ASTVผู้จัดการรายวัน-"ฮิลลารี" ลัดฟ้าพบ"มาร์ก"ที่ทำเนียบฯ 21 ก.ค.นี้หารือปัญหาความมั่นคงในภูมิภาคอาเซียนฯทั้ง "พม่า-ไข้หวัด 2009-การสะสมอาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือ" ก่อนไปร่วมประชุมอาเซียนฯที่ภูเก็ต "นายกฯ" เผยเตรียมเชิญ"โอบามา" เยือนไทยผ่าน "ฮิลลารี คลันตัน" ด้าน ตร.-ทหารเพิ่มมาตรการเข้ม ไม่เว้นสื่อเพื่อป้องกันเหตุร้ายช่วงถกอาเซียนฯ "กษิต" มั่นใจมาตรการ รปภ. ขณะที่ รมต.ตปท.อาเซียนมีฉันทามติเห็นชอบจัดตั้งองค์กรสิทธิฯอาเซียน
วานนี้ (19 ก.ค.) นายสมศักดิ์ สุริยวงศ์ อธิบดีกรมพิธีการทูต เปิดเผยว่า นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา จะเดินทางถึงประเทศไทยในเวลา 15.00 น.ของวันที่ 21 ก.ค.นี้ เพื่อหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลในเวลา 17.00 น.วันเดียวกัน โดยคาดว่าจะมีการหยิบยกเรื่องความมั่นคงภายในภูมิภาคอาเซียน สถานการณ์ในประเทศพม่าและสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รวมทั้งประเด็นการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือ มาหารือ ก่อนที่นางคลินตัน จะเดินทางไปยัง จ.ภูเก็ต โดยเข้าพักที่โรงแรมดุสิตธานี ลากูนา จ.ภูเก็ต
จากนั้นวันที่ 24 ก.ค.นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซียจะเข้าพบนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นสักขีพยานให้กับอธิการบดีมหาวิทยาลัยเอ็มจีโม แห่งรัสเซีย เพื่อลงนามกับนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน เพื่อจัดตั้งศูนย์อาเซียนประจำรัสเซีย ที่มหาวิทยาลัยเอ็มจีโม
**มาร์คแย้มเชิญ"โอบามา"มาไทย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" โดยเรียกร้องให้ประชาชนร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เออาร์เอฟ) ที่ จ.ภูเก็ต และจะมีความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ จึงอยากให้ประชาชนชาวภูเก็ตเข้าใจ เพราะอาจมีความไม่สะดวกในบางจุด แต่หากสามารถจัดการประชุมผ่านไปด้วยความเรียบร้อย จะมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยและจังหวัดภูเก็ต ในการฟื้นฟูด้านการท่องเที่ยว
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งนี้ ถือเป็นการประชุมครั้งแรกหลังมีกฎบัตรอาเซียนซึ่งจะมีการจัดตั้งกลไกสิทธิมนุษยชนอาเซียน กลไกในการระงับข้อพิพาทต่าง ๆ รวมถึงจะมีการติดตามความคืบหน้าการร่วมมือแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ ปัญหาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนยังจะมีการประชุมร่วมกับประเทศคู่เจรจาด้วย
ส่วนกรณีที่จะมีโอกาสพบปะกับนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงการประชุมดังกล่าวนั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงจะหารือทั้งความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯรวมทั้งบทบาทของสหรัฐฯต่อภูมิภาค ซึ่งคิดว่าบรรยากาศน่าจะไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากสหรัฐให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้มากขึ้น ทั้งนี้ จะเชิญนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯมาเยือนไทยด้วย
