ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้บริหารปตท.ห่วงDWทำพิษกระทบหุ้นหลัก จากการถูกนำไปอ้างอิง รีบสอบถามบล.เคจีไอ หลังนักลงทุนโทรถามไม่หยุด หวั่นกระทบราคาหุ้น ด้านบล.เคจีไอแจงราคาหุ้นแม่ไม่กระทบแน่ แต่ได้ผลดีสภาพคล่องการซื้อขายมากขึ้น ส่วนDWหุ้นแบงก์กสิกรไทยที่เปิดจอง 10-21 ส.ค. เชื่อนักลงทุนแห่จองซื้อเพียบ แต่ต้องเร่งทำความเข้าใจ หวั่นซ้ำรอยปตท. วงการจี้เพิ่มความรู้ ช่องทางข้อมูลให้นักลงทุน หากปล่อยไว้อาจดับเหมือน SET50 Index Options
แหล่งข่าวจากบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า นักลงทุนได้มีการสอบถามมายังบริษัทในกรณีที่มีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) นำหุ้นปตท.ไปอ้างอิงในการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) นั้นจะส่งผลกระทบต่อหุ้นของปตท.หรือไม่ และ DW คืออะไร โดยทางบริษัทได้มีการสอบถามไปยัง บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI ซึ่งเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ อ้างอิงหุ้นปตท.หรือ PTT13CA ว่าการออกPTT13CA จะกระทบราคาหุ้นของ PTTหรือไม่ และจะมีผลกระทบต่อ PTT ในด้านใดบ้างและสาเหตุที่มาของการออกDW อ้างอิงกับหุ้นPTT
ทั้งนี้ทางบล.เคจีไอ มีการชี้แจงว่าการออกDWอ้างอิงปตท.นั้นจะช่วยทำให้หุ้นของ PTT มีสภาพคล่องการซื้อขายมากขึ้น และราคาหุ้นของ PTT จะมีผลต่อราคาหุ้นของ PTT13CA เพราะการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นของ PTT13CAจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาหุ้น PTT ซึ่งการที่นักลงทุนได้มีการสอบถามในเรื่องดังกล่าว นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่นักลงทุนมีความระมัดระวังในการลงทุนในหุ้น
“จากที่มีการออก DW อ้างอิงหุ้นปตท.และมีการสอบถามาจากนักลงทุนนั้น เราได้มีการสอบถามไปยังบล.เคจีไอให้มีการชี้แจง 3 ข้อ คือ ราคาหุ้นจะถูกกระทบหรือไม่ 2. ปตท.จะถูกกระทบด้านใดบ้าง 3. ทำไมถึงมีการออกDWอ้างอิงหุ้นปตท. ”แหล่งข่าวจากปตท. กล่าว
ด้านแหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า การที่บล.เคจีไอ จะมีการออกเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์อ้างอิงหุ้น ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)หรือ KBANK ซึ่งใช้ชื่อย่อว่า KBANK 13CA ในเร็วๆนี้ เชื่อว่าอาจมีนักลงทุนที่มีหุ้นKBANK สอบถามไปยังบริษัทเช่นเดียวกับกรณีของปตท.แน่ อย่างไรก็ตาม กา
สำหรับ KBANK 13CA จะมีการเสนอขายจำนวน 30 ล้านหน่วย เปิดจองซื้อในวันที่ 10 -21 สิงหาคม นี้ โดยผู้จัดจำหน่ายคือ บล.ฟาร์อีสท์ และบล.บีที ซึ่งราคาของ KBANK 13CAจะอยู่ที่ 3.50% ของราคาปิดหุ้น KBANK ณ วันที่ 24 สิงหาคมนี้และจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯวันที่ 27 สิงหาคมนี้
โดยKBANK 13CAจะมีอายุในการซื้อขาย 6 เดือน ซึ่งจะซื้อขายวันสุดท้ายวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 และมีวันครบกำหนดอายุในวันที่ 19 สิงหาคม 2553 มีอัตราการใช้สิทธิ ต่อหน่วย 4 ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ ต่อ 1 หุ้นสามัญ ส่วนราคาการใช้สิทธิ 110%ของราคาปิด ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2552 ของหุ้นKBANK
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามความสนใจนักลงทุนเบื้องต้นให้ความสนใจลงทุนใน KBANK 13CA จำนวนมาก เพราะจากการที่ออก DW ตัวแรกคือ PTT13CAเข้าซื้อขายสามารถสร้างกำไรให้นักลงทุนได้สูงถึง 16% และใช้เงินลงทุนไม่มาก ซึ่งหากนักลงทุนที่มีการลงทุนในหุ้นKBANK หรือ PTT มีการสัดสรรเงินลงทุนมาลงทุนในDW ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีในการกระจายการลงทุนที่จะให้รับผลตอบแทนที่ดี
