ASTVผู้จัดการรายวัน – โรงพยาบาลผิวหนังอโศก จ่อดันไทยฮับศัลยกรรมความงามเอเชีย 3 ปี ทุ่มงบ 1,450 ล้านบาท ผุดสาขาเพิ่ม 3 แห่ง ผนึกความร่วมมือแพทย์แดนโสม แลกเปลี่ยนเทคนิค เทคโนโลยี รับเทรนด์ศัลยกรรมเกาหลีบูม เทงบเกือบ 20 ล้านบาท สั่งซื้อเครื่องมือแพทย์ ลั่น 1-2 ปีเข้าตลาดหลักทรัพย์ สิ้นปีกวาดรายได้ 250 ล้านบาท
นายแพทย์ประยูร เจนตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลผิวหนัง อโศก กล่าวว่า นโยบายของโรงพยาบาลเตรียมทุ่มงบ 1,450 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาโรงพยาบาล 3 แห่ง แบ่งเป็น สาขาปิ่นเกล้า 450 ล้านบาท บนพื้นที่เกือบ 2 ไร่ และอีก 1,000 ล้านบาท ในตลาดต่างจังหวัด เบื้องต้นคาดว่าจะเปิด2 สาขา คือ จ.ภูเก็ต และพัทยา จากปัจจุบันมี 1 สาขาในย่านอโศก และปลายปี 2554 หรือต้นปี 2555 วางแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์
จากปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท
ทั้งนี้การขยายตัวของโรงพยาบาลฯ เพื่อรองรับกับอีก 3 ปีข้างหน้านี้ ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการศัลยกรรมความงามในภูมิภาคเอเชีย จากปัจจุบันไทยถือว่าเป็นศูนย์กลางด้านการรักษาพยาบาลของเอเชียอยู่แล้ว ซึ่งการเป็นศูนย์กลางศัลยกรรมต้องชูจุดเด่น ความปลอดภัย ความปราณีต และค่ารักษาพยาบาลราคาถูก และรัฐบาลต้องให้การสนับสนุน
สำหรับกลยุทธ์การตลาดทางโรงพยาบาลฯ มุ่งเน้นเจาะกลุ่มต่างประเทศเพิ่มจาก 15% เป็น 35% ผ่านการตลาดร่วมกับการทัวร์ศัลยกรรม โดยจับมือร่วมกับบริษัททัวร์ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา เพื่อรองรับกับแผนการตลาดรุกหนักหลังจากแอร์พอร์ตลิงค์เสร็จ 2-3 เดือนข้างนี้ ซึ่งได้เตรียมงบการตลาดสำหรับต่างประเทศ 15-20 ล้านบาท ส่วนงบการตลาดภายในประเทศ 40 ล้านบาท
จากปีที่ผ่านมาใช้ 50 ล้านบาท
นายแพทย์ประยูร กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นโรงพยาบาลฯได้ทุ่มงบเกือบ 10 ล้านบาท สั่งซื้อเครื่องมือศัลยกรรมการแพทย์เกาหลี เพื่อเสริมด้านเทคโนโลยีของโรงพยาบาลให้มีความแข็งแกร่งและครบวงจร รองรับกับเทรนด์ของผู้บริโภคที่ต้องการทำศัลยกรรมสไตล์เกาหลี ล่าสุดทุ่ม 10 ล้านบาท นำเข้าเครื่องมือผ่าตัดจากอเมริกา เพื่อให้เกิดแผลน้อยที่สุดในการทำศัลยกรรม
ซึ่งจะเปิดตัวในปลายปีนี้
“ประเทศไทยกำลังชิงการเป็นศูนย์กลางศัลยกรรมความงามกับประเทศเกาหลี ซึ่งมีความโดดเด่นศัลยกรรมบนใบหน้า ส่วนไทยมีความโดดเด่นศัลยกรรมแปลงเพศ ซึ่งการจะเป็นศูนย์กลางศัลยกรรมได้ ภาครัฐบาลต้องสนับสนุนหรือโปรโมตผนึกกับภาคเอกชนด้วย”
สำหรับการแข่งขันโรงพยาบาลและคลีนิคศัลยกรรมประเทศไทย เริ่มมีการปรับตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยหันมาผนึกความร่วมมือกับแพทย์ศัลยกรรมประเทศเกาหลี มีการแลกเปลี่ยนเทคนิคและเทคโนโลยี เนื่องจากเทรนด์ศัลยกรรมเกาหลีได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับคนไทย โดยเฉพาะศัลยกรรมจมูก ตา และกราม โดยปัจจุบันโรงพยาบาลผิวหนัง อโศก
เป็นผู้นำตลาดศัลยกรรมในด้านพื้นที่ให้บริการ ตามด้วยยันฮี เซนต์หลุยส์ และบำรุงราษฎร์
นายแพทย์ประยูร กล่าวว่า ผลประกอบการโรงพยาบาลผิวหนัง อโศก หลังจากเปิดดำเนินเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2551 โดยในปีแรก 180-200 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากศัลยกรรมความงาม 2 ล้านบาทต่อเดือน สำหรับปีนี้ตั้งเป้ามีรายได้ 250 ล้านบาท แบ่งเป็น ศัลยกรรมความงาม 40-60 ล้านบาท ขณะที่โรงพยาบาลสาขาปิ่นเกล้า หลังจากเปิดบริการปีแรกราว 150 ล้านบาท
