดนี้ให้รอบคอบว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ยิ่งเราเป็นเพื่อนบ้านสถานการณ์แตกต่างไปจากประเทศที่อยู่ห่างไกลที่ทำอะไร ก็ไม่กระทบกระเทือนคนของเขา ขณะที่เราต้องร่วมมือแก้ปัญหาหลายอย่าง เช่น ยาเสพติด
**"บัวแก้ว"ออกแถลงการณ์ผิดหวัง
เมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ (12ส.ค.) กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงของประธานอาเซียนเรื่องพม่า ความว่า "ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียน ได้รับทราบด้วยความผิดหวังอย่างยิ่งทีนางออง ซาน ซู จี ถูกศาลพิพากษาลงโทษให้ถูกกักบริเวณในบ้านพักโดยมีอิสรภาพที่จำกัดเป็นเวลา 18 เดือน
ประธานอาเซียนปรารถนาจะย้ำเตือนข้อเรียกร้องของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 42 และการประชุมว่าด้วยการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 16 เมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2009 ที่จังหวัดภูเก็ต ให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังทั้งหมดโดยทันที รวมทั้งนางออง ซาน ซู จี เพื่อให้บุคคลเหล่านี้สามารถเข้าร่วมการเลือกตั้งทั่วไปในปี ค.ศ. 2010 ได้
การดำเนินการดังกล่าวข้างต้นจะเอื้ออำนวยต่อการปรองดองแห่งชาติ การเจรจาที่มีความหมาย และการพัฒนาไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยในพม่าต่อไป การเลือกตั้งที่เสรี ยุติธรรมและให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมเท่านั้นที่จะปูทางให้พม่าสามารถบูรณาการเข้ากับประชาคมระหว่างประเทศได้อย่างสมบูรณ์
ประเทศสมาชิกอาเซียนหวังที่จะเห็นพม่าซึ่งเป็นเพื่อนสมาชิกอาเซียน มีสันติสุข เจริญรุ่งเรืองและได้รับความนับถือจากประชาคมโลก เราพร้อมที่จะร่วมมือกับรัฐบาลพม่าในความพยายามต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุตามแนวทาง 7 ขั้นตอนสู่ความเป็นประชาธิปไตย และจะยังคงมีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์กับพม่า เพื่อสร้างประชาคมอาเซียนร่วมกัน และเราจะยังคงสนับสนุนบทบาท การประสานงาน (good offices) ของเลขาธิการสหประชาชาติที่ยังดำเนินอยู่ และเรียกร้องให้พม่าร่วมมือกับสหประชาชาติอย่างเต็มที่ต่อไป"
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงท่าทีของอาเซียนต่อกรณีที่นางออง ซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้านในพม่าถูกศาลสั่งกักตัวอีก 18 เดือนว่า นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ จะประสานเพื่อให้มีแถลงการณ์ออกมา จะเป็นในนามประธานอาเซียน หรือในนามร่วมกันก็ตาม และกำลังประสานความเป็นไปได้ว่า จะดำเนินการก้าวต่อไปอย่างไร
ส่วนข้อเรียกร้องของชาติตะวันตกที่จะให้คว่ำบาตรพม่านั้น ก็จะต้องหารือกันใน กลุ่มอาเซียน และเคยเป็นความห่วงใยของอาเซียนหลายครั้งว่า หากการตอบสนองต่อเสียงสะท้อนต่อประชาคมโลกไม่เกิดขึ้น สุดท้ายอาเซียนจะได้ช่วยสามารถแก้ปัญหาได้ เรื่องนี้จะยกระดับไปสู่เวทีอื่นๆ เราพยามสื่อสารกับพม่ามาโดยตลอดด้วยความปรารถนาดี เพราะจริงๆ แล้วน่าจะต้องมาปรึกษาหารือในอาเซียนดีที่สุด เท่าที่ติดตาม ขณะนี้ประเทศต่างๆ ที่เรียกร้องจะเรียกร้องในเรื่องการค้าอาวุธ มากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการกดดันให้พม่าออกจากประเทศสมาชิกอาเซียนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในชั้นนี้จะดูในกรอบความเคลื่อนไหวของประชาคมโลก ซึ่งดูจะมุ่งไปที่สหประชาชาติ เมื่อถามว่า ท่าทีอาเซียนที่มีออกไปจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กับพม่าหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยืนยันอีกครั้งว่า สิ่งที่เราสะท้อนออกไปเป็นการสะท้อนบนความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี ต้องการเห็นพม่าอยู่ในเวทีต่างๆ และในประชาคมโลกเพื่อประโยชน์ของคนพม่าทั้ง เรื่องเศรษฐกิจและความมั่นคง กระบวนการการเลือกตั้งที่วางเอาไว้พม่าต้องการให้เป็นขั้นตอนสำคัญที่ไปสู่เรื่องการปรองดองระหว่างกลุ่มต่างๆ หากไม่ได้รับความเชื่อถือก็จะเป็นปัญหาที่กลับไปสู่จุด เดิมสิ่งที่พม่าทำมาก็สูญเปล่า ดังนั้นที่ทุกอย่างที่เราพูด เป็นเรื่องของเพื่อนบ้านที่ดีพึงจะสะท้อนต่อกัน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า แผนการเยือนพม่าของตนนั้นขณะนี้ยังไม่มีเวลาที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ในการประชุมอาเซียนครั้งต่อไปในเดือนต.