**จี้ให้ข้อมูลนักลงทุนเพิ่ม
ขณะเดียวกันแหล่งข่าวโบรกเกอร์รายหนึ่ง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า สาเหตุที่เรื่องนี้เกิดปัญหามาจากความไม่รู้และไม่เข้าใจในDW ของนักลงทุนนั่นเอง แต่พอรู้ว่าเครื่องมือดังกล่าวสร้างสร้างผลตอบแทนได้ในระดับที่สูงและใช้ต้นทุนทางการเงินจึงเกิดความสนใจ ติดเพียงว่ายังกังวลเกี่ยวกับการเลือกลงทุน และหุ้นแม่ที่ถือไว้จะได้รับผลกระทบหรือไม่
ทั้งนี้ นักลงทุนต้องเข้าใจในเรื่องของการออกวอร์แรนต์ก่อนว่า มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร มีการอ้างอิงราคาจากหุ้นแม่อย่างไรบ้าง สิทธิ์ในการแลกหุ้นเป็นอย่างไร แต่ในส่วนDW สิ่งที่ควรคำนึงมากสุดนั่นคือเป็นการลงทุนที่สามารถทำกำไรได้จากส่วนต่างของราคาหุ้นที่มีการปรับตัวขึ้นลง ซึ่งนักลงทุนต้องรู้จักบริษัทแม่ รู้จักลักษณะการดำเนินงานของธุรกิจ เพื่อสามารถคาดเดาส่วนต่างราคาหุ้นเวลาที่มีการเคลื่อนไหวได้
แหล่งข่าว กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่น่ากังวลคือความรู้ความเข้าใจของนักลงทุนต่อสินค้าใหม่ๆที่จะมีออกมาเพิ่มเติม เพราะกรณีปตท.ในครั้งนี้ นั่นหมายความว่าการสร้างและการกระจายความรู้ถึงนักลงทุนยังไปไม่ถึงทุกช่องทางจึงเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ซึ่งปัญหานี้คล้ายกับกรณี SET50 Index Options ที่เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงและเครื่องในการลงทุนที่ดี แต่ปริมาณการซื้อขาย หรือผู้สนใจเข้าลงทุนในปัจจุบันยังมีน้อย
ดังนั้นจึงเห็นด้วยกับผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ ที่ออกมาให้ข่าวก่อนหน้านี้ว่า จะเร่งให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องการลงทุนอนุพันธ์เพิ่มขึ้น เพราะDW นับว่าเป็นการลงทุนที่มีความผันผวนน้อยและน่าสนใจ หากแก้ปัญหาในจุดนี้ได้จะทำให้สินค้าประเภทนี้ที่จะมีการนำออกมาเพิ่มเติม จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนทุกครั้งที่มีการเปิดขายแน่ แต่ในทางกลับกันหากไม่สามารถให้ข้อมูลหรือสร้างความเข้าใจได้ดี ก็อาจจะเป็นเหมือนสินค้ารุ่นก่อน ที่มีมาและเงียบหายไปจากความรู้จักของนักลงทุน
แหล่งข่าวจากบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า นักลงทุนได้มีการสอบถามมายังบริษัทในกรณีที่มีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) นำหุ้นปตท.ไปอ้างอิงในการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) นั้นจะส่งผลกระทบต่อหุ้นของปตท.หรือไม่ และ DW คืออะไร โดยทางบริษัทได้มีการสอบถามไปยัง บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI ซึ่งเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ อ้างอิงหุ้นปตท.หรือ PTT13CA ว่าการออกPTT13CA จะกระทบราคาหุ้นของ PTTหรือไม่ และจะมีผลกระทบต่อ PTT ในด้านใดบ้างและสาเหตุที่มาของการออกDW อ้างอิงกับหุ้นPTT
ทั้งนี้ทางบล.เคจีไอ มีการชี้แจงว่าการออกDWอ้างอิงปตท.นั้นจะช่วยทำให้หุ้นของ PTT มีสภาพคล่องการซื้อขายมากขึ้น และราคาหุ้นของ PTT จะมีผลต่อราคาหุ้นของ PTT13CA เพราะการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นของ PTT13CAจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาหุ้น PTT ซึ่งการที่นักลงทุนได้มีการสอบถามในเรื่องดังกล่าว นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่นักลงทุนมีความระมัดระวังในการลงทุนในหุ้น
“จากที่มีการออก DW อ้างอิงหุ้นปตท.และมีการสอบถามาจากนักลงทุนนั้น เราได้มีการสอบถามไปยังบล.เคจีไอให้มีการชี้แจง 3 ข้อ คือ ราคาหุ้นจะถูกกระทบหรือไม่ 2. ปตท.จะถูกกระทบด้านใดบ้าง 3. ทำไมถึงมีการออกDWอ้างอิงหุ้นปตท. ”แหล่งข่าวจากปตท. กล่าว
