ASTV ผู้จัดการรายวัน -วงการศัลยกรรมความงามไทยสะเทือน หลังรัฐบาลเกาหลีออกโรงหนุนศัลยกรรมเกาหลีขึ้นเป็นฮับแห่งอาเซียน ด้านผู้บริหาร รพ. ยันฮี ผู้นำวงการศัลยกรรมไทย ชี้คนไทยหันไปทำศัลยกรรมในประเทศเกาหลีกันมาก เพราะต้องการมีหน้าตาเหมือน ดารา นักร้อง เกาหลี ตามแรงโปรโมท เชื่อไทยช่วงชิงตำแหน่งแชมป์กลับมาได้ เพราะมีความเชี่ยวชาญ ทำมานานกว่า 15 ปี ถ้าได้แรงหนุนภาครัฐฯช่วยเสริมอีกแรง
นพ. สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี เปิดเผยว่า จากผลกระทบของกระแสความนิยม ในตัวดารา นักร้องเกาหลี ทำให้วงการทำศัลยกรรมความงามเกาหลีใช้ดารา นักร้องมาจุดดึงดูดลูกค้าคนไทย ให้หันไปทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลีตามแรงโปรโมท ของเจ้าของธุรกิจ และแรงหนุนจากรัฐบาล โดยรัฐบาลเกาหลี ตั้งเป้าว่าจะขึ้นเป็นผู้นำศัลยกรรมในภูมิภาคอาเซียนให้ได้ ภายในระยะเวลา 2-3 ปี
ทั้งนี้ จากผลกระทบดังกล่าวส่งผลให้ลูกค้าของรพ. ในส่วนของตลาดจากต่างประเทศ โดยเฉพาะลูกค้าจากประเทศ เกาหลีหายไปกว่าครึ่ง โดยรพ.มีสัดส่วนของลูกค้าจากต่างประเทศ ประมาณ 10% ของรายได้ของโรงพยาบาล ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มาทำศัลยกรรมแปลงเพศ ดูดไขมัน ดึงหน้า เป็นต้น กลุ่มลูกค้ามีทั้งเอเชีย และยุโรป อาทิ ฮ่อง ญี่ปุ่น เกาหลี พม่า ลาว เวียดนาม สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ทางรพ.ในฐานะผู้นำด้านศัลยกรรมความงาม จำเป็นจะต้องผลักดันให้วงการศัลยกรรมไทยยังคงรักษาตำแหน่งแชมป์ศัลยกรรมความงามในระดับภูมิภาคอาเซียน และขึ้นเป็นฮับในอาเซียนให้ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าได้รับแรงหนุนจากภาครัฐฯอีกแรงหนึ่ง เ พราะศัลยกรรมไทยมีชื่อเสียงและเป็นผู้นำในตลาดนี้มาเป็นเวลานานกว่า 15 ปี ในขณะที่ประเทศเกาหลี เพิ่งเริ่มมีชื่อและเป็นที่รู้จักไม่เกิน 5 ปี ศัลยกรรมที่เกาหลีได้รับความนิยม คือ การทำศัลยกรรมจมูก
“ในส่วนของแพทย์ไทยมีฝีมือและชื่อเสียงที่สะสมมานานหลายปี และเราก็มีเครื่องมือ เทคโนโลยีทันสมัย สู้ต่างชาติได้อย่างแน่นอน และที่สำคัญราคาของเราไม่แพง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับประเทศเกาหลี ราคาของไทยถูกกว่ามาก เช่น เสริมจมูกเมืองไทยแค่ 10,000บาท ทำเกาหลีราคาสูงถึง 30,000 บาท”
สำหรับแนวทางการขยายตลาดในต่างประเทศนั้น มีแผนที่จะร่วมกับกรมส่งเสริมการส่งออกไปร่วมออกโรดโชว์ในต่างประเทศ เพื่อแนะนำตัว และสร้างการยอมรับ ส่วนของการทำตลาดในประเทศ ทางรพ.ได้ทำโครงการ “สาวอีสานสวยด้วยยันฮี” โดยทางรพ.คิดค่าบริการเสริมจมูกในราคาเหมาจ่าย 5,000 บาท จากเดิม 9,900 บาท ให้กับสาวอีสานจำนวน 300-500 คน สาเหตุที่ทำโครงการนี้ขึ้นมา เพราะจากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยขอนแก่น สอบถามสาวอีสาน 500คน ต้องการทำศัลยกรรมเสริมจมูก