**ยันไทยไม่หนุนคว่ำบาตรพม่า
นายอภิสิทธิ์ ยืนยันถึงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนฯที่จะมีการหยิบยกปัญหาพม่าเข้าหารือในที่ประชุมว่า โดยจุดยืนยันของไทยก็ชัดเจนมาตลอด คือ ไม่แทรกแซงกิจการภายในและต้องการให้พม่าสามารถที่จะรับรู้ถึงความต้องการหรือเสียงสะท้อนของประชาคมโลก เพราะในเรื่องสิทธิมนุษยชนอยู่ในกฎบัตรอาเซียนด้วย ดังนั้น พม่าก็ควรใช้โอกาสการประชุมครั้งนี้ อธิบายให้เข้าใจว่าสถานการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร
"ไทยไม่สนับสนุนการใช้มาตรการคว่ำบาตร หรือโดดเดี่ยวพม่า ดังนั้น หากประเทศไหนเสนอให้ใช้มาตรการดังกล่าว ไทยต้องยืนหยัดคัดค้าน เพราะท่าทีคว่ำบาตรจะไม่เป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหา" นายกรัฐมนตรี กล่าว
**เพิ่มมาตรการเข้มป้องกันเหตุร้าย
วันเดียวกันที่ สภ.เมืองภูเก็ต เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.กล่าวภายหลังเข้ารับฟังบรรยายสรุปมาตรการรักษาความปลอดภัยในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนฯ จาก สภ.เมืองภูเก็ตว่า ขณะนี้งานด้านการข่าวยังไม่พบสิ่งผิดปกติหรือจะมีกลุ่มใดมาเคลื่อนไหว ขณะที่การตรวจค้นที่ผ่านมาก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ
"ส่วนมาตรการในการดูแลความปลอดภัยนางฮิลลารี คลินตันน ที่จะเดินทางมาภูเก็ตนั้นก็ได้มีการเพิ่มความเข้มในการดูแลมากยิ่งขึ้น รวมถึงโรงแรมที่เกี่ยวข้องที่คิดว่ามีความสำคัญด้วย อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบนางคลินตัน ยังยืนยันที่จะเข้าร่วมการประชุม โดยมีทีมรักษาความปลอดภัยติดตามามาด้วย" พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว
**รมว.กห.ยันไม่ต้องเพิ่ม รปภ.ฮิลลารี
ขณะที่เวลา 15.40 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน พร้อมด้วย พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่ของศูนย์อำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยฯโดยใช้เวลาประมาณ 25 นาที
พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ขณะนี้มีความพร้อมในทุกเรื่อง เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมั่นใจว่าจะสามารถดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยได้ และยืนยันว่าการประชุมจะต้องผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีการล้มอย่างแน่นอน ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ช่วยกัน โดยการประชุมครั้งนี้จะทำให้เกิดความมั่นใจของชาวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยมากขึ้น
ส่วนกรณีที่นางฮิลลารี คลินตัน จะเดินทางมาร่วมประชุมด้วยนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการพิเศษ เพราะมาตรการทุกอย่างที่เตรียมไว้ถือว่าแน่นหนามากแล้ว รวมถึงมั่นใจว่ากรณีเหตุระเบิดที่ประเทศอินโดนีเซียจะไม่ส่งผลกระทบหรือลามเข้ามาในประเทศไทย และยังไม่มีรายงานข่าวว่ากลุ่มก่อการร้ายจะเข้ามาในประเทศ
