บล.เคจีไอ จับมือบลจ.วรรณ ออกกองทุนอีทีเอฟโกลด์ฟิวเจอร์ส ปีหน้า หลังแบงก์ชาติไฟเขียว มาร์เกตเมกเกอร์เทรดกองทุนทองคำต่างประเทศ ด้าน “ซัมซุง อินเวสเม้นท์ทรัสต์” พันธมิตรจากเกาหลีจะเป็นผู้ช่วยสนับสนุนระบบ ขณะเดียวกันเตรียมจัดตั้งกองทุนอีทีเอฟฟุตซี่ เซ็ท ลาร์จ แคป พร้อมเปิดตัวผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนเพิ่มอีก 2 บล.
นางสาวนฤมล อาจอำนวยวิภาส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI เปิดเผยว่า ในปี 2553 บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนอีทีเอฟอ้างอิงโกลด์ฟิวเจอร์ส ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ได้อนุมัติ ผู้ดูแลสภาพคล่อง (มาร์เกตเมคเกอร์) โกลด์ฟิวเจอร์สของ ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) ทำหน้าที่เสริมสภาพคล่องในโกลด์ฟิวเจอร์ส ซึ่งสามารถซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำและกองทุนทองคำ (Gold ETF) ในตลาดต่างประเทศได้
ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกให้ Market Maker สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่องในตลาดอนุพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจากการที่บริษัทมีการจัดตั้งกองทุนอีทีเฟโกลด์ฟิวเจอร์ขึ้นมา เมื่อนักลงทุนเข้ามาซื้อกับทางบล.เคจีไอ ซึ่งบริษัทจะต้องไปซื้อกองทุนทองคำในต่างประเทศไว้เพื่อที่จะมาออกเสนอขายแก่นักลงทุน โดยเป็นการบริหารความเสี่ยงในการดำเนินงานดังกล่าวแก่บริษัท ซึ่งฝ่ายการลงทุนของบล.เคจีไอ จะทำให้หน้าที่ในการลงทุนต่างประเทศ
สำหรับขั้นตอนในการดำเนินงานนั้น ในปลายปีนี้ทางพันธมิตรของบริษัทคือ บลจ.ซัมซุง อินเวสเม้นท์ทรัสต์ กองทุนจากประเทศเกาหลี ซึ่งขณะอยู่ระหว่างการจัดตั้งกองทุนอีทีเอฟโกลด์ฟิวเจอร์ส โดยทางซัมซุง อินเวส์เม้นท์ฯ จะเข้ามาช่วยทาง บล.เคจีไอในการพัฒนาระบบ และการเตรียมงานที่จะออกเสนอขาย ซึ่งที่ผ่านมาทางบล.เคจีไอ ได้มีการชักชวนให้บลจ. ซัมซุง อินเวสเม้นท์ทรัสต์เข้ามาลงทุนในกองทุนอีทีเอฟของไทย และทางบลจ.ซัมซุง อินเวสเม้นท์ทรัสต์ นั้นได้มีการเข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวแล้ว แต่เชื่อว่าจะยังไม่เข้ามาลงทุนเพิ่ม เพราะจากที่บริษัทดังกล่าวมีการออกอีทีเอฟโกลด์ฟิวเจอร์สจำเป็นที่จะต้องเก็บเงินไว้เพื่อดูแลสภาพคล่องกองทุนดังกล่าว
“จากการที่ทางซัมซุง อินเวสเม้นท์ทรัสต์ ได้มีการจัดตั้งกองทุนอีทีเอฟโกลด์ฟิวเจอร์ส ซึ่งทางบล.เคจีไอ จะไปชวนให้เขามาช่วยเราในการเตรียมการในการออกกองทุนอีทีเอฟโกลด์ฟิวเจอร์ส ออกเสนอขายแก่นักลงทุนไทย ในปลายปีนี้ และคาดว่าจะจัดตั้งและเสนอขายได้ในปีหน้า ซึ่งการออกกองทุนดังกล่าวถือว่ามีรายละเอียดขั้นตอนเยอะ และบริษัทต้องมีการไปซื้อทองคำในต่างประเทศเก็บไว้เพื่อที่จะนำมาออกเสนอขายแก่นักลงทุน โดยบริษัทจะลงทุนโดยการซื้อผ่านเคจีไอที่ฮ่องกง ทำหน้าที่ในการซื้อให้”นางนฤมล กล่าว
นางสาวนฤมล กล่าวว่า ทางบลจ.วรรณ และทางบล.เคจีไอ จะมีการร่วมจัดตั้งกองทุน อีทีเอฟอ้างอิงกับดัชนีฟุตซี่ เซ็ท ลาร์จ แคป (FTSE SET Large Cap ETF) ซึ่งคาดว่าจะเสนอขายแก่นักลงทุนได้ในเดือนตุลาคมนี้ โดยจะมีผู้ร่วมค้าหน่วยเพื่ออีก 2 บล. จากปัจจุบันที่มีผู้ร่วมค้าหน่วยกองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ จำนวน 4 บล.คือ บล.เคจีไอ บล.กิมเอ็ง บล.บัวหลวง บล.ธนชาต และบล.ซิตี้คอร์ป (ประเทศไทย)
ทั้งนี้ ในดัชนีฟุตซี่ เซ็ท ลาร์จ แคป นั้นจะมีหุ้นที่ใช้คำนวณจำนวน 30 หุ้น ซึ่งเป็นหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) และสภาพคล่องสูง ซึ่งจะกระจายในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และพลังงาน ซึ่งต่างจากหุ้นใน SET 50 ที่จะเป็นหุ้นที่ในกลุ่มพลังงานเป็นส่วนใหญ่ และจากที่บริษัทจะมีการกองทุน อีทีเอฟอ้างอิงกับดัชนีฟุตซี่ เซ็ท ลาร์จ แคปนั้น จะมีการเดินทางไปให้ข้อมูลแก่นักลงทุนต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในกองทุนอีทีเอฟ และจากการที่นักลงทุนต่างชาติรู้จักฟุตซี่ ทำให้เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุน
นางสาวนฤมล อาจอำนวยวิภาส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI เปิดเผยว่า ในปี 2553 บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนอีทีเอฟอ้างอิงโกลด์ฟิวเจอร์ส ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ได้อนุมัติ ผู้ดูแลสภาพคล่อง (มาร์เกตเมคเกอร์) โกลด์ฟิวเจอร์สของ ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) ทำหน้าที่เสริมสภาพคล่องในโกลด์ฟิวเจอร์ส ซึ่งสามารถซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำและกองทุนทองคำ (Gold ETF) ในตลาดต่างประเทศได้
ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกให้ Market Maker สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่องในตลาดอนุพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจากการที่บริษัทมีการจัดตั้งกองทุนอีทีเฟโกลด์ฟิวเจอร์ขึ้นมา เมื่อนักลงทุนเข้ามาซื้อกับทางบล.เคจีไอ ซึ่งบริษัทจะต้องไปซื้อกองทุนทองคำในต่างประเทศไว้เพื่อที่จะมาออกเสนอขายแก่นักลงทุน โดยเป็นการบริหารความเสี่ยงในการดำเนินงานดังกล่าวแก่บริษัท ซึ่งฝ่ายการลงทุนของบล.เคจีไอ จะทำให้หน้าที่ในการลงทุนต่างประเทศ
สำหรับขั้นตอนในการดำเนินงานนั้น ในปลายปีนี้ทางพันธมิตรของบริษัทคือ บลจ.ซัมซุง อินเวสเม้นท์ทรัสต์ กองทุนจากประเทศเกาหลี ซึ่งขณะอยู่ระหว่างการจัดตั้งกองทุนอีทีเอฟโกลด์ฟิวเจอร์ส โดยทางซัมซุง อินเวส์เม้นท์ฯ จะเข้ามาช่วยทาง บล.เคจีไอในการพัฒนาระบบ และการเตรียมงานที่จะออกเสนอขาย ซึ่งที่ผ่านมาทางบล.เคจีไอ ได้มีการชักชวนให้บลจ. ซัมซุง อินเวสเม้นท์ทรัสต์เข้ามาลงทุนในกองทุนอีทีเอฟของไทย และทางบลจ.ซัมซุง อินเวสเม้นท์ทรัสต์ นั้นได้มีการเข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวแล้ว แต่เชื่อว่าจะยังไม่เข้ามาลงทุนเพิ่ม เพราะจากที่บริษัทดังกล่าวมีการออกอีทีเอฟโกลด์ฟิวเจอร์สจำเป็นที่จะต้องเก็บเงินไว้เพื่อดูแลสภาพคล่องกองทุนดังกล่าว
“จากการที่ทางซัมซุง อินเวสเม้นท์ทรัสต์ ได้มีการจัดตั้งกองทุนอีทีเอฟโกลด์ฟิวเจอร์ส ซึ่งทางบล.เคจีไอ จะไปชวนให้เขามาช่วยเราในการเตรียมการในการออกกองทุนอีทีเอฟโกลด์ฟิวเจอร์ส ออกเสนอขายแก่นักลงทุนไทย ในปลายปีนี้ และคาดว่าจะจัดตั้งและเสนอขายได้ในปีหน้า ซึ่งการออกกองทุนดังกล่าวถือว่ามีรายละเอียดขั้นตอนเยอะ และบริษัทต้องมีการไปซื้อทองคำในต่างประเทศเก็บไว้เพื่อที่จะนำมาออกเสนอขายแก่นักลงทุน โดยบริษัทจะลงทุนโดยการซื้อผ่านเคจีไอที่ฮ่องกง ทำหน้าที่ในการซื้อให้”นางนฤมล กล่าว
นางสาวนฤมล กล่าวว่า ทางบลจ.วรรณ และทางบล.เคจีไอ จะมีการร่วมจัดตั้งกองทุน อีทีเอฟอ้างอิงกับดัชนีฟุตซี่ เซ็ท ลาร์จ แคป (FTSE SET Large Cap ETF) ซึ่งคาดว่าจะเสนอขายแก่นักลงทุนได้ในเดือนตุลาคมนี้ โดยจะมีผู้ร่วมค้าหน่วยเพื่ออีก 2 บล. จากปัจจุบันที่มีผู้ร่วมค้าหน่วยกองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ จำนวน 4 บล.คือ บล.เคจีไอ บล.กิมเอ็ง บล.บัวหลวง บล.ธนชาต และบล.ซิตี้คอร์ป (ประเทศไทย)
ทั้งนี้ ในดัชนีฟุตซี่ เซ็ท ลาร์จ แคป นั้นจะมีหุ้นที่ใช้คำนวณจำนวน 30 หุ้น ซึ่งเป็นหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) และสภาพคล่องสูง ซึ่งจะกระจายในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และพลังงาน ซึ่งต่างจากหุ้นใน SET 50 ที่จะเป็นหุ้นที่ในกลุ่มพลังงานเป็นส่วนใหญ่ และจากที่บริษัทจะมีการกองทุน อีทีเอฟอ้างอิงกับดัชนีฟุตซี่ เซ็ท ลาร์จ แคปนั้น จะมีการเดินทางไปให้ข้อมูลแก่นักลงทุนต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในกองทุนอีทีเอฟ และจากการที่นักลงทุนต่างชาติรู้จักฟุตซี่ ทำให้เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุน