ASTVผู้จัดการรายวัน- บล.เคจีไอ ตั้งเป้าออกวอร์แรนต์อนุพันธ์ปีนี้ 10 ตัว มูลค่า 500 ล้านบาท ประเดิมอ้างอิงปตท.ตัวแรก ขาย 22-30 มิ.ย. นี้เทรด 9 ก.ค. เพิ่มทางเลือกใหม่การลงทุน "ผู้บริหาร" มั่นอนาคตเติบโตสูงนำตลาด เหตุใช้เงินลงทุนต่ำ ผลตอบแทนสูงและจำกัดผลขาดทุน เตรียมเดินสายโรดโชว์ต่างประเทศ พร้อมเล็งออกกองทุนอีทีเอฟอิงดัชนีฟุตซี่ลาร์จแคป ต.ค.นี้
นางสาวนฤมล อาจอำนวยวิภาส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)หรือ KGI เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนลออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) 30 ตัว คาดจะออกได้ประมาณ 10 ตัว จากที่บริษัทได้ขออนุมัติผผู้ถือหุ้นไว้มูลค่า 500 ล้านบาท เพื่อออก DW ซึ่งบริษัทจะเตรียมยื่นแบบแสดงรายได้ข้อมูล(ไฟลิ่ง)ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อีก 3-4 ตัวในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะอ้างอิงกับหุ้นที่เกี่ยวกับพลังงานและธนาคารเป็นหลัก เพราะเป็นหุ้นขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องในการซื้อขายสูง
ทั้งนี้ คาดว่าอีก 2 ปี ข้างหน้าการลงทุนในDWจะได้รับความสนใจในการลงทุนสูงเพราะเป็นตัวนำตลาด เนื่องจากใช้เงินลงทุนน้อยเพื่้อลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ และไม่กำหนดราคาสูงสุด (ซิลลิ่ง)และราคาต่ำสุด (ฟลอร์) ทำให้ผลตอบแทนการลงทุนสูงและยังจำกัดผลขาดทุน ที่สำคัญนักลงทุนไม่ต้องยื่นใช้สิทธิ เนื่องจากผู้ออกจะใช้สิทธิให้โดยอัตโนมัติหากนักลงทุนถือ DW ครบอายุ แต่ในต่างประเทศส่วนใหญ่จะไม่ถือ DW ครบอายุ เพราะจะต้องเสียภาษีเงินได้จากการใช้สิทธิ จากส่วนต่างราคาหุ้นอางอิงกับราคาใช้สิทธิ โดยยังไม่หักต้นทุนการซื้อ นักลงทุนจึงต้องระวังหากไม่ใช้สิทธิต้องขายออกมาในวันที่กำหนดให้ซื้อขายวันสุดท้าย
" 2-3 ปีข้างหน้า DWจะนำตลาดเพราะเติบโตสูง ซึ่งในต่างประเทศDW ได้รับความสนใจในการเข้ามาลงทุนจำนวนมาก ขณะนี้มี บล. 7-8 แห่ง ที่สนใจจะออก เพราะ DW เหมือนกันวอร์แรนต์ตัวหนึ่งในกระดาน ค่าคอมมิชชั่นซื้อขายคิดที่ 0.25% และชำระราคาเป็นเงินสดซึ่งต่างกับวอร์แรนต์ที่้ใช้สิทธิได้หุ้น " นางนฤมลล่าว
ขณะนี้บริษัทได้ยื่นไฟลิ่งเพื่อเสนอขาย DW หุ้นบมจ.ปตท. ซึ่งใช้ชื่อย่อหุ้นว่า PTT13CA เพื่อเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป 20 ล้านหน่วย วันที่ 22-30 มิถุนายนนี้ ถือว่าเป็น DW ตัวแรกของ บล.ไทย ซึ่งราคาเสนอขาย จะอยู่ที่ 2.72% ของราคาหุ้นปิดหุ้นปตท.ในวันที่ 2 กรกฎาคม มีอัตราใช้สิทธิ 5 DWต่อ 1 หุ้นสามัญของปตท. โดยจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 9 กรกฎาคม มีอายุ 6 เดือน และวันสุดท้าย 1 ธันวาคมนี้ และตั้ง บล.ธนชาตเป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย
การที่บริษัทจะขาย DWถือเป็นจังหวะที่เหมาะสม ประเมินว่าทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเป็นขาขึ้น แต่อาจจะปรับฐานลงบ้างเพื่อปรับขึ้นต่อ เพราะ DW ที่บริษัทเสนอขายเป็น call DW คือผู้ออกจะให้สิทธิแก่ผู้ถือหน่วยในการซื้อหุ้นอ้างอิง เหมาะเสนอช่วงภาวะหุ้นขาขึ้น ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุน ซึ่งบล.เคจีไอจะทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง(มาร์เกตเมกเกอร์)
โดยเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคมนี้ เตรียมเดินสายไปนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์)ที่ฮ่องกง เพื่อสำรวจความสนใจการลงทุนในDW ว่านักลงทุนต่างประเทศต้องการให้ออกDW ที่อ้างอิงกับหุ้นตัวใดบ้าง เพื่อที่ออกสินค้าให้ตรงความต้องการของลูกค้าหลังจากนั้นจะเดินสายโรดโชว์ที่ ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย เพื่อชวนเข้ามาลงทุนในกองทุนอีทีเอฟของตลาดหุ้นไทย และบริษัทมีแผนจะออกกองทุนอีทีเอฟอ้างอิงกับดัชนีฟุตซี่ เซ็ท ลาร์จ แคป (FTSE SET Large Cap ETF) เดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะร่วมกับบลจ.วรรณ โดยจะมีผู้ร่วมค้าหน่วยเพื่ออีก 2 บล. จากปัจจุบันที่มีผู้ร่วมค้าหน่วยกองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ 4 บล.คือ บล.เคจีไอ บล.กิมเอ็ง บล.บัวหลวง บล.ธนชาต และบล.ซิตี้คอร์ป (ประเทศไทย)