**"กษิต"ยันไม่ห่วงเรื่องระบบ รปภ.
ด้านนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันความพร้อมการจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนฯ ทั้งเรื่องรักษาความปลอดภัยและผู้เข้าประชุม โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลเรื่องการรักษาความปลอดภัยทั้งหมด
**อาเซียนเห็นชอบตั้งองค์กรสิทธิฯ
ต่อมาช่วงค่ำนายกษิต แถลงผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกับคณะทำงานระดับสูง ว่าด้วยกลไกสิทธิมนุษยชนอาเซียน ที่มีขึ้นในช่วงบ่ายที่ผ่านมาซึ่งได้มีการนำเสนอร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ของการจัดตั้งองค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียน ต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา โดยเบื้องต้นรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้ให้ความเห็นชอบในการสนับสนุนร่างการจัดตั้งองค์กรดังกล่าวและจะมีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนวันนี้ (20 ก.ค.) รวมทั้งจะได้ให้ที่ประชุมผู้นำอาเซียนพิจารณาในการประชุมเดือน ต.ค.ที่ จ.ภูเก็ต ต่อไป
สำหรับองค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียนที่จะจัดตั้งขึ้นนี้จะประกอบด้วยคณะกรรมการ 10 คนจาก 10 ชาติสมาชิกอาเซียน โดยกรรมการดังกล่าวไม่จำเป็นว่าจะต้องมาจากภาครัฐและมีวาระในการทำงาน 5 ปี
นายกษิต กล่าวว่า การตกลงดังกล่าวได้สะท้อนถึงฉันทามติมากที่สุดของอาเซียนที่จะเป็นการวางรากฐานการพัฒนาและปกป้องสิทธิมนุษยชนอาเซียน ส่วนข้อสงสัยว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากพม่านั้น นายกษิต ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเพราะในการประชุมนั้นมีรัฐมนตรีต่างประเทศของพม่าเข้าร่วมอยู่ด้วย
ส่วนการหารือกับคณะผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระดับสูงว่าด้วยกฎบัตรอาเซียนนั้นที่ประชุมเห็นด้วยกับข้อเสนอการยกอาเซียนให้เป็นนิติบุคคล รองรับกฎบัตรอาเซียนและให้เลขาธิการอาเซียนมีอำนาจเต็มในการต่อรองในฐานะตัวแทนอาเซียน
**เจ้าหน้าที่ตรวจเข้มไม่เว้นสื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานการรักษาความปลอดภัยการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนฯที่ จ.ภูเก็ตว่า การรักษาความปลอดภัยเมื่อวานนี้ (19 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจตราอย่างเข้มงวดมากขึ้นกว่าทุกวันที่ผ่านมา โดยเฉพาะตั้งแต่บริเวณทางเข้าโรงแรมในเครือลากูน่า เจ้าหน้าที่จะเรียกตรวจรถที่เข้า-ออกมากขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนฯ ได้เดินทางมาถึง จ.ภูเก็ตแล้ว และในวันนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุม
นอกจากนี้ ในส่วนของผู้สื่อข่าวที่ทำงานอยู่ในศูนย์สื่อมวลชนทุกคน ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศก็ได้เชิญไปตรวจสอบตามระบบรักษาความปลอดภัยทุกคนโดยจะต้องเดินผ่านเครื่องตรวจอาวุธ มีการตรวจกระเป๋าสัมภาระ กล้องถ่ายรูป กล้องวิดีโอ และอุปกรณ์การทำงานข่าวทุกอย่างอย่างละเอียดถี่หยิบ ทำให้สื่อมวลชนต้องเข้าคิวยาวพอประมาณ
วานนี้ (19 ก.ค.) นายสมศักดิ์ สุริยวงศ์ อธิบดีกรมพิธีการทูต เปิดเผยว่า นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา จะเดินทางถึงประเทศไทยในเวลา 15.00 น.ของวันที่ 21 ก.ค.นี้ เพื่อหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลในเวลา 17.00 น.วันเดียวกัน โดยคาดว่าจะมีการหยิบยกเรื่องความมั่นคงภายในภูมิภาคอาเซียน สถานการณ์ในประเทศพม่าและสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รวมทั้งประเด็นการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือ มาหารือ ก่อนที่นางคลินตัน จะเดินทางไปยัง จ.ภูเก็ต โดยเข้าพักที่โรงแรมดุสิตธานี ลากูนา จ.ภูเก็ต
จากนั้นวันที่ 24 ก.ค.นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซียจะเข้าพบนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นสักขีพยานให้กับอธิการบดีมหาวิทยาลัยเอ็มจีโม แห่งรัสเซีย เพื่อลงนามกับนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน เพื่อจัดตั้งศูนย์อาเซียนประจำรัสเซีย ที่มหาวิทยาลัยเอ็มจีโม
