ASTVผู้จัดการรายวัน – นายกสมาคมเครื่องเรือนไทย รับจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกผู้ประกอบการได้รับผลกระทบหนัก โดยเฉพาะผู้ส่งออก เล็งหาตลาดใหม่ และสนใจตลาดในไทยมากขึ้น เชื่อครึ่งปีหลังตัวเลขส่งออกจะกลับสู่แดนบวก เผย BIG & BIH ต.ค. นี้ หวังโชว์ศักยภาพสินค้าไทยสู่อันดับหนึ่งเวทีอาเซียน เร่งประชาสัมพันธ์เชิงรุกแก่คู่ค้าต่างประเทศต่อเนื่อง
สุพัฒน์ ศรีวรรณวิทย์ นายกสมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย และนายกสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์เปิดเผยถึง ภาพรวมของสถานการณ์ธุรกิจเครื่องเรือนไทย ว่าที่ผ่านมาจากวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลก ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทย ที่เป็นสมาชิกอยู่ในสมาคมฯ ประมาณ 120 ราย โดยผลิตสินค้าประเภท พลาสติก สแตนเลส แก้ว ไม้ยางพารา และอื่นๆ ล้วนแต่ได้รับผลกระทบ ซึ่งผู้ประกอบการประมาณ 60-70% เป็นผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ในขณะที่อีก 30% เป็นการดำเนินธุรกิจเพื่อจำหน่ายในประเทศเพียงอย่างเดียว โดยที่ผ่านมาภาพรวมตลาดต่างประเทศในครึ่งปีแรกยังติดลบ ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่จากเดิมเน้นตลาดส่งออกเพียงอย่างเดียว เริ่มหันมองช่องว่างทางการตลาดในประเทศไทยมากขึ้น ควบคู่ไปกับการหาตลาดใหม่ในต่างประเทศ เช่น ประเภทศในแถบตะวันออกกลาง, เอเชีย และแอฟริกา เป็นต้น
“การดำเนินธุรกิจในขณะนี้ของผู้ประกอบการถือว่าค่อนข้างลำบาก เพราะต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งทางสมาคมฯ ก็พยายามให้สมาชิกแข่งขันในเรื่องของดีไซน์ พร้อมเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น โดยเชื่อว่าสินค้าประเภทเครื่องใช้ในครัวเรือนยังเติบโตต่อไปได้ เนื่องจากเป็นสินค้าในชีวิตประจำวันที่ผู้บริโภคยังต้องใช้งานอย่างต่อเนื่อง” นายกสมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทยกล่าว
สำหรับการเตรียมงานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน (Bangkok International Gift Fair & Bangkok International Houseware Fair : BIG & BIH October 2009) ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13-18 ตุลาคม 2552 นี้ ทางสมาคมฯ ได้เข้ารวมกับผู้ประกอบการอีก 6 สมาคมฯ ได้แก่ สมาคมของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมอุตสาหกรรมของเล่นไทย สมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมสินค้าตกแต่งบ้าน สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ และสมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แนวดีไซน์ ซึ่งทั้ง 7 สมาคมได้รวมตัวกันเป็น “สมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์” โดยได้นำสินค้ามาจัดแสดงในงาน
“แม้ผู้ประกอบการในสมาพันธ์ของเราจะเป็นรายย่อย หรือภาคธุรกิจเอสเอ็มอีเป็นหลัก แต่เมื่อพิจารณาดูแล้วถือว่ามีศักยภาพในการช่วยเศรษฐกิจของชาติได้ โดยมีมูลค่าการตลาดของสินค้าไลฟ์สไตล์ประมาณ 1 แสนล้านบาท ส่งผลให้มีการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 8 แสนราย ซึ่งผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกในสมาพันธ์กว่า 1,000 รายนั้นคาดหวังให้งาน BIG & BIH เป็นงานที่ทุกคนคาดหวังให้เป็นเวทีแสดงศักยภาพและโชว์สินค้าที่โดดเด่นที่สุดในภาคพื้นอาเซียน และพร้อมที่จะชักชวนนักธุรกิจจากประเทศคู่ค้ามาร่วมชมงานให้มากที่สุด” นายสุพัฒน์กล่าว
อย่างไรก็ตามงาน BIG & BIH ที่จะถึงนี้ทางสมาพันธ์ได้ทุ่มเทในเรื่องการประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่ พร้อมอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งในเรื่องการเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวประเทศไทยอย่างเต็มที่ รวมถึงทางนายกทั้ง 7 สมาคม เดินทางไปโรดโชว์เผยแพร่ข่าวสารดังกล่าวไปยังคู่ค้าต่างประเทศด้วยตัวเอง โดยคาดว่างาน BIG & BIH 2009 จะมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมชมงานมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
