xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ขู่ฟ้อง นช.แม้ว ปล่อยสาวกยื่นฎีกา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"เกียรติกร"ลั่นฟ้อง “แม้ว” ฐานหมิ่นสถาบันกษัตริย์ หากเสื้อแดงยังดันทุรังยื่นรายชื่อถวายฎีกาขออภัยโทษ 17 ส.ค.นี้ ด้าน “บิ๊กจิ๋ว”วอนให้คนไทยอดทน เชื่อความสุขจะมาเยือนในไม่ช้านี้ "วัชระ"เปิดตัวรถไฮเทคต้านล่าชื่อถวายฎีกา- ชี้ความเลวร้ายระบอบทักษิณ "สุริยะใส" จวกแก๊งเสื้อแดงกลืนน้ำลายตัวเอง เคยด่าพันธมิตรฯเรื่อง ม.7 แต่ตอนนี้กลับมาถวายฎีกา เตือน แกนนำนปช. และส.ส.เพื่อไทยมีสิทธิติดคุก และพรรคจะถูกยุบอีกรอบ

วานนี้ (7 ส.ค.) นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงจะยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 17 ส.ค.นี้ ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หากมีการยื่นถวายฎีกาตนเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจไม่ได้กลับมาประเทศไทยอีก เพราะมีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย และพ.ต.ท.ทักษิณ ควรจะห้ามปรามกลุ่มเสื้อแดงไม่ให้มีการกระทำดังกล่าวเกิดขั้น ตนเคยขอร้องไปยังพ.ต.ท.ทักษิณหลายครั้งแล้ว เพราะไม่ต้องการให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง

"ถ้าวันที่ 17 ส.ค. มีกลุ่มเสื้อแดงแม้แต่คนเดียวนำรายชื่อยื่นถวายฎีกา ผมจะเอาเรื่องคุณทักษิณแน่ ผมขอร้องท่านมาหลายครั้งแล้ว คุณทักษิณ จะโดนผมฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแน่นอน เพราะผมมีหลักฐานที่เป็นทั้งภาพและเสียงที่จะเอาผิดกับท่านได้แน่"

ความสุขจะกลับมาในไม่ช้า

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้พูดไปแล้วหลายครั้ง และก็มีหลายฝ่ายออกมาพูดกันมาก แต่ก็เป็นมุมมองในแง่มุมของแต่ละฝ่าย แล้วแต่ใครจะมองอย่างไร แต่อยากให้ทุกคนรอดูก่อนว่า เนื้อหาสาระของการยื่นถวายฎีกามีเนื้อหาสาระหรือถ้อยคำอะไร และมีสำคัญมากน้อยเพียงใด

" สิ่งที่อยากเห็นมากที่สุดในช่วงนี้ คือ อยากให้ทุกคนลดความขัดแย้ง และใช้หลักกฎหมายเข้ามาแก้ปัญหา รวมถึงอยากเห็นรัฐบาลทำงาน โดยมีประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด เชื่อว่าในอีกไม่นานนี้ประเทศไทยจะกลับมามีความสุขอีกครั้ง จึงอยากให้ทุกคนอดทน" อดีตนายกฯกล่าว

"วัชระ"โชว์รถไฮเทคต้านฎีกา

เมื่อเวลา 11.00 น.ที่รัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำรถไฮเทค ต้านฎีกาแดง มาจอดไว้บริเวณหน้าบ่อปลาคาร์ฟ อาคารรัฐสภา 1 โดยรถกระบะคันดังกล่าวถูกดัดแปลงช่วงท้ายให้ปรากฎภาพ และข้อความเคลื่อนไหวได้ 3 ด้านๆ ละ 16 ภาพๆ ละ 3 วินาที โดยมีข้อความต่อต้านกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เคลื่อนไหวล่าชื่อถวายฎีกาเพื่ออภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และชี้ให้เห็นถึงระบอบทักษิณ ว่ามีความเลวร้ายอย่างไร

นายวัชระ กล่าวว่า รถคันดังกล่าวใช้งบประมาณเพียง 750,000 บาท เป็นเทคโนโลยีจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำขึ้นเพื่อต้องการรณรงค์ให้ประชาชนรับทราบถึงความเลวร้ายของระบอบทักษิณ และให้ความรู้แก่ประชาชน ถือเป็นคันแรกของประเทศไทย ซึ่งนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม ก็สนใจและสั่งผลิต 1 คัน เพื่อนำไปวิ่งในพื้นที่ทางภาคอีสาน

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้สั่งให้ทำรถคันนี้ใช่หรือไม่ นายวัชระ กล่าวว่า ไม่มีใครสั่งตนให้ทำอะไรได้ การกระทำครั้งนี้เป็นเรื่องที่ตนคิดเองทำเอง ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า รถกระบะไฮเทคต้านถวายฎีกาคันดังกล่าว นอกจากจะมีข้อความบอกถึงความชั่วร้ายของพ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดงแล้ว ยังสามารถเปิดเสียงการปราศรัยได้ด้วย

