ASTVผู้จัดการรายวัน – สตาร์สฯ เตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยและเสนอขายหุ้นไอพีโอแก่นักลงทุนในช่วงกันยายนนี้ หวังนำที่ได้เงินชำระหนี้เงินกู้ของธุรกิจ ตั้งเป้ากำไรปีนี้โต 10-15% หลังเข้าช่วงไฮซีซันประกอบการออกสินค้าใหม่ช่วงปลายปีนี้ ด้าน"ประเสริฐ"ชี้ช่วงนี้เหมาะสมระดมทุน เหตุเศรษฐกิจกิจโลกเริ่มฟื้นตัว
นายพลศักดิ์ เลิศพุฒิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเข้าจดทะเบียนและทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ช่วงเดือนกันยายน 52 และคาดว่าจะสามารถเข้าเทรดได้เดือนดังกล่าว เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้ล้างหนี้เงินกู้เกือบทั้งหมด
ทั้งนี้ ปัจจุบันทาง SMT มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 736 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 368 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) อยู่ที่ 2 บาทต่อหุ้น โดยแบ่งเป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 552 ล้าน แบ่งเป็น 276 ล้านหุ้น และมีแผนที่จะเสนอขายไอพีโอของบริษัททั้งหมดจำนวน 92 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียน โดยจะเสนอขายให้กับนักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนสถาบันประมาณกันยายนนี้เช่นกัน
สำหรับผลประกอบการในปี 52 บริษัทตั้งเป้าจะมีกำไรสุทธิโตประมาณ 10-15% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 201 ล้านบาท เนื่องจากปกติแล้วช่วงครึ่งปีหลังถือเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจประกอบกับทางบริษัทเตรียมออกสินค้าใหม่ 2 ตัว ซึ่งประกอบด้วยเครื่องฉายภาพบนฝาผนังในโทรศัพท์มือถือ และชิฟควบคุมการทำงานของระบบถุงลมนิรภัย น่าจะสามารถช่วยให้กำไรของบริษัทเติบโตได้ตามที่วางไว้ และเชื่อว่าน่าจะทำให้กำไรสุทธิในปีหน้าขยายตัวถึง 15%
"ธุรกิจหลักของเรามี 2 ส่วนหลักคือ ธุรกิจผลิตและประกอบชิ้นส่วนไมโครอิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจผลิตและทดสอบไอซีชิพ ซึ่งสร้างรายได้ให้กับบริษัทเป็นอย่างดี โดยจะเน้นร่วมพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ร่วมกับลูกค้าจึงทำให้สามารถรักษาฐานลูกค้าได้อย่างยั่งยื่น ซึ่งช่วง 6 เดือนแรกของปี 52 มีรายได้ 4.63 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 115 ล้านบาท และผลงานปีนี้ใกล้เคียงปี51 ที่ทำได้ที่ 1.21 หมื่นล้านบาท" ” นายพลศักดิ์กล่าว
นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวาณิชธกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินกล่าวว่าช่วงเวลานี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการระดมเงินทุนเพื่อขยายกิจการของธุรกิจ หลังเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยการขายหุ้นไอพีโอของ SMT จะเสนอขายผ่านบล.ทิสโก้เป็นแกนหลัก และมีทางบริษัทหลักทรัพย์อีก 4 แห่ง ได้แก่ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (KEST), บล.เอเซียพลัส (ASP), บล.ธนชาต, บล.บีที เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นครั้งนี้อีกด้วย
โดย สัปดาห์หน้าบริษัทฯ เตรียมเดินทางโรดโชว์หุ้นของบมจ.สตาร์สฯ แก่นักลงทุนสถาบัน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการเดินสายแล้วเสร็จประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนราคาไอพีโอที่ชัดเจนชื่อว่าน่าจะได้เห็นไม่เกินสิ้นเดือนสิงหาคม 52 และจากการตรวจสอบฐานะทางการเงินของ SMT พบว่ามีหนี้สิ้นระยะกว่า 900 ล้านบาท และหนี้สินระยะยาว 300 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ปัจจุบันอยู่ที่ 2.49 เท่า ซึ่งทางบริษัทประเมินว่าหลังจากเข้าระดมทุนในตลาดเพื่อนำเงินมาใช้ล้างหนี้เงินกู้น่าจะทำให้ D/E ของบริษัทปรับลงมาอยู่ที่ประมาณ 1 กว่าเท่า
นายพลศักดิ์ เลิศพุฒิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเข้าจดทะเบียนและทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ช่วงเดือนกันยายน 52 และคาดว่าจะสามารถเข้าเทรดได้เดือนดังกล่าว เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้ล้างหนี้เงินกู้เกือบทั้งหมด
ทั้งนี้ ปัจจุบันทาง SMT มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 736 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 368 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) อยู่ที่ 2 บาทต่อหุ้น โดยแบ่งเป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 552 ล้าน แบ่งเป็น 276 ล้านหุ้น และมีแผนที่จะเสนอขายไอพีโอของบริษัททั้งหมดจำนวน 92 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียน โดยจะเสนอขายให้กับนักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนสถาบันประมาณกันยายนนี้เช่นกัน
สำหรับผลประกอบการในปี 52 บริษัทตั้งเป้าจะมีกำไรสุทธิโตประมาณ 10-15% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 201 ล้านบาท เนื่องจากปกติแล้วช่วงครึ่งปีหลังถือเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจประกอบกับทางบริษัทเตรียมออกสินค้าใหม่ 2 ตัว ซึ่งประกอบด้วยเครื่องฉายภาพบนฝาผนังในโทรศัพท์มือถือ และชิฟควบคุมการทำงานของระบบถุงลมนิรภัย น่าจะสามารถช่วยให้กำไรของบริษัทเติบโตได้ตามที่วางไว้ และเชื่อว่าน่าจะทำให้กำไรสุทธิในปีหน้าขยายตัวถึง 15%
"ธุรกิจหลักของเรามี 2 ส่วนหลักคือ ธุรกิจผลิตและประกอบชิ้นส่วนไมโครอิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจผลิตและทดสอบไอซีชิพ ซึ่งสร้างรายได้ให้กับบริษัทเป็นอย่างดี โดยจะเน้นร่วมพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ร่วมกับลูกค้าจึงทำให้สามารถรักษาฐานลูกค้าได้อย่างยั่งยื่น ซึ่งช่วง 6 เดือนแรกของปี 52 มีรายได้ 4.63 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 115 ล้านบาท และผลงานปีนี้ใกล้เคียงปี51 ที่ทำได้ที่ 1.21 หมื่นล้านบาท" ” นายพลศักดิ์กล่าว
นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวาณิชธกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินกล่าวว่าช่วงเวลานี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการระดมเงินทุนเพื่อขยายกิจการของธุรกิจ หลังเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยการขายหุ้นไอพีโอของ SMT จะเสนอขายผ่านบล.ทิสโก้เป็นแกนหลัก และมีทางบริษัทหลักทรัพย์อีก 4 แห่ง ได้แก่ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (KEST), บล.เอเซียพลัส (ASP), บล.ธนชาต, บล.บีที เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นครั้งนี้อีกด้วย
โดย สัปดาห์หน้าบริษัทฯ เตรียมเดินทางโรดโชว์หุ้นของบมจ.สตาร์สฯ แก่นักลงทุนสถาบัน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการเดินสายแล้วเสร็จประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนราคาไอพีโอที่ชัดเจนชื่อว่าน่าจะได้เห็นไม่เกินสิ้นเดือนสิงหาคม 52 และจากการตรวจสอบฐานะทางการเงินของ SMT พบว่ามีหนี้สิ้นระยะกว่า 900 ล้านบาท และหนี้สินระยะยาว 300 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ปัจจุบันอยู่ที่ 2.49 เท่า ซึ่งทางบริษัทประเมินว่าหลังจากเข้าระดมทุนในตลาดเพื่อนำเงินมาใช้ล้างหนี้เงินกู้น่าจะทำให้ D/E ของบริษัทปรับลงมาอยู่ที่ประมาณ 1 กว่าเท่า
