เมื่อเวลา 18.00 น. วานนี้ (5ส.ค.) ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลปะ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลและประชาชน แสดงความเป็นห่วงกรณีกลุ่มเสื้อแดงจะยื่นถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า ตนคงไม่มีอะไรเพิ่มเติม และไม่ขอพูดต่อในประเด็นนี้ เพราะเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปแล้ว สำหรับความเหมาะสมในการยื่นถวายฎีกานั้น คงไม่สามารถพูดได้ ส่วนจะกระทบ ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทหรือไม่นั้น สุดแล้วแต่จะคิดกัน คงไม่มีข้อคิดเห็น
เมื่อถามว่าจะให้ประชาชนใช้วิจารญาณของตนเองใช่หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว คิดว่าทางรัฐบาล และประชาชนคงใช้วิจารณญาณ เมื่อถามว่าควรทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องขั้นตอนกฎหมายหรือไม่ พล.อ.สุรุยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ ทางองคมนตรี ไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะเป็นผู้รับผิดชอบองคมนตรีไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่าห่วงหรือไม่ว่าจะส่งผลให้เกิดความแตกแยก พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสังคมเราแล้ว จึงไม่อยากให้ข้อคิดเห็นอะไรเพิ่มเติม
เมื่อถามว่าการถวายฏีกาจะทำให้พระองค์ท่านไม่สบายใจหรือไม่ เพราะทำให้ประชาชนแตกแยก พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่าให้ข้อคิดเห็นไม่ได้ เพราะไม่อยู่ในฐานะให้ข้อคิดเห็นว่าจะมีผลอย่างไร เมื่อถามว่าหากมีการยื่นถวายฎีกาผ่านองคมนตรีจะทำอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ ต้องรอให้เกิดขึ้นก่อน อย่างไรก็ตาม องคมนตรียังไม่มีข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
เมื่อถามถึงการบริหารงานของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรุยุทธ์ กล่าวว่าไม่สามารถให้ข้อคิดเห็นได้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เมื่อถามว่ อึดอัดต่อสถานการณ์การเมืองหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไร
นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า การถวายฎีกา เป็นสิทธิ์ของประชาชนที่สามารถเข้ายื่นได้ แต่อย่างไรก็ตาม ในเรื่องดังกล่าวมีข้อกฏหมายวิธีพิจารณาความคดีอาญาได้ระบุชัดเจนว่า จะต้องทำตามขั้นตอนอย่างไร ถึงแม้ว่าจะมีการเข้าชื่อมากหลายล้านชื่อก็ต้องกลับไปดูบทกฏหมายว่า สามารถทำได้หรือไม่ ส่วนเรื่องที่กลุ่มคนเสื้อแดงเข้ายื่นถวายฎีกานั้น ตนไม่ขอไปแสดงความคิดเห็น หรือวิพากษ์วิจารณ์เพราะว่าเหตุการณ์ในกรณีนี้เป็นเรื่องของการเมืองมากกว่า
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า การคัดค้านการถวายฎีกา ไม่ได้เป็นนโยบายของรัฐบาล เพราะอย่างที่เคยบอกว่า การถวายฎีกาครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ไม่บังควร เพราะไม่อยู่ในกฎเกณฑ์ กติกาที่กฎหมายกำหนดไว้ ไม่ได้ทำอย่างที่คนไทยอื่นๆ เขาได้ปฏิบัติกัน
"การถวายฎีกาคราวนี้ ไม่ทราบว่ามีเจตนาอะไร แต่คนไทยจำนวนมากเห็นว่า เป็นการกระทำที่กระทบเบื้องพระยุคลบาท ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ยังพยายามที่จะทำ เพราะฉะนั้นก็ต้องมีกระบวนการของคนไทย หรือกลุ่มคนไทย ที่เขาไม่เห็นด้วย เขาไม่พอใจ ผมก็ติดตามอยู่ว่ามีเจตนาอะไร สำหรับผมพอจะคาดเดาได้อยู่ แต่ยังไม่อยากจะพูดอะไร"นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่า อย่างนี้จะเท่ากับเป็นการดึงมวลชนมาชนกันเองหรือไม่ จะแก้ไขอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า การแก้ไขก็คือ ต้องไม่พยายามเอามวลชนไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เอาอย่างนี้ดีกว่า ตนก็ไม่อยากจะพูดให้แรงกว่านี้
ความเห็นแตกแยกเป็น 2 ฝ่ายในขณะนี้อาจจะเกิดความรุนแรงได้ จะดูแลอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า ก็อยากให้พี่น้องคนไทยได้ตระหนักว่า เขากำลังทำอะไร คนที่ทำเช่นนี้ไม่เหมาะอยู่แล้ว ทำทั้งๆ ที่คนส่วนใหญ่ของประเทศเห็นว่าไม่เหมาะ และยังดื้อดึงจะทำ
เมื่อถามว่ารัฐบาลประเมินหรือไม่ว่า หากมีการปะทะกันของคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยจะรุนแรงแค่ไหน รองนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ต้องการเห็นคนไทยปะทะกัน แต่รัฐบาลก็ไม่ต้องการเห็นใครที่ไปล่วงละเมิดองค์พระมหากษัตริย์
เมื่อถามว่าดูเจตนาของกลุ่มคนเสื้อแดง ต้องการปลุกปั่นให้เกิดการปะทะ ตรงนี้รัฐบาลจะระงับเหตุอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าเมื่อไรที่เข้าข่ายว่าทำผิดกฎหมาย เราก็จะดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อถามต่อว่า อย่างนี้จะต้องเอาทหารออกมาอีกหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า อะไรก็ได้ที่กฎหมายอนุญาตให้เราทำได้ เพื่อให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย เราก็จะทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประเมินจากหลายฝ่ายว่า การกระทำครั้งนี้ ต้องการให้สถาบันฯ ลงมาอย่าศึก รัฐบาลจะเข้าไปจัดการตรงนี้อย่างไร ก่อนที่จะให้สถาบันฯลงมา นายสุเทพ กล่าวว่า "พวกผมคงไม่ยินยอมให้ใครได้ล่วงละเมิดต่อองค์พระมหากษัตริย์หรอก"รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
**นับวันเสียงต่อต้านยิ่งมาก
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรากังวลมากเรื่องของความขัดแย้ง เพราะขณะนี้คนที่ไม่เห็นด้วยกับการถวายฎีกามีมากขึ้นทุกที ทำให้สภาพการณ์จะยิ่งคล้ายกับช่วงที่พ.ต.ท.ทักษิณ ขายหุ้นบริษัทชินคอร์ป ให้กับ เทมาเส็ก ซึ่งเสียงของคนที่ต่อต้านจะมากขึ้นทุกวัน เพราะฉะนั้นตนคิดว่ากระแสสังคมตอนนี้ และโดยข้อกฎหมายด้วย ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ออกมาชี้ชัดว่า ในทางกฎหมายทำไม่ได้เพราะอะไร
"กลุ่มคนเสื้อแดงควรทบทวนท่าที ประเด็นทั้งหมดอยู่ที่ คุณทักษิณ ถ้าคุณทักษิณ หยุดเรื่องนี้ทุกอย่างก็จะจบ ฉะนั้นในขณะนี้เราต้องดูแลไม่ให้เกิดการนำไปสู่ความขัดแย้งที่บานปลายออกไป จากวันนี้ไปถึงวันที่ 17 ส.ค. ยังเหลือเวลาอีกหลายวัน กลุ่มคนเสื้อแดง ควรทบทวนท่าทีตัวเองเสียใหม่ เพราะในเมื่อท่าทีของคนไทยส่วนใหญ่เขาไม่ยอม ก็เป็นเรื่องที่ไม่ใช่จะอ้างว่ามี 5 ล้าน 10 ล้าน แล้วจะมาบอกว่า ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องนี้ได้ ก็คงทำไม่ได้ ส่วนรัฐบาลก็ต้องดูแลไม่ให้มีการปะทะกันบนท้องถนน จนบานปลายออกไป เราจะทำความเข้าใจกับประชาชน และเดินหน้าทำต่อเนื่อง ต้องเปิดโอกาสให้กลุ่มที่ไม่เห็นด้วย ได้มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น เพราะเขาเองก็ติดตามเรื่องนี้มานาน กลุ่มนักวิชาการ กลุ่มมวลชน ก็ต้องให้โอกาสเขาออกมาชี้แจงต่อสังคมด้วย" นายสาทิตย์กล่าว
