อดีต รมว.ยุติธรรม ยันหวยบนดินมีคณะกรรมการดูแล เงินช่วยเด็กจน

“พงศ์เทพ” เบิกความยันหวยบนดินไม่ใช่สลากกินรวบ อ้างมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ดูแลการใช้เงินช่วยเหลือทุนการศึกษาเด็กยากไร้ ด้านรอง อสส.ระบุพบข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวน อัยการจึงปล่อย คตส.แต่งทนายฟ้องเอง

วันนี้ (29 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายสบโชค สุขารมณ์ รองประธานศาลฎีกา ว่าที่ประธานศาลฎีกาคนใหม่ เจ้าของสำนวนทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 และ 3 ตัว (หวยบนดิน) พร้อมองค์คณะ 9 คน ไต่สวนพยานจำเลย คดีหมายเลขดำ อม.1/2551 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี (จำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว) จำเลยที่ 1, อดีตคณะรัฐมนตรีชุดรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 2-30 และผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นจำเลยที่ 31-47 ในความผิดฐานร่วมกันทำผิดยักยอกทรัพย์, เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการดูแลกิจการ เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นและละเว้นไม่เรียกเก็บภาษีอากร และเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยมิชอบตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 152, 153, 154, 157 และ ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 3, 4, 8, 9, 10 และ 11 โดย ป.ป.ช.ขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยทั้งหมด ร่วมกันคืนเงินที่มีมติอนุมัติให้จ่ายไปรวมจำนวน 14,862,254,865.94บาท ให้แก่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย

โดยในวันนี้ ทนายความจำเลยนำนายทวีสิน หิรัญวัฒน์ศิริ อัยการผู้เชี่ยวชาญสำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย อนุกรรมคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เสียงข้างน้อย ขึ้นเบิกความสรุปว่า ที่มีความเห็นว่าไม่สมควรฟ้องคดีนี้เนื่องจากพิจารณาพยานหลักฐานแล้วไม่ปรากฏว่าโครงการหวยบนดินมีการทุจริตเกิดขึ้น เพราะไม่มีพยานหลักฐานใดที่จะบอกได้ว่ามีการนำเงินเข้ากระเป๋าของรัฐมนตรีหรือข้าราชการกองสลากคนใด และการขอมติ ครม.ก็ไม่ใช่ว่ารัฐมนตรีทุกคนจะเห็นด้วย ซึ่งนายอุดม เฟื่องฟุ้ง ประธาน อนุ คตส.แย้งว่า ไม่คัดค้านก็ถือเป็นการสนับสนุน เพื่อนำเงินไปให้ทุนลูกหลานหัวคะแนนพรรครัฐบาล ซึ่งข้อเท็จจริงไม่มีใครทราบว่าเมื่อตั้งโครงการมาแล้วจะได้เป็นรัฐบาลต่อไปอีกหรือไม่ อีกทั้งสลาก 2 และ 3 ตัว เป็นสลากการกุศล เพราะมีวัตถุประสงค์นำเงินไปช่วยเหลือด้านการศึกษา อาจแตกต่างกันเรื่องวิธีการเล่น จึงสามารถขออนุญาตกับกระทรวงมหาดไทย อนุมัติออกได้ ตาม พ.ร.บ.การพนัน ซึ่งของรางวัลจะเป็นอะไรก็ได้ขึ้นอยู่กับหน่วยงานผู้ขอออกสลากกำหนด อาทิ สลากกาชาดกรมที่ดิน มีบ้านและที่ดินเป็นรางวัล สลากสำนักงานอัยการสูงสุด มีรถยนต์เป็นรางวัล

