อินเด็กซ์ฯ ย้ำคงนโยบายขยายสาขา ระบุความต้องการลูกค้ายังต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าซื้อบ้าน-คอนโดฯที่การก่อสร้างแล้วเสร็จในปีนี้ ยันเดินหน้าทุ่มทุนกว่า2,000ล้านบาทขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก4สาขา กทม.2 ต่างจังหวัด2 หวังขยายตลาดครอบคลุมความต้องการลูกค้าทั่วประเทศในปี52 เผย2ไตรมาสยอดขายเติบโตจากปีที่ผ่านมากว่า7% แล้ว่ผ่านมา"ค้า ร์ท องตัวอย่างในโครงการจัดสรร คอนโดมิเนียม และการออกแบบ
นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์ด้านการเมืองจะยังผันผวน เศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการน้ำมันขึ้นราคาต่อเนื่อง ยังส่งผลต่ออัตราการขายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ทำให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงที่ผ่านมาลดลง แต่อินเด็กซ์ฯยังคงนโยบายการขยายสาขาตามแผนเดิมโดยตั้งเป้าว่าจะขยายสาขาให้ครบ20สาขาในปี2552เพื่อรองรับความต้องการสิ้นค้าตกแต่งบ้านให้มากที่สุด
โดยหลังจากบริษัทได้เปิดให้บริการสาขาที่16 ที่ชลบุรีไปเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมาแล้วในปีนี้ยังมีแผนจะเปิดบริการสาขาใหม่เพิ่มอีก 1 สาขาที่จังหวัดขอนแก่นในเดือน ส.ค.นี้ ส่วนในปี52 บริษัทจะเพปิดสาขาเพิ่มอีก3 สาขาประกอบด้วยสาขาในกรุงเทพฯ2สาขาคือสาขาบางนาที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และอีกสาขาที่อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างสาขาใหม่ ส่วนอีก1 สาขาจะเปิดในต่างจังหวัดซึ่งจะใช้งบประมาณการลงทุนรวม2,000 ล้านบาทในการเปิดสาขาใหม่ทั้ง4 สาขาโดยนับรวมสาขาขอนแกนด้วย
ทั้งนี้ แม้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยในปีนี้จะมีการชะลอตัวลง แต่ความต้องการเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านของลูกค้ายังมีต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ซื้อบ้านและห้องชุดในโครงการคอนโดมิเนียมที่เริ่มทยอยก่อสร้างเสร็จในปีนี้ ซึ่งมีการซื้อเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้าน เพื่อตกแต่งบ้านที่ซื้อไปแล้วยังมีความต่อเนื่องอยู่ ทำให้ในช่อง2ไตรมาสที่ผ่านมีบริษัทมียอดขายเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 7%
โดยยอดขายที่เติบโตเพิ่มขึ้นดังกล่าว ส่วนใหญ่มาจากการขายปลีกในร้านค้าโมเดิร์นเทรด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงมีความต้องการซื้อเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากการสำรวจพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของลูกค้าดินเด็กซ์ฯนั้น พบว่าส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากแนวคิดการส่งเสริมให้ต้องการตกแต่งบ้านให้มีความน่าอยู่ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตกแต่งห้องตัวอย่างในโครงการจัดสรร คอนโดมิเนียม และการออกแบบห้องตัวอย่างในร้านค้าอินเด็กซ์ลีฟวิงมอลล์ ซึ่งเป็นการแนะแนวการตกแต่งบ้าน เช่น ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว ฯลฯ
“ในช่วงที่ผ่านมาเราเน้นการสร้างแบรนด์ การพัฒนาสินค้าใหม่ๆออกวางตลาดในทุกๆ 3เดือน และการวางราคาขายราคาเดียวหรือ Joy Price ซึ่งกระตุ้นให้ลูกค้าต้องการตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น นอกจากนี้อินเด็กซ์ฯยังพยายามสร้างให้ลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมในการตกแต่งจากอดีต ที่ซื้อเฟอร์นิเจอร์เป็นชิ้นๆในการตกแต่งบ้าน แต่ปัจจุบันบริษัทพยายามนำเรื่องของการออกแบบตกแต่งห้องให้กลมกลืน และมีสไตล์ในการตกแต่ง เพื่อเพิ่มยอดซื้อแต่ละครั้งของลูกค้า โดยการออกแบบชุดตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ในแต่ละห้อง เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าเป็นชุดไม่ใช่ซื้อเป้ฯชิ้นแบบที่ผ่านมา”
