xs
xsm
sm
md
lg

พีเอไอบุกตลาดศัลยกรรมตปท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พีเอไอ เตรียมขยายสาขาในไทยเพิ่มที่ต่างจังหวัด และซุ่มบริการใหม่ๆรองรับตลาดศัลยกรรมความงามบูม พร้อมสนใจลุยตลาดต่างประเทศ อยู่ระหว่างการศึกษา ตลาดใหญ่คือ ตะวันออกกลาง มั่นใจปีนี้เติบโต 20%

นายพีระ เตียวตรานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ศูนย์ศัลยกรรมความงาม ผิวหนังและเลเซอร์ PAI (พีเอไอ) ตลาดการให้บริการศัลยกรรมความงาม ในไทยเริ่มมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีผู้ให้บริการในตลาดนี้เพิ่มมากขึ้นหลายราย ตั้งแต่ระดับห้องแถวจนไปถึงโรงพยาบาล ทำให้ผู้ประกอบการที่ดีมีการพัฒนาคุณภาพการบริการ ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคที่มีทางเลือกมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันผู้ประกอบการหลายรายก็เล่นกลยุทธ์ราคาเพื่อดึงดูดลูกค้า ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อผู้บริโภค หากผู้ประกอบการไม่คำนึงถึงคุณภาพ
สำหรับแผนการตลาดของพีเอไอในปี 2522 จะมีการลงทุนขยายอีกไม่ต่ำกว่า 2 สาขา คืออาจจะเป็นที่ภูเก็ตและพัทยา โดยลงทุนประมาณ 40-50 ล้านบาทต่อสาขา เพิ่มจากปัจจุบันที่มีเปิดบริการเพียงสาขาเดียวคือที่อาคารแบงกอกเมเดิเพล็กซ์ ซอยเอกมัย สุขุมวิท

นอกจากนั้นจะมีการลงทุนในส่วนของอุปกรณ์ใหม่เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท โดยล่าสุดเมื่อต้นปีนี้ได้ลงทุนอุปกรณ์ทางด้านศูนย์เลเซอร์เพิ่มเติม และล่าสุดได้เปิดบริการใหม่คือ บริการดูดไขมัน และอยู่ระหว่างการศึกษาบริการใหม่ๆอีก
โดยบริษัทฯวางงบการตลาดไว้ประมาณ 7 ล้านบาท ในการทำตลาดทั้งบีโลว์เดอะไลน์และอะโบฟเดอะไลน์

ส่วนในตลาดต่างประเทศนั้น ที่ผ่านมามีนักธุรกิจที่สนใจเข้ามาติดต่อที่จะให้เราไปลงทุนเปิดบริการ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาขยายการลงทุน ซึ่งมีหลายรูปแบบยังไม่สรุปไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเอง การลงทุนร่วมกัน หรือการเป็นที่ปรึกษา โดยประเทศที่น่าสนในเช่น ตะวันออกกลาง และเวียดนาม เป็นต้น นอกนั้นก็จะมีประเภทขอเป็นเอเย่นต์ในการหาลูกค้าให้ด้วย

“ตลาดนี้ยังมีแนวโน้มในการเติบโตอีกมาก ซึ่งตอนนี้คนไทยเราก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้นในรื่องความสวยงาม และกลุ่มลูกค้าก็เริ่มเป็นวัยรุ่นมากขึ้นจากเดิมที่เป็นผู้ใหญ่ ซึ่งแต่ละกลุ่มก็ใช้บริการแตกต่างกันไป อีกทั้งคนต่างชาติก็นอยมเข้ามาใช้บริการในไทยมากขึ้นด้วย”

ทั้งนี้ทางพีเอไอคาดว่าในปีนี้จะมีผลประกอบที่เติบโตขึ้นประมาณ 20% และคาดว่าจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการจะเพิ่มไม่ต่ำกว่า 20% เช่นกัน จากปีที่แล้วที่มีผู้เข้ามาปรึกษาและใช้บริการประมาณ 9,000 – 10,000 คน แบ่งสัดส่วนเป็นคนไทย 60% และคนต่างชาติ 40%
กำลังโหลดความคิดเห็น