นายแพทย์ประยูร เจนตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลผิวหนัง อโศก กล่าวว่า นโยบายของโรงพยาบาลเตรียมทุ่มงบ 1,450 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาโรงพยาบาล 3 แห่ง แบ่งเป็น สาขาปิ่นเกล้า 450 ล้านบาท บนพื้นที่เกือบ 2 ไร่ และอีก 1,000 ล้านบาท ในตลาดต่างจังหวัด เบื้องต้นคาดว่าจะเปิด2 สาขา คือ จ.ภูเก็ต และพัทยา จากปัจจุบันมี 1 สาขาในย่านอโศก และปลายปี 2554 หรือต้นปี 2555 วางแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์
จากปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท
ทั้งนี้การขยายตัวของโรงพยาบาลฯ เพื่อรองรับกับอีก 3 ปีข้างหน้านี้ ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการศัลยกรรมความงามในภูมิภาคเอเชีย จากปัจจุบันไทยถือว่าเป็นศูนย์กลางด้านการรักษาพยาบาลของเอเชียอยู่แล้ว ซึ่งการเป็นศูนย์กลางศัลยกรรมต้องชูจุดเด่น ความปลอดภัย ความปราณีต และค่ารักษาพยาบาลราคาถูก และรัฐบาลต้องให้การสนับสนุน
สำหรับกลยุทธ์การตลาดทางโรงพยาบาลฯ มุ่งเน้นเจาะกลุ่มต่างประเทศเพิ่มจาก 15% เป็น 35% ผ่านการตลาดร่วมกับการทัวร์ศัลยกรรม โดยจับมือร่วมกับบริษัททัวร์ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา เพื่อรองรับกับแผนการตลาดรุกหนักหลังจากแอร์พอร์ตลิงค์เสร็จ 2-3 เดือนข้างนี้ ซึ่งได้เตรียมงบการตลาดสำหรับต่างประเทศ 15-20 ล้านบาท ส่วนงบการตลาดภายในประเทศ 40 ล้านบาท
จากปีที่ผ่านมาใช้ 50 ล้านบาท
นายแพทย์ประยูร กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นโรงพยาบาลฯได้ทุ่มงบเกือบ 10 ล้านบาท สั่งซื้อเครื่องมือศัลยกรรมการแพทย์เกาหลี เพื่อเสริมด้านเทคโนโลยีของโรงพยาบาลให้มีความแข็งแกร่งและครบวงจร รองรับกับเทรนด์ของผู้บริโภคที่ต้องการทำศัลยกรรมสไตล์เกาหลี ล่าสุดทุ่ม 10 ล้านบาท นำเข้าเครื่องมือผ่าตัดจากอเมริกา เพื่อให้เกิดแผลน้อยที่สุดในการทำศัลยกรรม
ซึ่งจะเปิดตัวในปลายปีนี้
“ประเทศไทยกำลังชิงการเป็นศูนย์กลางศัลยกรรมความงามกับประเทศเกาหลี ซึ่งมีความโดดเด่นศัลยกรรมบนใบหน้า ส่วนไทยมีความโดดเด่นศัลยกรรมแปลงเพศ ซึ่งการจะเป็นศูนย์กลางศัลยกรรมได้ ภาครัฐบาลต้องสนับสนุนหรือโปรโมตผนึกกับภาคเอกชนด้วย”
สำหรับการแข่งขันโรงพยาบาลและคลีนิคศัลยกรรมประเทศไทย เริ่มมีการปรับตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยหันมาผนึกความร่วมมือกับแพทย์ศัลยกรรมประเทศเกาหลี มีการแลกเปลี่ยนเทคนิคและเทคโนโลยี เนื่องจากเทรนด์ศัลยกรรมเกาหลีได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับคนไทย โดยเฉพาะศัลยกรรมจมูก ตา และกราม โดยปัจจุบันโรงพยาบาลผิวหนัง อโศก
เป็นผู้นำตลาดศัลยกรรมในด้านพื้นที่ให้บริการ ตามด้วยยันฮี เซนต์หลุยส์ และบำรุงราษฎร์
นายแพทย์ประยูร กล่าวว่า ผลประกอบการโรงพยาบาลผิวหนัง อโศก หลังจากเปิดดำเนินเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2551 โดยในปีแรก 180-200 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากศัลยกรรมความงาม 2 ล้านบาทต่อเดือน สำหรับปีนี้ตั้งเป้ามีรายได้ 250 ล้านบาท แบ่งเป็น ศัลยกรรมความงาม 40-60 ล้านบาท ขณะที่โรงพยาบาลสาขาปิ่นเกล้า หลังจากเปิดบริการปีแรกราว 150 ล้านบาท