คอลัมน์ “เรื่องมันฟ้อง” โดย กรงเล็บ
เดินเกมดับเครื่องชนจนทำให้ชื่อของ “พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์” ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เคยซุกตัวเงียบภายใต้แสงสีม่วงอันอบอวลไปด้วยอุ่นไอรัก ในฐานะหน้าห้องผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ต้องออกมาผงาดง้ำปกป้อง “พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” ผู้เป็นยิ่งกว่านายแบบสุดชีวิต
ถึงขนาดในเย็นวันเดียวกับที่นายกรัฐมนตรีขีดเส้นตายให้ “พล.ต.อ.พัชรวาท” ลาราชการไปต่างประเทศ เปิดทางให้คดีลอบยิง สนธิ ลิ้มทองกุล ได้เดินหน้าต่อแบบไม่สะดุดตอ ก็ทำให้มีการเคลียร์พื้นที่หน้าห้องเรียกนักข่าวไปรับข้อมูลจาก
พล.ต.ท.หน้านวล
เพื่อกัน “พล.ต.อ.พัชรวาท” ออกจากข้อครหาเป็น “ตอ” ในคดีลอบยิงสนธิ
ด้วยการบิดเบือน ป้ายสี โยงใยว่าฝ่ายการเมืองไม่พอใจบัญชีโยกย้ายนายตำรวจระดับนายพล ทำให้ต้องการล้มกระดานและปัด “พล.ต.อ.พัชรวาท” ให้พ้นทาง
ปล่อยข่าวโดยคิดว่าจะเป็นการตลบหลัง จนลืมคิดไปว่า การหยิบเรื่องโยกย้ายตำรวจที่ส่งกลิ่นเหม็นโฉ่คาวปทุมวันมาเป็นตัวขับเคลื่อนนั้น
สุดท้ายจะกลายเป็นเรื่องขว้างงูไม่พ้นคอ จนงูที่ขว้างออกไปนั้นกลับมาพ่นพิษใส่ตัวเอง
จากที่คนไม่ได้ให้ความสนใจการโยกย้ายตำรวจระดับนายพล ไปจนถึงความพยายามทำบัญชีโยกย้ายระดับรองผู้บังคับการไปจนถึงสารวัตร ว่ามีความไม่ชอบมาพากลอย่างไรบ้าง ก็เลยทำให้ทุกสายตาหันมาจับจ้องเรื่องนี้อย่างสนอกสนใจ
ระบบจองเก้าอี้ล่วงหน้าแลกกับปัจจัยบางอย่างที่ถูกตีค่าเทียบเท่าพระเจ้า ซึ่งเคยถูกซุกไว้ใต้พรมจึงทะลักออกมาให้สังคมได้ยลโฉม
อันอัปลักษณ์ที่หลบซ่อนเป็น “อีแอบ” มานาน
ท่วงท่าที่เคยแสดงออกอย่างแข็งขันก็เลยอ่อนยวบ หลังถูก “นายหัวใจ” อบรมให้อยู่นิ่งๆ เพราะยิ่งออฟไซด์ แทนที่จะเป็นตัวช่วยกลับกลายเป็นตัวถ่วง ทำให้การเจรจาต่อรองซึ่งกำลังเดินเกมอยู่ยากลำบากมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ “หน้าห้องเทียบเท่าหลังบ้าน” คนนี้ก็เคยคิดแทน ทำแทน “นาย” ด้วยการออกคำสั่งส่งตัว “พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ” ผกก.น.6 บก.รน. หรือ “ผู้กำกับตุ้ม” ที่มาช่วยคลี่คลายคดีลอบยิงสนธิ กลับต้นสังกัดที่สุราษฎร์ธานี จนนายกรัฐมนตรีต้องต่อสายตรงไปถึง “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ให้รีบเคลียร์กับ “พล.ต.อ.พัชรวาท” กระทั่ง “ผู้กำกับตุ้ม” ได้กลับมาทำคดีต่อภายในเวลาไม่ถึงสี่ชั่วโมง
แม้จะแอบกรี๊ดอยู่ในส่วนลึก
พล.ต.ท.หน้าห้องต้องรีบร่อนเอกสารปกหวานแหววสีชมพูถึงคนบนตึกไทยคู่ฟ้า ชี้แจงอ้างเหตุผลดึงตัว “ผู้กำกับตุ้ม” ไปทำคดีน้ำมันเถื่อนทางภาคใต้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขัดคำสั่งไม่ให้สืบสวนคดี “สนธิ”
เอกสารปกหวานที่บรรจงประดิษฐ์มาอย่างดี หวังแก้ตัวให้พ้นผิด ทำเอาหลายคนที่ได้เห็นถึงกับหัวร่องอหาย เพราะนอกจากใบปะหน้าชี้แจงแค่สองแผ่นจะฟังไม่ขึ้นแล้ว เนื้อในที่สอดไส้มาเพื่อแสดงให้เห็นถึงผลงานของคนส่งเอกสารนั้นก็ทำให้รู้สึกสยิวกิ้ว!
จะไม่ให้สยิวได้อย่างไร ในเมื่อเปิดเนื้อในเจอภาพ “กระจู๋ปลอม” พร้อมของเล่นอนาจารนานาชนิด ทำเอาตกใจนึกว่ามีใครบางคนอยากสื่อสารลึกซึ้ง
กระทั่งถึงบางอ้อว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ เพียงแค่อยากให้เห็นผลงานการจับกุม สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เท่านั้น อย่าคิดมาก!
แต่คนที่ควรคิดให้จงหนักคือ “พล.ต.อ.พัชรวาท” ว่า ยังอยากเรียกใช้หน้าห้องทูอินวันคนนี้ต่อไปหรือไม่