ค. ตนคิดว่าพม่าคงจะมีแรงกดดันมาก เพราะเป็นหัวข้อที่ทั่วโลกให้ความสำคัญมากที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่มาบดบังที่อาเซียนทำไว้ในหลายด้านจึงอยากให้พม่าได้ทำความ เข้าใจด้วย
นาย อภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมานายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ เดินทางไปพบปะผู้นำพม่า ก็มีการสะท้อนพูดคุยแลกเปลี่ยนกันชัดเจน ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นรัฐบาลพม่าคงบอกว่าเป็นเรื่องของศาล และฝ่ายบริหารเป็นคนไปปรับลดโทษลงมา แต่ตนว่าข้อเท็จจริงจากเสียงสะท้อนของประชาคมโลกจะเป็น อุปสรรคในการทำงานแน่นอน ดังนั้นเป็นเรื่องที่เราอยากให้รัฐบาลพม่ารับฟัง ตนคิดว่าทุกคนต้องมาทบทวนจะมีวิธีใดสื่อสารให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันได้ ตนเข้าใจว่าทางรัฐบาลพม่ามองเป็นเรื่องภายใน หรือเป็นเรื่องที่ใครจะมีแอบแฝง หรือไม่ แต่เราต้องพยายามสื่อสารว่าจริงๆ แล้วจุดยืนต่างสะท้อนออก มามันไม่ใช่ ทุกคนพยายามสื่อสาร แต่ไปไม่ถึง หรืออาจจะเป็นมุมมองที่แตกต่างกันก็ต้องมาคิด จุดนี้ให้รอบคอบว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ยิ่งเราเป็นเพื่อนบ้านสถานการณ์แตกต่างไปจากประเทศที่อยู่ห่างไกลที่ทำอะไร ก็ไม่กระทบกระเทือนคนของเขา ขณะที่เราต้องร่วมมือแก้ปัญหาหลายอย่าง เช่น ยาเสพติด
**"บัวแก้ว"ออกแถลงการณ์ผิดหวัง
เมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ (12ส.ค.) กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงของประธานอาเซียนเรื่องพม่า ความว่า "ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียน ได้รับทราบด้วยความผิดหวังอย่างยิ่งทีนางออง ซาน ซู จี ถูกศาลพิพากษาลงโทษให้ถูกกักบริเวณในบ้านพักโดยมีอิสรภาพที่จำกัดเป็นเวลา 18 เดือน
ประธานอาเซียนปรารถนาจะย้ำเตือนข้อเรียกร้องของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 42 และการประชุมว่าด้วยการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 16 เมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2009 ที่จังหวัดภูเก็ต ให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังทั้งหมดโดยทันที รวมทั้งนางออง ซาน ซู จี เพื่อให้บุคคลเหล่านี้สามารถเข้าร่วมการเลือกตั้งทั่วไปในปี ค.ศ. 2010 ได้
การดำเนินการดังกล่าวข้างต้นจะเอื้ออำนวยต่อการปรองดองแห่งชาติ การเจรจาที่มีความหมาย และการพัฒนาไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยในพม่าต่อไป การเลือกตั้งที่เสรี ยุติธรรมและให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมเท่านั้นที่จะปูทางให้พม่าสามารถบูรณาการเข้ากับประชาคมระหว่างประเทศได้อย่างสมบูรณ์
ประเทศสมาชิกอาเซียนหวังที่จะเห็นพม่าซึ่งเป็นเพื่อนสมาชิกอาเซียน มีสันติสุข เจริญรุ่งเรืองและได้รับความนับถือจากประชาคมโลก เราพร้อมที่จะร่วมมือกับรัฐบาลพม่าในความพยายามต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุตามแนวทาง 7 ขั้นตอนสู่ความเป็นประชาธิปไตย และจะยังคงมีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์กับพม่า เพื่อสร้างประชาคมอาเซียนร่วมกัน และเราจะยังคงสนับสนุนบทบาท การประสานงาน (good offices) ของเลขาธิการสหประชาชาติที่ยังดำเนินอยู่ และเรียกร้องให้พม่าร่วมมือกับสหประชาชาติอย่างเต็มที่ต่อไป"