ศูนย์ข่าวภาคเหนือ – รุมต้านห้างใหญ่-ทุนยักษ์เปิดสาขารุกตลาดค้าปลีกรายย่อยท้องถิ่นไม่หยุด เผยโชวห่วยบางระกำ รวมตัวต้าน “โลตัส” บุกตีกินถึงชนบท ขณะที่กลุ่ม “นครสวรรค์ฟอรัม” จี้ 2 องค์กรสำคัญตอบคำถามเปิดทาง “คาร์ฟูร์” เปิดสาขาเพิ่มปากน้ำโพ พร้อมเปิดประเด็นมูลนิธิปากน้ำโพประชานุเคราะห์ ไฟเขียวห้างใหญ่เช่าที่แลกผลประโยชน์แบบมีเงื่อนงำ พร้อมตั้งสารพัดคำถามเทศบาลฯหนุนทุนค้าปลีกยักษ์ผิดระเบียบหรือไม่ ?
ความเคลื่อนไหวของโชวห่วย หรือกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อย ในภาคเหนือตอนล่าง ที่กำลังก่อตัวขึ้น เพื่อต่อต้านห้างใหญ่-ทุนยักษ์ ไม่ให้เข้ามาเปิดสาขาในพื้นที่ และมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงขึ้น เริ่มปรากฏให้เห็นอีก 2 พื้นที่สำคัญ คือ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก และที่เทศบาลนครนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์
กรณีของ อ.บางระกำ โชวห่วยย่านตลาดสดบางระกำ ได้รวมตัวกันต่อต้านห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ไม่ให้มาเป็น “Lotus Express” ในพื้นที่ เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 52 โดยรวมกลุ่มกันเดินทางไปยื่นหนังสือ พร้อมแนบรายชื่อ 162 ผู้ค้าปลีกรายย่อยในพื้นที่ คัดค้านห้างใหญ่-ทุนยักษ์ต่อผู้ว่าฯพิษณุโลก ผ่านนายล้ำ เลิศศรีมงคล นายอำเภอบางระกำ
โชวห่วยบางระกำ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า วันนี้เศรษฐกิจตกต่ำอยู่แล้ว ค้าขายไม่ได้ ถ้าหากโลตัสมา พวกเขาตายกันหมดแน่ คงอยู่กันไม่ได้ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก รับทราบด้วย และได้โปรดให้ความกรุณาช่วยเป็นสื่อกลางประสานกับทางห้างสรรพสินค้าโลตัส ขอให้ระงับการตั้งห้างสรรพสินค้าในเขต อ.บางระกำ เพราะพ่อค้าแม่ค้า สู้ทุนเขาไม่ได้จริงๆ
พวกเขาจะเริ่มการต่อต้านก่อนที่เทสโก้ โลตัสจะเริ่มดำเนินการ มิฉะนั้นจะอยู่ไม่ได้ เห็นได้จากตลาดพิจิตร ทันทีที่โลตัสเปิด โชวห่วยก็ปิดกิจการไปแล้ว ไม่เชื่อลองไปดู วันนี้ตลาดบางระกำ ก็ไม่มีใครจะซื้ออยู่แล้ว หันไปซื้อของจากห้างใหญ่ในเมือง ทั้งโลตัส บิ๊กซี แม็คโคร เพื่อจำหน่ายในตลาดอีกทีหนึ่ง
“หากโลตัสเอ็กซ์เพรสมาเปิด เราตายแน่ ต้องเลิกทำมาหากิน”
รุมต้านคาร์ฟูร์ใช้ที่ดินมูลนิธิปากน้ำโพฯ
ส่วนกระแสต่อต้านห้างใหญ่ทุนยักษ์ที่ปากน้ำโพ – นครสวรรค์ เริ่มต้นจากช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในพื้นที่ เรื่องการสร้างห้างฯคาร์ฟูร์ บนที่ดินอันเป็นทรัพย์สินของมูลนิธิ ปากน้ำโพ ประชานุเคราะห์ ที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ โรงเรียนพาณิชยการวิริยาลัยนครสวรรค์ ที่เช่าพื้นที่-อาคารของมูลนิธิฯ เปิดโรงเรียนมาหลายปีแล้ว และจะหมดอายุตามสัญญาในวันที่ 25 ธันวาคม 52
ล่าสุด “กลุ่มนครสวรรค์ฟอรัม” องค์กรภาคประชาสังคม ที่ก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่ปี 2540 ได้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการนำที่ดินของมูลนิธิฯ ซึ่งใช้เป็นที่ตั้งของสถาบันการศึกษามานานหลายสิบปี ไปให้ห้างใหญ่-ทุนยักษ์ เปิดสาขา อันจะก่อเกิดผลกระทบต่อธุรกิจค้าปลีกรายย่อยในพื้นที่อย่างมหาศาลด้วย
กลุ่มนครสวรรค์ฟอรัม ได้ทำจดหมายเปิดผนึก ออกแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้าน – ประชาคมปากน้ำโพ และเรียกร้องให้มูลนิธิปากน้ำโพประชานุเคราะห์ ออกมาชี้แจงข้อมูลการนำที่ดินมูลนิธิฯให้ คาร์ฟูร์ หรือบริษัท เรียล ทูเก็ตเธอร์ จำกัด เช่าเพื่อเปิดสาขาดังกล่าว( อ่านรายละเอียดในล้อมกรอบ -จับพิรุธมูลนิธิปากน้ำโพฯให้”คาร์ฟูร์”เช่าที่เปิดห้าง )
ไม่เพียงเท่านั้น กลุ่มนครสวรรค์ฟอรัม ยังระบุถึงเงื่อนงำ MOU ระหว่างมูลนิธิฯ กับคาร์ฟูร์ ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 52 ที่ระบุวงเงินค่าเช่าทั้งหมด 82 ล้านบาท และมีการแจ้งในที่ประชุมว่า เงินส่วนเกินนี้ เป็นค่าภาษี ค่านายหน้า และค่าดำเนินการ ซึ่งต้องจ่ายคืนให้คาร์ฟูร์ โดยมูลนิธิฯ ยังคงได้รับเงินจำนวน 50 ล้านบาทตามที่ขอ
ในรายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า ค่านายหน้ามีมูลค่า 5.6 ล้านบาท หักภาษีแล้วยังมีส่วนต่างอีก 23.9 ล้านบาท ซึ่งแจ้งในรายงานว่า คาร์ฟูร์จะเอาไว้ใช้จ่ายในการดำเนินการเพื่อการเปิดห้าง จึงเกิดคำถามคือ
ทำไมมูลนิธิฯ ยอมเซ็นสัญญารับเงิน 82 ล้านบาท ในเมื่อรับจริง 50 ล้านบาท ? ส่วนต่างที่เหลืออยู่ในมือใคร ?
ขณะเดียวกันกลุ่มนครสวรรค์ฟอรัม ยังทำหนังสือคัดค้านการออกข้อบัญญัติ เพื่อสร้างห้างฯคาร์ฟูร์ ในพื้นที่ของเทศบาลนครนครสวรรค์ เสนอต่อนายกเทศมนตรี – ส.ท. และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครนครสวรรค์ทุกคน เพราะถือว่า การเปิดสาขานครสวรรค์ของคาร์ฟูร์ อาจขัดหรือแย้งต่อข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง( อ่านรายละเอียดล้อมกรอบ พิสูจน์สิทธิ์”คาร์ฟูร์ ก่อนเปิดสาขาปากน้ำโพ)