สำหรับปีนี้อินเด็กซ์ฯ ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวมเติบโตจากปีที่แล้ว 10% หรือมียอดขายเพิ่มเป็น7,500ล้านบาทจากที่ปีที่ผ่านมามียอดขายรวม 6,800ล้านบาท ซึ่งแม้ว่าในช่วง2ไตรมาสแรกยอดขายจะเติบโตเพียง7%ไม่ได้ตามเป้าแต่มั่นใจว่าในช่วงครึ่งปีหลัง เมื่อการเมืองและเศรษฐกิจเริ่มนิ่งตลาดจะฟื้นตัวกลัวมาอีกครั้ง”
นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์ด้านการเมืองจะยังผันผวน เศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการน้ำมันขึ้นราคาต่อเนื่อง ยังส่งผลต่ออัตราการขายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ทำให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงที่ผ่านมาลดลง แต่อินเด็กซ์ฯยังคงนโยบายการขยายสาขาตามแผนเดิมโดยตั้งเป้าว่าจะขยายสาขาให้ครบ20สาขาในปี2552เพื่อรองรับความต้องการสิ้นค้าตกแต่งบ้านให้มากที่สุด
โดยหลังจากบริษัทได้เปิดให้บริการสาขาที่16 ที่ชลบุรีไปเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมาแล้วในปีนี้ยังมีแผนจะเปิดบริการสาขาใหม่เพิ่มอีก 1 สาขาที่จังหวัดขอนแก่นในเดือน ส.ค.นี้ ส่วนในปี52 บริษัทจะเพปิดสาขาเพิ่มอีก3 สาขาประกอบด้วยสาขาในกรุงเทพฯ2สาขาคือสาขาบางนาที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และอีกสาขาที่อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างสาขาใหม่ ส่วนอีก1 สาขาจะเปิดในต่างจังหวัดซึ่งจะใช้งบประมาณการลงทุนรวม2,000 ล้านบาทในการเปิดสาขาใหม่ทั้ง4 สาขาโดยนับรวมสาขาขอนแกนด้วย
ทั้งนี้ แม้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยในปีนี้จะมีการชะลอตัวลง แต่ความต้องการเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านของลูกค้ายังมีต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ซื้อบ้านและห้องชุดในโครงการคอนโดมิเนียมที่เริ่มทยอยก่อสร้างเสร็จในปีนี้ ซึ่งมีการซื้อเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้าน เพื่อตกแต่งบ้านที่ซื้อไปแล้วยังมีความต่อเนื่องอยู่ ทำให้ในช่อง2ไตรมาสที่ผ่านมีบริษัทมียอดขายเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 7%
โดยยอดขายที่เติบโตเพิ่มขึ้นดังกล่าว ส่วนใหญ่มาจากการขายปลีกในร้านค้าโมเดิร์นเทรด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงมีความต้องการซื้อเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากการสำรวจพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของลูกค้าดินเด็กซ์ฯนั้น พบว่าส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากแนวคิดการส่งเสริมให้ต้องการตกแต่งบ้านให้มีความน่าอยู่ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตกแต่งห้องตัวอย่างในโครงการจัดสรร คอนโดมิเนียม และการออกแบบห้องตัวอย่างในร้านค้าอินเด็กซ์ลีฟวิงมอลล์ ซึ่งเป็นการแนะแนวการตกแต่งบ้าน เช่น ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว ฯลฯ
“ในช่วงที่ผ่านมาเราเน้นการสร้างแบรนด์ การพัฒนาสินค้าใหม่ๆออกวางตลาดในทุกๆ 3เดือน และการวางราคาขายราคาเดียวหรือ Joy Price ซึ่งกระตุ้นให้ลูกค้าต้องการตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น นอกจากนี้อินเด็กซ์ฯยังพยายามสร้างให้ลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมในการตกแต่งจากอดีต ที่ซื้อเฟอร์นิเจอร์เป็นชิ้นๆในการตกแต่งบ้าน แต่ปัจจุบันบริษัทพยายามนำเรื่องของการออกแบบตกแต่งห้องให้กลมกลืน และมีสไตล์ในการตกแต่ง เพื่อเพิ่มยอดซื้อแต่ละครั้งของลูกค้า โดยการออกแบบชุดตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ในแต่ละห้อง เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าเป็นชุดไม่ใช่ซื้อเป้ฯชิ้นแบบที่ผ่านมา”
สำหรับปีนี้อินเด็กซ์ฯ ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวมเติบโตจากปีที่แล้ว 10% หรือมียอดขายเพิ่มเป็น7,500ล้านบาทจากที่ปีที่ผ่านมามียอดขายรวม 6,800ล้านบาท ซึ่งแม้ว่าในช่วง2ไตรมาสแรกยอดขายจะเติบโตเพียง7%ไม่ได้ตามเป้าแต่มั่นใจว่าในช่วงครึ่งปีหลัง เมื่อการเมืองและเศรษฐกิจเริ่มนิ่งตลาดจะฟื้นตัวกลัวมาอีกครั้ง”