**มาร์คแย้มเชิญ"โอบามา"มาไทย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" โดยเรียกร้องให้ประชาชนร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เออาร์เอฟ) ที่ จ.ภูเก็ต และจะมีความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ จึงอยากให้ประชาชนชาวภูเก็ตเข้าใจ เพราะอาจมีความไม่สะดวกในบางจุด แต่หากสามารถจัดการประชุมผ่านไปด้วยความเรียบร้อย จะมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยและจังหวัดภูเก็ต ในการฟื้นฟูด้านการท่องเที่ยว
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งนี้ ถือเป็นการประชุมครั้งแรกหลังมีกฎบัตรอาเซียนซึ่งจะมีการจัดตั้งกลไกสิทธิมนุษยชนอาเซียน กลไกในการระงับข้อพิพาทต่าง ๆ รวมถึงจะมีการติดตามความคืบหน้าการร่วมมือแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ ปัญหาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนยังจะมีการประชุมร่วมกับประเทศคู่เจรจาด้วย
ส่วนกรณีที่จะมีโอกาสพบปะกับนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงการประชุมดังกล่าวนั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงจะหารือทั้งความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯรวมทั้งบทบาทของสหรัฐฯต่อภูมิภาค ซึ่งคิดว่าบรรยากาศน่าจะไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากสหรัฐให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้มากขึ้น ทั้งนี้ จะเชิญนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯมาเยือนไทยด้วย
**ยันไทยไม่หนุนคว่ำบาตรพม่า
นายอภิสิทธิ์ ยืนยันถึงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนฯที่จะมีการหยิบยกปัญหาพม่าเข้าหารือในที่ประชุมว่า โดยจุดยืนยันของไทยก็ชัดเจนมาตลอด คือ ไม่แทรกแซงกิจการภายในและต้องการให้พม่าสามารถที่จะรับรู้ถึงความต้องการหรือเสียงสะท้อนของประชาคมโลก เพราะในเรื่องสิทธิมนุษยชนอยู่ในกฎบัตรอาเซียนด้วย ดังนั้น พม่าก็ควรใช้โอกาสการประชุมครั้งนี้ อธิบายให้เข้าใจว่าสถานการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร
"ไทยไม่สนับสนุนการใช้มาตรการคว่ำบาตร หรือโดดเดี่ยวพม่า ดังนั้น หากประเทศไหนเสนอให้ใช้มาตรการดังกล่าว ไทยต้องยืนหยัดคัดค้าน เพราะท่าทีคว่ำบาตรจะไม่เป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหา" นายกรัฐมนตรี กล่าว
**เพิ่มมาตรการเข้มป้องกันเหตุร้าย
วันเดียวกันที่ สภ.เมืองภูเก็ต เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.กล่าวภายหลังเข้ารับฟังบรรยายสรุปมาตรการรักษาความปลอดภัยในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนฯ จาก สภ.เมืองภูเก็ตว่า ขณะนี้งานด้านการข่าวยังไม่พบสิ่งผิดปกติหรือจะมีกลุ่มใดมาเคลื่อนไหว ขณะที่การตรวจค้นที่ผ่านมาก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ
"ส่วนมาตรการในการดูแลความปลอดภัยนางฮิลลารี คลินตันน ที่จะเดินทางมาภูเก็ตนั้นก็ได้มีการเพิ่มความเข้มในการดูแลมากยิ่งขึ้น รวมถึงโรงแรมที่เกี่ยวข้องที่คิดว่ามีความสำคัญด้วย อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบนางคลินตัน ยังยืนยันที่จะเข้าร่วมการประชุม โดยมีทีมรักษาความปลอดภัยติดตามามาด้วย" พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว
**รมว.กห.ยันไม่ต้องเพิ่ม รปภ.ฮิลลารี
ขณะที่เวลา 15.40 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน พร้อมด้วย พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่ของศูนย์อำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยฯโดยใช้เวลาประมาณ 25 นาที
พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ขณะนี้มีความพร้อมในทุกเรื่อง เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมั่นใจว่าจะสามารถดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยได้ และยืนยันว่าการประชุมจะต้องผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีการล้มอย่างแน่นอน ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ช่วยกัน โดยการประชุมครั้งนี้จะทำให้เกิดความมั่นใจของชาวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยมากขึ้น
ส่วนกรณีที่นางฮิลลารี คลินตัน จะเดินทางมาร่วมประชุมด้วยนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการพิเศษ เพราะมาตรการทุกอย่างที่เตรียมไว้ถือว่าแน่นหนามากแล้ว รวมถึงมั่นใจว่ากรณีเหตุระเบิดที่ประเทศอินโดนีเซียจะไม่ส่งผลกระทบหรือลามเข้ามาในประเทศไทย และยังไม่มีรายงานข่าวว่ากลุ่มก่อการร้ายจะเข้ามาในประเทศ