นพ. สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี เปิดเผยว่า จากผลกระทบของกระแสความนิยม ในตัวดารา นักร้องเกาหลี ทำให้วงการทำศัลยกรรมความงามเกาหลีใช้ดารา นักร้องมาจุดดึงดูดลูกค้าคนไทย ให้หันไปทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลีตามแรงโปรโมท ของเจ้าของธุรกิจ และแรงหนุนจากรัฐบาล โดยรัฐบาลเกาหลี ตั้งเป้าว่าจะขึ้นเป็นผู้นำศัลยกรรมในภูมิภาคอาเซียนให้ได้ ภายในระยะเวลา 2-3 ปี
ทั้งนี้ จากผลกระทบดังกล่าวส่งผลให้ลูกค้าของรพ. ในส่วนของตลาดจากต่างประเทศ โดยเฉพาะลูกค้าจากประเทศ เกาหลีหายไปกว่าครึ่ง โดยรพ.มีสัดส่วนของลูกค้าจากต่างประเทศ ประมาณ 10% ของรายได้ของโรงพยาบาล ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มาทำศัลยกรรมแปลงเพศ ดูดไขมัน ดึงหน้า เป็นต้น กลุ่มลูกค้ามีทั้งเอเชีย และยุโรป อาทิ ฮ่อง ญี่ปุ่น เกาหลี พม่า ลาว เวียดนาม สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ทางรพ.ในฐานะผู้นำด้านศัลยกรรมความงาม จำเป็นจะต้องผลักดันให้วงการศัลยกรรมไทยยังคงรักษาตำแหน่งแชมป์ศัลยกรรมความงามในระดับภูมิภาคอาเซียน และขึ้นเป็นฮับในอาเซียนให้ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าได้รับแรงหนุนจากภาครัฐฯอีกแรงหนึ่ง เ พราะศัลยกรรมไทยมีชื่อเสียงและเป็นผู้นำในตลาดนี้มาเป็นเวลานานกว่า 15 ปี ในขณะที่ประเทศเกาหลี เพิ่งเริ่มมีชื่อและเป็นที่รู้จักไม่เกิน 5 ปี ศัลยกรรมที่เกาหลีได้รับความนิยม คือ การทำศัลยกรรมจมูก
“ในส่วนของแพทย์ไทยมีฝีมือและชื่อเสียงที่สะสมมานานหลายปี และเราก็มีเครื่องมือ เทคโนโลยีทันสมัย สู้ต่างชาติได้อย่างแน่นอน และที่สำคัญราคาของเราไม่แพง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับประเทศเกาหลี ราคาของไทยถูกกว่ามาก เช่น เสริมจมูกเมืองไทยแค่ 10,000บาท ทำเกาหลีราคาสูงถึง 30,000 บาท”
สำหรับแนวทางการขยายตลาดในต่างประเทศนั้น มีแผนที่จะร่วมกับกรมส่งเสริมการส่งออกไปร่วมออกโรดโชว์ในต่างประเทศ เพื่อแนะนำตัว และสร้างการยอมรับ ส่วนของการทำตลาดในประเทศ ทางรพ.ได้ทำโครงการ “สาวอีสานสวยด้วยยันฮี” โดยทางรพ.คิดค่าบริการเสริมจมูกในราคาเหมาจ่าย 5,000 บาท จากเดิม 9,900 บาท ให้กับสาวอีสานจำนวน 300-500 คน สาเหตุที่ทำโครงการนี้ขึ้นมา เพราะจากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยขอนแก่น สอบถามสาวอีสาน 500คน ต้องการทำศัลยกรรมเสริมจมูก