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จำเลยที่ 20 ขึ้นเบิกความสรุปว่า การลงมติของ ครม.ผ่านโครงการหวยบนดิน ไม่มีการยกมือโหวตของรัฐมนตรีว่าเห็นด้วยหรือไม่ แต่มีการแสดงความคิดเห็นตามหลักการ แล้วนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้สรุป ซึ่งโครงการหวยบนดิน ครม.อนุมัติรับหลักการ แล้วส่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นว่ามติ ครม.ขัดกฎหมายต้องดำเนินการให้ถูกต้องจึงมีการแก้ไขกฎหมาย ส่วนเรื่องการจัดเก็บภาษีไม่ได้ขออนุมัติ ครม.อนุมัติขอยกเว้น โดยเจ้าหน้าที่เพียงแต่รายงานให้ทราบว่ามีการจัดเก็บภาษีเข้ากระทรวงการคลังอย่างไร ซึ่งเงินที่ได้จากการจำหน่ายหวยบนดินมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์พิจารณาให้ความช่วยเหลือทุนการศึกษาเด็กยากไร้ โดยจะคัดเลือกจากเด็กด้อยโอกาสและกระจายไปทั่วทุกภาคของประเทศ ส่วนตัวเห็นว่าสลาก 2 และ 3 ตัว เป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล เนื่องจากมีการจ่ายเงินรางวัลเป็นเงินสด ไม่ใช่สิ่งของ ตรงตามที่ พ.ร.บ.การพนันกำหนด และสอดคล้องกับคำพิพากษาศาลฎีกาที่เคยวินิจฉัยไว้ การที่คณะกรรมการกฤษฏีกาตีความว่า สลาก 2 ตัว และ 3 ตัว เป็นสลากกินรวบนั้นไม่น่าจะถูกต้องเพราะไม่มีการจ่ายเป็นของ และไม่มีความเสี่ยงขาดทุนหากโครงการสามารถดำเนินการไปในระยะยาว ทั้งนี้ ยืนยันว่าในการประชุม ครม.ทุกเรื่อง พยานจะพิจารณาถึงประโยชน์ส่วนรวมประเทศชาติเป็นสำคัญ ไม่เคยมีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการใด และไม่มีเจตนาที่จะทำให้กองสลากขาดทุนหรือเสียหาย

ด้าน นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะทำงานอัยการรับผิดชอบคดีที่เกี่ยวกับ คตส.เบิกความสรุปว่า คดีนี้อัยการมีความเห็นแจ้งข้อไม่สมูบูรณ์ในสำนวนรวม 5 ข้อไปให้ คตส.สอบเพิ่มเติม ประกอบด้วย 1.เรียกพยานมาให้การหรือรับรองเอกสารคำเบิกความในชั้นไต่สวนอนุ คตส. 2.สอบพยานผู้เชี่ยวชาญให้ชัดเจนว่าหวย 2-3 ตัว เป็นสลากกินแบ่งหรือกินรวบ หรือเป็นการพนันประเภทใด ซึ่งจะมีผลต่อการคำนวนภาษี 3.กองทัพอากาศเคยขอ ครม.ชุดก่อนๆ อนุมัติอออกสลากการกุศล ก่อสร้าง รพ.ภูมิพล ซึ่งต้องสอบให้ชัดเจนว่า ครม.ชุดนั้นมีหลักการอนุมัติอย่างไรและงดเว้นการเก็บภาษีด้วยหรือไม่ 4.การนำเงินรายได้ไปใช้ผิดถูกวัตถุประสงค์อย่างไร และ 5.หลังสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินรัฐสภา ตรวจสอบรายรับรายจ่ายกองสลากฯแล้วมีข้อท้วงติงหรือไม่อย่างไร แต่ปรากฏว่า คตส.ไม่สอบเพิ่มเติม กลับจ้างทนายความฟ้องเอง ทั้งที่ยังไม่ได้เป็นไปกรณีที่อัยการสูงสุดเห็นต่างกับ คตส.ที่จะให้อำนาจ คตส.ฟ้องคดีเอง อัยการยังไม่ได้พิจารณาไปในรายละเอียด ซึ่งคดีนี้หากเป็นอัยการจะยังไม่ยื่นฟ้องคดีเพราะอาจสร้างความเสียหายได้ และการที่ คตส.ตั้งทนายเอกชนในชั้นไต่สวนไม่น่าจะถูกต้องตามระเบียบการปฎิบัติราชการที่ห้ามมิให้คนภายนอกเข้ามามีส่วนรู้เห็นเอกสารหลักฐานในสำนวน

ภายหลังศาลไต่สวนเสร็จสิ้นแล้วนัดไต่สวนพยานจำเลยครั้งต่อไปวันที่ 4 สิงหาคมนี้ เวลา 09.30 น.