สุพัฒน์ ศรีวรรณวิทย์ นายกสมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย และนายกสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์เปิดเผยถึง ภาพรวมของสถานการณ์ธุรกิจเครื่องเรือนไทย ว่าที่ผ่านมาจากวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลก ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทย ที่เป็นสมาชิกอยู่ในสมาคมฯ ประมาณ 120 ราย โดยผลิตสินค้าประเภท พลาสติก สแตนเลส แก้ว ไม้ยางพารา และอื่นๆ ล้วนแต่ได้รับผลกระทบ ซึ่งผู้ประกอบการประมาณ 60-70% เป็นผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ในขณะที่อีก 30% เป็นการดำเนินธุรกิจเพื่อจำหน่ายในประเทศเพียงอย่างเดียว โดยที่ผ่านมาภาพรวมตลาดต่างประเทศในครึ่งปีแรกยังติดลบ ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่จากเดิมเน้นตลาดส่งออกเพียงอย่างเดียว เริ่มหันมองช่องว่างทางการตลาดในประเทศไทยมากขึ้น ควบคู่ไปกับการหาตลาดใหม่ในต่างประเทศ เช่น ประเภทศในแถบตะวันออกกลาง, เอเชีย และแอฟริกา เป็นต้น
“การดำเนินธุรกิจในขณะนี้ของผู้ประกอบการถือว่าค่อนข้างลำบาก เพราะต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งทางสมาคมฯ ก็พยายามให้สมาชิกแข่งขันในเรื่องของดีไซน์ พร้อมเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น โดยเชื่อว่าสินค้าประเภทเครื่องใช้ในครัวเรือนยังเติบโตต่อไปได้ เนื่องจากเป็นสินค้าในชีวิตประจำวันที่ผู้บริโภคยังต้องใช้งานอย่างต่อเนื่อง” นายกสมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทยกล่าว
สำหรับการเตรียมงานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน (Bangkok International Gift Fair & Bangkok International Houseware Fair : BIG & BIH October 2009) ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13-18 ตุลาคม 2552 นี้ ทางสมาคมฯ ได้เข้ารวมกับผู้ประกอบการอีก 6 สมาคมฯ ได้แก่ สมาคมของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมอุตสาหกรรมของเล่นไทย สมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมสินค้าตกแต่งบ้าน สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ และสมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แนวดีไซน์ ซึ่งทั้ง 7 สมาคมได้รวมตัวกันเป็น “สมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์” โดยได้นำสินค้ามาจัดแสดงในงาน
“แม้ผู้ประกอบการในสมาพันธ์ของเราจะเป็นรายย่อย หรือภาคธุรกิจเอสเอ็มอีเป็นหลัก แต่เมื่อพิจารณาดูแล้วถือว่ามีศักยภาพในการช่วยเศรษฐกิจของชาติได้ โดยมีมูลค่าการตลาดของสินค้าไลฟ์สไตล์ประมาณ 1 แสนล้านบาท ส่งผลให้มีการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 8 แสนราย ซึ่งผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกในสมาพันธ์กว่า 1,000 รายนั้นคาดหวังให้งาน BIG & BIH เป็นงานที่ทุกคนคาดหวังให้เป็นเวทีแสดงศักยภาพและโชว์สินค้าที่โดดเด่นที่สุดในภาคพื้นอาเซียน และพร้อมที่จะชักชวนนักธุรกิจจากประเทศคู่ค้ามาร่วมชมงานให้มากที่สุด” นายสุพัฒน์กล่าว
อย่างไรก็ตามงาน BIG & BIH ที่จะถึงนี้ทางสมาพันธ์ได้ทุ่มเทในเรื่องการประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่ พร้อมอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งในเรื่องการเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวประเทศไทยอย่างเต็มที่ รวมถึงทางนายกทั้ง 7 สมาคม เดินทางไปโรดโชว์เผยแพร่ข่าวสารดังกล่าวไปยังคู่ค้าต่างประเทศด้วยตัวเอง โดยคาดว่างาน BIG & BIH 2009 จะมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมชมงานมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา