xs
xsm
sm
md
lg

ยันกองTDEXสภาพคล่องสูง พร้อมซื้อขายทั้งรายใหญ่-ย่อย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.วรรณ ยัน"TDEX"สภาพคล่องสูง มี"Market Maker"คอยดูแลการซื้อขายแบบเรียวไทม์ตลอดเวลา มั่นใจเพียงพอต่อความต้องการของรายใหญ่ เหตุมีผู้ค้าหน่วยลงทุนรองรับถึง 5 บลจ. พร้อมแนะนักลงทุนเลือกซื้อขายตามชอบ เนื่องจากราคาจะแตกต่างกัน

นายชัยพฤกษ์ กุลกาญจนาธร ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า การที่นักลงทุนบางกลุ่มมองว่าสภาพคล่องของ Exchange Traded Fund (ETF)ระหว่างชั่วโมงซื้อขายมีอยู่ในระดับต่ำมาก หรือไม่กระจายอย่างสม่ำเสมอจนทำให้นักลงทุน โดยเฉพาะรายใหญ่ทำการซื้อขายได้ลำบากนั้น
 ทั้งนี้ ทางบลจ.วรรณ ยืนยันว่า กองทุนเปิด Thaidex SET50 ETF (TDEX)ที่เป็นกองทุนETF ของบริษัทจะสามารถทำการซื้อขายได้ตลอดเวลา และมีสภาพคล่องในการซื้อขายมาก เนื่องจากมี Market Maker เป็นผู้ดูแลสภาพคล่องของกองทุนและคอยส่งคำสั่งเสนอซื้อ(Bit)และส่งคำสั่งเสนอขายหน่วยลงทุน(Offer)ให้มีความใกล้เคียงกับมูลค่าหน่วยลงทุนที่แท้จริงเสมอ
 "กองทุนเปิดTDEX มีการซื้อขายใน1 วันถึง40-50 ล้านบาท โดยหากนักลงทุนรายใหญ่ที่ต้องการซื้อหน่วยลงทุนเป็นจำนวนมาก บริษัทได้จัดให้มีผู้ค้าหน่วยลงทุนเพื่อรองรับนักลงทุนในส่วนนี้อยู่แล้ว จำนวน 5 บริษัท  1 บิ๊กล๊อตเท่ากับ 2 ล้านหน่วยเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนรายใหญ่ที่ไม่อยากเสียเวลาในการเคาะราคา อย่างไรก็ตาม หากนักลงทุนรายต้องการที่จะขายหน่วยลงทุนเป็นจำนวนมากก็สามารถติดต่อผู้ค้าหน่วยเพื่อความสะดวกของนักลงทุนได้"นายชัยพฤกษ์กล่าว
นายชัยพฤกษ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามราคาที่นักลงทุนจะซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดTDEXผ่านผู้ค้าหน่วยลงทุนนั้น จะเป็นราคาที่ผู้ค้าหน่วยเหล่านี้จะเสนอให้ ไม่ใช่ราคาที่มีการเคาะอยู่บนกระดานในช่วงนั้น แต่จะมีการอ้างอิงกับราคาบนกระดาน เช่น ราคาซื้อบนกระดานขณะนั้นอยู่ที่4.17 บาท แต่ราคาที่ผู้ค้าหน่วยเสนอให้อาจจะเป็นราคา4.20 บาท ขณะเดียวกันในการขายหน่วยลงทุนก็เช่นเดียวกัน
 "คงต้องขึ้นอยู่กับภาวะความชอบของนักลงทุนแต่ละคน และขึ้นอยู่กับว่านักลงทุนแต่ละคนจะมีการเกี่ยงราคามากน้อยแค่ไหนด้วย อีกทั้งนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุนเปิดTDEX ขณะนี้มีทั้งนักลงทุนที่มีความชื่นชอบการซื้อขายบนกระดาน และซื้อขายกับผู้ค้าหน่วยลงทุน โดยซื้อครั้งละ2ล้านหุ้น"นายชัยพฤกษ์กล่าว
 สำหรับผู้ค้าหน่วยลงทุนทั้ง 5 บริษัทได้แก่ 1.บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 2.บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 3.บล. บัวหลวง จำกัด (มหาชน) 4.บล.ธนชาติ และ5.บล.ซิตี้คอร์ป(ประเทศไทย)จำกัด ที่ทำการซื้อขายแบบบิ๊กล๊อต
 นายชัยพฤกษ์ กล่าวถึงการส่งคำสั่งซื้อขายว่า จะมีการกระจายคำสั่งไปยังช่องBitหรือOfferที่มีด้วยกันทั้งหมดข้างละ 5 ช่องเพื่อนักลงทุนได้ทำการเสนอซื้อเสนอขาย โดยจะมีการโชว์อยู่บนกระดานเพื่อนักลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อหน่วยลงทุนของ ETF ได้ในราคาที่แท้จริงซึ่งมีการอัพเดทอยู่ตลอดเวลา
โดยการพิจารณาการซื้อขายของกองทุนเปิดTDEX ที่ใช้ในBit หรือ Offer นั้นมีความห่างกันที่ 0.01บาท โดยMarket Maker จะคอยป้อนข้อมูลซื้อขายโดยกระจายไปยังช่องBit และOffer ซึ่งจะมีการกระจายราคา เช่น Market Maker ก็จะใส่ราคาทั้ง5 ช่องของBit โดยมีการเรียง 4.18บาท 4.19บาท 4.20บาท 4.21 บาท4.22 บาทเป็นต้น ซึ่งหากราคาช่วงนั้นตรงกับคำสั่งซื้อของนักลงทุนที่มีการเคาะซื้อและมีการขายออกมานักลงทุนก็จะได้รับหน่วยลงทุน 
 "สมมุติว่า นักลงทุนต้องการซื้อหน่วยลงทุนในราคาอยู่ที่ 4.17บาท แต่ราคาบนระดานอยู่ที่ 4.20 บาท นักลงทุนจะไม่สามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ ดังนั้น นักลงทุนควรที่จะกระจายราคาซื้อและขาย เนื่องจากช่วงราคาจะเป็นช่วงความห่างที่แคบมากเมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อขายหุ้นบางตัวในตลาด จึงทำให้เวลามีการเคาะเพื่อซื้อขายหน่วยลงทุนไม่จำเป็นที่ทุกครั้งนักลงทุนจะต้องซื้อแพงขายถูกเสมอไป" นายชัยพฤกษ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น