ASTVผู้จัดการรายวัน- กลุ่มแลนด์ฯโชว์ตัวเลขครึ่งปีไม่สวย! แค่ประคองรายได้ เหตุภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น เผยแลนด์ฯรวมรายได้ 8,053 ล้านบาท ลดลงเทียบกับ 8,731 ล้าน กำไรสุทธิลดเหลือ 1,714.23 ล้าน ส่วนแบรนด์หรูอย่างคิวเฮ้าส์ รายได้จากการขายบ้านและที่ดิน 6 เดือนลดลง ปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจกระทบ "ศุภาลัย"รายได้ดีวันดีคืน ครึ่งปี 4,659 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,243 ล้านบาท ส่วนค่าย AP ไตรมาส 2 รับอานิสงส์โอนกรรมสิทธิ์โครงการ The Address ชิดลม แย้มยอดขายสะสมกว่า 7,000 ล้านบาท
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ได้ล่วงเลยเข้าสู่เดือนที่ 8 ของปี 52 ซึ่งรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศท่ามกลางปัญหาจากภายในประเทศและความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก โดยล่าสุด บริษัทอสังหาฯที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ทยอยแจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 2 และงวดสะสม 6 เดือนของปี 52 โดยจากข้อมูลที่บริษัทอสังหาฯแจ้งออกมาพบว่า บริษัทขนาดใหญ่ซึ่งครองส่วนแบ่งในตลาดอันดับ1 อาจจะเริ่มประสบปัญหาทางด้านยอดขาย
บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ระบุว่า ในไตรมาส 2 มีรายได้ 4,932.69 ล้านบาท เทียบไตรมาสแรกของปี 51 จำนวน 4,924.47 ล้านบาท กำไรสุทธิลดลงจาก 1,112.13 ล้านบาทมาอยู่ที่ 1,085.29 ล้านบาทในไตรมาส 2ปีนี้ ขณะที่ งวดสะสม 6 เดือน รายได้รวม 8,053.21 ล้านบาท เทียบ 8,731.65 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,714.23 ล้านบาท เทียบ 1,770.30 ล้านบาท
ขณะที่บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH บริษัทลูกแลนด์ฯ ตัวเลขรายได้จากการขายลดลง ซึ่งนางสุวรรณา พุทธประสาท รองกรรมการผู้จัดการบริษัทฯ ระบุว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมสำหรับไตรมาส 2 ของปี52 และ51 จำนวน 2,997 ล้านบาทและ 2,951 ล้านบาทตามลำดับ เพิ่มขึ้นจำนวน 46 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 2 % และมียอดสะสม 6 เดือน จำนวน 5,230 ล้านบาทและ 5,321 ล้านบาทตามลำดับ ลดลงจำนวน 91 ล้านบาท หรือลดลง 2%
"ในช่วงเดือนม.ค.ถึงเม.ย. สภาพตลาดการขายอสังหาฯได้ชะลอตัวลง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ประกอบกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศจากผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจโลก ขณะที่หลังจากเดือนพ.ค. ปัญหาการเมืองในประเทศได้คลี่คลายลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้เพิ่มขึ้น ทำให้สภาพตลาดอสังหาฯเริ่มปรับตัวดีขึ้น "
ทั้งนี้ โดยรวมแล้ว กำไรสุทธิในงวดไตรมาส 2 ปีนี้ อยู่ที่ 474 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรการเพิ่มขึ้น 10% ส่วนงวดสะสม 6 เดือน กำไรสุทธิ 766 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4%
ศุภาลัย-เอพีสวนกระแสดีขึ้น
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า รายได้รวมไตรมาส 2 สามารถทำได้ 2,565.66 ล้านบาท เทียบกับ 2,213.25 ล้านบาท โดยในส่วนของรายได้จากการขายอสังหาฯเพิ่มมาอยู่ที่ 2,502.12 ล้านบาท เทียบ 2,159.90 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 697.41 ล้านบาท เพิ่มจาก 480.53 ล้านบาทในงวดไตรมาส 2 ปี 51 ขณะที่ยอดสะสม 6 เดือน มีรายได้รวม 4,659.86 ล้านบาท เทียบกับ 3,260.50 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,243.59 ล้านบาท เทียบ 667.02 ล้านบาท