ชี้กระแสฎีกาตีกลับใส่เสื้อแดง

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวเข้าชื่อเพื่อถวายฎีกาช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ ของกลุ่ม นปช.นั้น เข้าทำนอง อิเหนาเป็นเสียเอง เพราะในช่วงปี 49 ที่พันธมิตรฯ เสนอฝ่าวิกฤติการเมืองด้วยแนวทาง มาตรา 7 ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 นั้นถูกพรรคไทยรักไทยในขณะนั้น รวมทั้งบรรดานักวิชาการบางส่วนคัดค้านว่า เป็นแนวทางนอกรัฐธรรมนูญ และเป็นการนำการเมืองไทยย้อนกลับไปสู่ยุคอำมาตยาธิปไตย ถึงขนาดพรรคไทยรักไทยนำไปเป็น 1 ในข้อกล่าวหาเพื่อยุบพรรคประชาธิปัตย์ และล้อเลียนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านในขณะนั้นว่า เป็น มาร์ค ม.7 ซ้ำร้ายการเคลื่อนไหวของเครือข่าย นปช. ที่ผ่านมา ยังพยายามอวดอ้างว่าต้องการล้มระบอบอำมาตย์ และสร้างประชาธิปไตยแบบใหม่ กล่าวหาพันธมิตรฯว่าเดินแนวทางพึ่งพิงเจ้า ล้าหลัง ถอยหลังเข้าคลองสารพัด

แต่มาวันนี้การเข้าชื่อถวายฎีกาของแกนนำ นปช. และพรรคเพื่อไทย กำลังเลือกใช้วิธีที่ตัวเองเคยประณามหยามเหยียดไว้ และเป็นแนวปฏิบัติที่ไม่มีในรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายใดๆ รองรับด้วยซ้ำ ต่างกับแนวทาง มาตรา 7 ที่มีบทบัญญัติชัดเจนในรัฐธรรมนูญทั้งฉบับปี 40 และ50

นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า น่าเวทนาที่นักวิชาการฝ่าย นปช. หรือกลุ่มที่อ้างตัวเป็นฝ่ายซ้าย เกลียดอำมาตย์ เกลียดศักดินา หรือต่อต้านการรัฐประหาร กลับมาเป็นแกนนำล่าชื่อหรือสนับสนุนการถวายฏีกาเสียเอง เป็นพฤติกรรมยิ่งกว่าการกลืนน้ำลายตัวเอง

วันนี้ยุทธวิธีถวายฎีกากำลังจะเป็นหอกทิ่มแทงให้ขบวนการเสื้อแดง สูญเสียความชอบธรรมลงไปอีก หรืออาจจะถึงขั้นให้พรรคเพื่อไทย ถูกยุบได้เช่นกัน พ.ต.ท.ทักษิณ และเครือข่ายคงคิดว่ายุทธวิธีล่าชื่อกดดันแบบนี้ได้ผลมาแล้วในช่วงกดดันศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นผิดคดีซุกหุ้น 8:7 เมื่อปี 2545 ซึ่งครั้งนั้นมีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหลายคน หลายภาคส่วนเป็นแกนนำเข้าชื่อด้วย เช่น นพ.เสม พริ้มพวงแก้ว แต่การล่าชื่อถวายฎีกาครั้งนี้ จะเห็นว่าไม่มีบุคคลสำคัญของบ้านเมืองเข้าร่วมด้วยมีแต่เพียงแกนนำม็อบ ซึ่งแต่ละคนก็ต้องข้อหาร้ายแรงมาทั้งนั้น

ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่การล่าชื่อถวายฎีกาครั้งนี้ นอกจากจะมีแรงต้านขยายวงมากขึ้นแล้ว กระแสยังตีกลับมาที่แกนนำนปช. ซึ่งอาจถูกดำเนินคดี ขอห้ายุยงสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิด ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 และการประทุษร้ายต่อองค์หระมหากษัตริย์ มาตรา 108 และ สส.ของพรรคเพื่อไทยหลายคนอาจถูกถอดถอนตามรัฐธรรมนูญ มรตรา 164 ข้อหาส่อว่าจงใจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบซึ่ปงระชาชนไม่น้อยกว่า 2 หมื่นรายชื่อสามารถยื่นถอดถอนได้ หรือแม้แต่พรรคเพื่อไทยซึ่งอาจจะโดนร้องเรียนให้มีการยุบพรรคเพราะมีพฤติกรรมที่ไม่เป็นไปตามวิถีทางแห่งรัฐธรรมนูญ
กำลังโหลดความคิดเห็น