ศูนย์ข่าวศรีราชา - เพลิงปริศนาเผาผลาญเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนของกลางในคดี ระเบิดตูมตามท่ามกลางเรือประมงจอดที่สะพานจำนวนมาก เรือต้องถอยหนีเกรงรุกรามไหม้ท่าเรือและเรือประมง ระดมรถดับเพลิงทหารช่วยดับไม่สำเร็จ ต้องรากไปกลางทะเลปล่อยเพลิงโหมกระหน่ำ
เวลา 17.00 น.วันนี้ (10 มิ.ย.52) นายประเสริฐ พิทักษ์กรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลช่องแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้เรือบรรทุกน้ำมัน บริเวณท่าเทียบเรือภิรมย์ ม.3 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งได้ประสานไปยัง พล.ร.ท.ศรีวิสุทธิ์ รตารุณ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ และนายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ เพื่อขอรับการสนับสนุนรถดับเพลิง เข้าร่วม เนื่องจากเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างหนัก และเกรงว่าเพลิงจะลุกลามไปไหม้เรือลำอื่นที่จอดอยู่จำนวนมาก
ในเวลาต่อมา รถดับเพลิงของทางเทศบาลเมืองสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ และกองการบินทหารเรือ รวม 7 คัน ได้เข้าร่วมสนับสนุนในที่เกิดเหตุ แต่การดำเนินการดับไฟเป็นไปด้วยความยากลำบาก รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปได้ทั้งหมด เพราะสะพานคับแคบยากต่อการเข้าออก ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้เกณฑ์เรือประมงที่จอดอยู่โดยรอบ และประชาชนนับร้อยให้ออกจากท่าเทียบเรือเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากได้มีเสียงระเบิดดังสนั่นอย่างต่อเนื่อง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ระดมฉีดน้ำอย่างหนัก แต่เพลิงที่กำลังเผาไหม้น้ำมันไม่มีทีท่าจะดับลง กระทั่งเวลาผ่านไปนานร่วม 1 ชั่วโมง เพลิงได้เผาผลาญเรือจนไหว้วอดเกือบทั้งลำ ก่อนเจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจ ใช้เรือประมงลากเรือออกกลางทะเล ไปบริเวณหลังวัดเขาหลวงพ่อดำเพื่อให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
จากการสอบถาม นายประจวบ ทองเกษม อายุ 65 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ตำบลแสมสาร กล่าวว่าก่อนเกิดเหตุได้พบลูกเรือลงไปทำงาน ซ่อมแซมภายในเรือลำดังกล่าว โดยใช้เครื่องเชื่อมโลหะ ทำให้เกิดประกายไฟ ไปตกในน้ำมันที่เหลืออยู่ภายในเรือ จำนวน 7,000 ลิตร จนทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถดับได้ทัน ลูกเรือได้หนีเอาชีวิตรอดได้ทัน ส่วนสาเหตุอื่น ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนหาสาเหตุต่อไป เพราะเรือลำนี้เป็นเรือของกลางที่ถูกยึดไว้ตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเรือลำดังกล่าว เป็นเรือประมงดัดแปลงระวางเรือเป็นเรือบรรทุกน้ำมันได้ 20,000 ลิตร ขนาด 9 วา 2 ศอก ชื่อ ปิยชล ทะเบียนเรือ รย.1142 สีฟ้าขาว ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนชนิดดีเซลหมุนเร็ว ที่ทางด้านสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ โดย พันตำรวจเอก สมชาย สุนทวนิค ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ พันตำรวจโท ดำรงค์ อ้วนสูงเนิน สารวัตรปราบปราม และเจ้าหน้าที่ตำรวจป้อมยามแสมสาร สามารถจับกุมไว้ได้ขณะลักลอบขนถ่ายน้ำมันจากเรือขึ้นบรรจุใส่ถังน้ำมันบนรถบรรทุก 6 ล้อ ให้กับลูกค้า ที่สะพานท่าเทียบเรือชื่อ ภิรมย์ หมู่ที่ 3 ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ เมื่อเวลา 04.45 น. ของวันที่ 7 พฤษภาคม 2552 บรรทุกน้ำมันเถื่อน