**"กษิต"ยันไม่ห่วงเรื่องระบบ รปภ.
ด้านนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันความพร้อมการจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนฯ ทั้งเรื่องรักษาความปลอดภัยและผู้เข้าประชุม โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลเรื่องการรักษาความปลอดภัยทั้งหมด
**อาเซียนเห็นชอบตั้งองค์กรสิทธิฯ
ต่อมาช่วงค่ำนายกษิต แถลงผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกับคณะทำงานระดับสูง ว่าด้วยกลไกสิทธิมนุษยชนอาเซียน ที่มีขึ้นในช่วงบ่ายที่ผ่านมาซึ่งได้มีการนำเสนอร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ของการจัดตั้งองค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียน ต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา โดยเบื้องต้นรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้ให้ความเห็นชอบในการสนับสนุนร่างการจัดตั้งองค์กรดังกล่าวและจะมีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนวันนี้ (20 ก.ค.) รวมทั้งจะได้ให้ที่ประชุมผู้นำอาเซียนพิจารณาในการประชุมเดือน ต.ค.ที่ จ.ภูเก็ต ต่อไป
สำหรับองค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียนที่จะจัดตั้งขึ้นนี้จะประกอบด้วยคณะกรรมการ 10 คนจาก 10 ชาติสมาชิกอาเซียน โดยกรรมการดังกล่าวไม่จำเป็นว่าจะต้องมาจากภาครัฐและมีวาระในการทำงาน 5 ปี
นายกษิต กล่าวว่า การตกลงดังกล่าวได้สะท้อนถึงฉันทามติมากที่สุดของอาเซียนที่จะเป็นการวางรากฐานการพัฒนาและปกป้องสิทธิมนุษยชนอาเซียน ส่วนข้อสงสัยว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากพม่านั้น นายกษิต ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเพราะในการประชุมนั้นมีรัฐมนตรีต่างประเทศของพม่าเข้าร่วมอยู่ด้วย
ส่วนการหารือกับคณะผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระดับสูงว่าด้วยกฎบัตรอาเซียนนั้นที่ประชุมเห็นด้วยกับข้อเสนอการยกอาเซียนให้เป็นนิติบุคคล รองรับกฎบัตรอาเซียนและให้เลขาธิการอาเซียนมีอำนาจเต็มในการต่อรองในฐานะตัวแทนอาเซียน
**เจ้าหน้าที่ตรวจเข้มไม่เว้นสื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานการรักษาความปลอดภัยการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนฯที่ จ.ภูเก็ตว่า การรักษาความปลอดภัยเมื่อวานนี้ (19 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจตราอย่างเข้มงวดมากขึ้นกว่าทุกวันที่ผ่านมา โดยเฉพาะตั้งแต่บริเวณทางเข้าโรงแรมในเครือลากูน่า เจ้าหน้าที่จะเรียกตรวจรถที่เข้า-ออกมากขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนฯ ได้เดินทางมาถึง จ.ภูเก็ตแล้ว และในวันนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุม
นอกจากนี้ ในส่วนของผู้สื่อข่าวที่ทำงานอยู่ในศูนย์สื่อมวลชนทุกคน ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศก็ได้เชิญไปตรวจสอบตามระบบรักษาความปลอดภัยทุกคนโดยจะต้องเดินผ่านเครื่องตรวจอาวุธ มีการตรวจกระเป๋าสัมภาระ กล้องถ่ายรูป กล้องวิดีโอ และอุปกรณ์การทำงานข่าวทุกอย่างอย่างละเอียดถี่หยิบ ทำให้สื่อมวลชนต้องเข้าคิวยาวพอประมาณ