ด้านแหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า การที่บล.เคจีไอ จะมีการออกเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์อ้างอิงหุ้น ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)หรือ KBANK ซึ่งใช้ชื่อย่อว่า KBANK 13CA ในเร็วๆนี้ เชื่อว่าอาจมีนักลงทุนที่มีหุ้นKBANK สอบถามไปยังบริษัทเช่นเดียวกับกรณีของปตท.แน่ อย่างไรก็ตาม กา
สำหรับ KBANK 13CA จะมีการเสนอขายจำนวน 30 ล้านหน่วย เปิดจองซื้อในวันที่ 10 -21 สิงหาคม นี้ โดยผู้จัดจำหน่ายคือ บล.ฟาร์อีสท์ และบล.บีที ซึ่งราคาของ KBANK 13CAจะอยู่ที่ 3.50% ของราคาปิดหุ้น KBANK ณ วันที่ 24 สิงหาคมนี้และจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯวันที่ 27 สิงหาคมนี้
โดยKBANK 13CAจะมีอายุในการซื้อขาย 6 เดือน ซึ่งจะซื้อขายวันสุดท้ายวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 และมีวันครบกำหนดอายุในวันที่ 19 สิงหาคม 2553 มีอัตราการใช้สิทธิ ต่อหน่วย 4 ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ ต่อ 1 หุ้นสามัญ ส่วนราคาการใช้สิทธิ 110%ของราคาปิด ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2552 ของหุ้นKBANK
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามความสนใจนักลงทุนเบื้องต้นให้ความสนใจลงทุนใน KBANK 13CA จำนวนมาก เพราะจากการที่ออก DW ตัวแรกคือ PTT13CAเข้าซื้อขายสามารถสร้างกำไรให้นักลงทุนได้สูงถึง 16% และใช้เงินลงทุนไม่มาก ซึ่งหากนักลงทุนที่มีการลงทุนในหุ้นKBANK หรือ PTT มีการสัดสรรเงินลงทุนมาลงทุนในDW ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีในการกระจายการลงทุนที่จะให้รับผลตอบแทนที่ดี
**จี้ให้ข้อมูลนักลงทุนเพิ่ม
ขณะเดียวกันแหล่งข่าวโบรกเกอร์รายหนึ่ง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า สาเหตุที่เรื่องนี้เกิดปัญหามาจากความไม่รู้และไม่เข้าใจในDW ของนักลงทุนนั่นเอง แต่พอรู้ว่าเครื่องมือดังกล่าวสร้างสร้างผลตอบแทนได้ในระดับที่สูงและใช้ต้นทุนทางการเงินจึงเกิดความสนใจ ติดเพียงว่ายังกังวลเกี่ยวกับการเลือกลงทุน และหุ้นแม่ที่ถือไว้จะได้รับผลกระทบหรือไม่
ทั้งนี้ นักลงทุนต้องเข้าใจในเรื่องของการออกวอร์แรนต์ก่อนว่า มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร มีการอ้างอิงราคาจากหุ้นแม่อย่างไรบ้าง สิทธิ์ในการแลกหุ้นเป็นอย่างไร แต่ในส่วนDW สิ่งที่ควรคำนึงมากสุดนั่นคือเป็นการลงทุนที่สามารถทำกำไรได้จากส่วนต่างของราคาหุ้นที่มีการปรับตัวขึ้นลง ซึ่งนักลงทุนต้องรู้จักบริษัทแม่ รู้จักลักษณะการดำเนินงานของธุรกิจ เพื่อสามารถคาดเดาส่วนต่างราคาหุ้นเวลาที่มีการเคลื่อนไหวได้
แหล่งข่าว กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่น่ากังวลคือความรู้ความเข้าใจของนักลงทุนต่อสินค้าใหม่ๆที่จะมีออกมาเพิ่มเติม เพราะกรณีปตท.ในครั้งนี้ นั่นหมายความว่าการสร้างและการกระจายความรู้ถึงนักลงทุนยังไปไม่ถึงทุกช่องทางจึงเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ซึ่งปัญหานี้คล้ายกับกรณี SET50 Index Options ที่เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงและเครื่องในการลงทุนที่ดี แต่ปริมาณการซื้อขาย หรือผู้สนใจเข้าลงทุนในปัจจุบันยังมีน้อย
ดังนั้นจึงเห็นด้วยกับผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ ที่ออกมาให้ข่าวก่อนหน้านี้ว่า จะเร่งให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องการลงทุนอนุพันธ์เพิ่มขึ้น เพราะDW นับว่าเป็นการลงทุนที่มีความผันผวนน้อยและน่าสนใจ หากแก้ปัญหาในจุดนี้ได้จะทำให้สินค้าประเภทนี้ที่จะมีการนำออกมาเพิ่มเติม จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนทุกครั้งที่มีการเปิดขายแน่ แต่ในทางกลับกันหากไม่สามารถให้ข้อมูลหรือสร้างความเข้าใจได้ดี ก็อาจจะเป็นเหมือนสินค้ารุ่นก่อน ที่มีมาและเงียบหายไปจากความรู้จักของนักลงทุน