นางสาวนฤมล อาจอำนวยวิภาส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)หรือ KGI เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนลออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) 30 ตัว คาดจะออกได้ประมาณ 10 ตัว จากที่บริษัทได้ขออนุมัติผผู้ถือหุ้นไว้มูลค่า 500 ล้านบาท เพื่อออก DW ซึ่งบริษัทจะเตรียมยื่นแบบแสดงรายได้ข้อมูล(ไฟลิ่ง)ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อีก 3-4 ตัวในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะอ้างอิงกับหุ้นที่เกี่ยวกับพลังงานและธนาคารเป็นหลัก เพราะเป็นหุ้นขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องในการซื้อขายสูง
ทั้งนี้ คาดว่าอีก 2 ปี ข้างหน้าการลงทุนในDWจะได้รับความสนใจในการลงทุนสูงเพราะเป็นตัวนำตลาด เนื่องจากใช้เงินลงทุนน้อยเพื่้อลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ และไม่กำหนดราคาสูงสุด (ซิลลิ่ง)และราคาต่ำสุด (ฟลอร์) ทำให้ผลตอบแทนการลงทุนสูงและยังจำกัดผลขาดทุน ที่สำคัญนักลงทุนไม่ต้องยื่นใช้สิทธิ เนื่องจากผู้ออกจะใช้สิทธิให้โดยอัตโนมัติหากนักลงทุนถือ DW ครบอายุ แต่ในต่างประเทศส่วนใหญ่จะไม่ถือ DW ครบอายุ เพราะจะต้องเสียภาษีเงินได้จากการใช้สิทธิ จากส่วนต่างราคาหุ้นอางอิงกับราคาใช้สิทธิ โดยยังไม่หักต้นทุนการซื้อ นักลงทุนจึงต้องระวังหากไม่ใช้สิทธิต้องขายออกมาในวันที่กำหนดให้ซื้อขายวันสุดท้าย
" 2-3 ปีข้างหน้า DWจะนำตลาดเพราะเติบโตสูง ซึ่งในต่างประเทศDW ได้รับความสนใจในการเข้ามาลงทุนจำนวนมาก ขณะนี้มี บล. 7-8 แห่ง ที่สนใจจะออก เพราะ DW เหมือนกันวอร์แรนต์ตัวหนึ่งในกระดาน ค่าคอมมิชชั่นซื้อขายคิดที่ 0.25% และชำระราคาเป็นเงินสดซึ่งต่างกับวอร์แรนต์ที่้ใช้สิทธิได้หุ้น " นางนฤมลล่าว
ขณะนี้บริษัทได้ยื่นไฟลิ่งเพื่อเสนอขาย DW หุ้นบมจ.ปตท. ซึ่งใช้ชื่อย่อหุ้นว่า PTT13CA เพื่อเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป 20 ล้านหน่วย วันที่ 22-30 มิถุนายนนี้ ถือว่าเป็น DW ตัวแรกของ บล.ไทย ซึ่งราคาเสนอขาย จะอยู่ที่ 2.72% ของราคาหุ้นปิดหุ้นปตท.ในวันที่ 2 กรกฎาคม มีอัตราใช้สิทธิ 5 DWต่อ 1 หุ้นสามัญของปตท. โดยจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 9 กรกฎาคม มีอายุ 6 เดือน และวันสุดท้าย 1 ธันวาคมนี้ และตั้ง บล.ธนชาตเป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย
การที่บริษัทจะขาย DWถือเป็นจังหวะที่เหมาะสม ประเมินว่าทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเป็นขาขึ้น แต่อาจจะปรับฐานลงบ้างเพื่อปรับขึ้นต่อ เพราะ DW ที่บริษัทเสนอขายเป็น call DW คือผู้ออกจะให้สิทธิแก่ผู้ถือหน่วยในการซื้อหุ้นอ้างอิง เหมาะเสนอช่วงภาวะหุ้นขาขึ้น ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุน ซึ่งบล.เคจีไอจะทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง(มาร์เกตเมกเกอร์)
โดยเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคมนี้ เตรียมเดินสายไปนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์)ที่ฮ่องกง เพื่อสำรวจความสนใจการลงทุนในDW ว่านักลงทุนต่างประเทศต้องการให้ออกDW ที่อ้างอิงกับหุ้นตัวใดบ้าง เพื่อที่ออกสินค้าให้ตรงความต้องการของลูกค้าหลังจากนั้นจะเดินสายโรดโชว์ที่ ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย เพื่อชวนเข้ามาลงทุนในกองทุนอีทีเอฟของตลาดหุ้นไทย และบริษัทมีแผนจะออกกองทุนอีทีเอฟอ้างอิงกับดัชนีฟุตซี่ เซ็ท ลาร์จ แคป (FTSE SET Large Cap ETF) เดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะร่วมกับบลจ.วรรณ โดยจะมีผู้ร่วมค้าหน่วยเพื่ออีก 2 บล. จากปัจจุบันที่มีผู้ร่วมค้าหน่วยกองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ 4 บล.คือ บล.เคจีไอ บล.กิมเอ็ง บล.บัวหลวง บล.ธนชาต และบล.ซิตี้คอร์ป (ประเทศไทย)