ด้านนายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP กล่าวว่า ไตรมาส 2 ปี52 บริษัทฯมีรายได้รวมเท่ากับ 2,408 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ The Address ชิดลม คิดเป็น 23% ของรายได้รวม โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 ของปี52 บริษัทฯ มีสัดส่วนการรับรู้รายได้จากการสินค้าประเภทคอนโดฯประมาณ 40% ด้านกำไรสุทธิเท่ากับ 350 ล้านบาท
สำหรับไตรมาส 2 บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายรวมได้จำนวน 3,666 ล้านบาท โดยเป็นยอดขายที่เกิดจากสินค้าแนวราบและแนวสูงในสัดส่วน 50:50 โดย 1,844 ล้านบาทเป็นยอดขายที่เกิดจากสินค้าประเภทคอนโดฯ โดยในไตรมาส 2 บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการ คือ The Address ปทุมวัน ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขาย 85% ซึ่งคาดว่าจะพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2552 และ Life @ ลาดพร้าว 18 มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขาย 48% และส่วนที่เหลือเป็นยอดขายที่เกิดจากสินค้าแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ จำนวน 1,822 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากภาพรวมของเศรษฐกิจที่ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หลายคนกังวล ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มกลับมา โดยสังเกตได้จากยอดขายในช่วงต้นไตรมาส 3 ช่วงเวลาประมาณ 1 เดือน บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายรวมจำนวน 1,846 ล้านบาท ส่งผลให้ ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ มียอดขายรวมสะสมเท่ากับ 7,089 ล้านบาท มีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) มากถึง 14,323 ล้านบาท เป็นสินค้าแนวราบมูลค่า 2,634 ล้านบาท และคอนโดฯ มูลค่า 11,689 ล้านบาท
ด้านบริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ไตรมาส 2 ปี 52 มีรายได้รวม 689.57 ล้านบาท มีผลขาดทุน282.91 ล้านบาท และงวด 6 เดือนสะสม รายได้รวม 1,536.08 ล้านบาท ขาดทุน 225.52 ล้านบาท
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ได้ล่วงเลยเข้าสู่เดือนที่ 8 ของปี 52 ซึ่งรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศท่ามกลางปัญหาจากภายในประเทศและความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก โดยล่าสุด บริษัทอสังหาฯที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ทยอยแจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 2 และงวดสะสม 6 เดือนของปี 52 โดยจากข้อมูลที่บริษัทอสังหาฯแจ้งออกมาพบว่า บริษัทขนาดใหญ่ซึ่งครองส่วนแบ่งในตลาดอันดับ1 อาจจะเริ่มประสบปัญหาทางด้านยอดขาย
บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ระบุว่า ในไตรมาส 2 มีรายได้ 4,932.69 ล้านบาท เทียบไตรมาสแรกของปี 51 จำนวน 4,924.47 ล้านบาท กำไรสุทธิลดลงจาก 1,112.13 ล้านบาทมาอยู่ที่ 1,085.29 ล้านบาทในไตรมาส 2ปีนี้ ขณะที่ งวดสะสม 6 เดือน รายได้รวม 8,053.21 ล้านบาท เทียบ 8,731.65 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,714.23 ล้านบาท เทียบ 1,770.30 ล้านบาท
ขณะที่บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH บริษัทลูกแลนด์ฯ ตัวเลขรายได้จากการขายลดลง ซึ่งนางสุวรรณา พุทธประสาท รองกรรมการผู้จัดการบริษัทฯ ระบุว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมสำหรับไตรมาส 2 ของปี52 และ51 จำนวน 2,997 ล้านบาทและ 2,951 ล้านบาทตามลำดับ เพิ่มขึ้นจำนวน 46 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 2 % และมียอดสะสม 6 เดือน จำนวน 5,230 ล้านบาทและ 5,321 ล้านบาทตามลำดับ ลดลงจำนวน 91 ล้านบาท หรือลดลง 2%
"ในช่วงเดือนม.ค.ถึงเม.ย. สภาพตลาดการขายอสังหาฯได้ชะลอตัวลง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ประกอบกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศจากผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจโลก ขณะที่หลังจากเดือนพ.ค. ปัญหาการเมืองในประเทศได้คลี่คลายลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้เพิ่มขึ้น ทำให้สภาพตลาดอสังหาฯเริ่มปรับตัวดีขึ้น "
ทั้งนี้ โดยรวมแล้ว กำไรสุทธิในงวดไตรมาส 2 ปีนี้ อยู่ที่ 474 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรการเพิ่มขึ้น 10% ส่วนงวดสะสม 6 เดือน กำไรสุทธิ 766 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4%
ศุภาลัย-เอพีสวนกระแสดีขึ้น
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า รายได้รวมไตรมาส 2 สามารถทำได้ 2,565.66 ล้านบาท เทียบกับ 2,213.25 ล้านบาท โดยในส่วนของรายได้จากการขายอสังหาฯเพิ่มมาอยู่ที่ 2,502.12 ล้านบาท เทียบ 2,159.90 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 697.41 ล้านบาท เพิ่มจาก 480.53 ล้านบาทในงวดไตรมาส 2 ปี 51 ขณะที่ยอดสะสม 6 เดือน มีรายได้รวม 4,659.86 ล้านบาท เทียบกับ 3,260.50 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,243.59 ล้านบาท เทียบ 667.02 ล้านบาท
ด้านนายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP กล่าวว่า ไตรมาส 2 ปี52 บริษัทฯมีรายได้รวมเท่ากับ 2,408 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ The Address ชิดลม คิดเป็น 23% ของรายได้รวม โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 ของปี52 บริษัทฯ มีสัดส่วนการรับรู้รายได้จากการสินค้าประเภทคอนโดฯประมาณ 40% ด้านกำไรสุทธิเท่ากับ 350 ล้านบาท
สำหรับไตรมาส 2 บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายรวมได้จำนวน 3,666 ล้านบาท โดยเป็นยอดขายที่เกิดจากสินค้าแนวราบและแนวสูงในสัดส่วน 50:50 โดย 1,844 ล้านบาทเป็นยอดขายที่เกิดจากสินค้าประเภทคอนโดฯ โดยในไตรมาส 2 บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการ คือ The Address ปทุมวัน ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขาย 85% ซึ่งคาดว่าจะพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2552 และ Life @ ลาดพร้าว 18 มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขาย 48% และส่วนที่เหลือเป็นยอดขายที่เกิดจากสินค้าแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ จำนวน 1,822 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากภาพรวมของเศรษฐกิจที่ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หลายคนกังวล ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มกลับมา โดยสังเกตได้จากยอดขายในช่วงต้นไตรมาส 3 ช่วงเวลาประมาณ 1 เดือน บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายรวมจำนวน 1,846 ล้านบาท ส่งผลให้ ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ มียอดขายรวมสะสมเท่ากับ 7,089 ล้านบาท มีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) มากถึง 14,323 ล้านบาท เป็นสินค้าแนวราบมูลค่า 2,634 ล้านบาท และคอนโดฯ มูลค่า 11,689 ล้านบาท
ด้านบริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ไตรมาส 2 ปี 52 มีรายได้รวม 689.57 ล้านบาท มีผลขาดทุน282.91 ล้านบาท และงวด 6 เดือนสะสม รายได้รวม 1,536.08 ล้านบาท ขาดทุน 225.52 ล้านบาท