**ภท.ปัดจัดมวลชนต้าน"ฎีกาแดง"
นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การที่ที่พรรคภูมิใจไทย ออกมาต่อต้านการยื่นถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะขณะนี้คนทั่วประเทศก็ออกมาคัดค้านการถวายฎีกาเต็มไปหมด โดยที่ จ.ขอนแก่น มีผู้ออกมาคัดค้านแล้ว 5 หมื่นคน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า พรรคภูมิใจไทย จะจัดมวลชนมาคัดค้านการยื่นถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงผ่านสำนักราชเลขาธิการในวันที่ 17 ส.ค.นี้ นั้น คงไม่ใช่ความคิดของพวกเรา
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าพรรคไม่ได้จัดมวลชนไปให้กำลังใจนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรค ที่จะไปฟังคำพิพากษาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่จะตัดสินคดีกล้ายาง ในวันที่ 17 ส.ค. ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันที่กลุ่มเสื้อแดงจะถวายฎีกา แต่อาจจะมีส.ส.ของพรรคไปให้กำลังใจ ส่วนประชาชนที่สนใจเกี่ยวกับคดีนี้ ก็อาจจะไปรับฟัง แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับพรรค และคิดว่าไม่น่าจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้น เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงบอกว่าจะไปรวมตัวกันด้วยความสงบ จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคจะมีมาตรการป้องกันหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย นายศุภชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องของตำรวจที่ต้องดูแลความเรียบร้อย แต่อยากให้ไปดูในฝั่งของคนเสื้อแดงมากกว่า เพราะคนที่ไปฟังคำพิพากษา และอยู่ในสถานที่ซึ่งเป็นอำนาจศาล ทุกคนต้องอยู่ ด้วยความเรียบร้อยอยู่แล้ว
**อ้างฎีกาไม่โต้แย้งคำพิพากษาศาล
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวว่า การที่รัฐบาลและบุคคลหลายกลุ่มพยายามคัดค้านการถวายฎีกาช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะการที่อ้างว่าพระราชกฎษฎีกาพระราชทานอภัยโทษสามารถทำได้ แต่ต้องไม่โต้แย้งคำพิพากษาของศาลฎีกานั้น จากการตรวจสอบเนื้อหาในหนังสือฎีกา ขอยืนยันว่าไม่มีถ้อยคำใดที่ไปโต้ หรือแย้งคำพิพากษาศาลฎีกา แต่เป็นการร้องทุกข์ที่เกิดจากการยึดอำนาจ มีรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และกระบวนการยุติธรรม ที่ไม่ใช่สากลในการตัดสินคดี พ.ต.ท.ทักษิณ จึงมีความชอบธรรมที่ประชาชนจะเข้าชื่อถวายฎีกา
**จวก"วิษณุ"จากมือกม.มาซุ่มโจมตี
สำหรับกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีนักกฎหมายระดับประเทศคนหนึ่งบอกว่า พระราชกฤษฎีกาวางระเบียบทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาซึ่งตราขึ้นสมัยรัชกาลที่ 6 และยังมีผลใช้บังคับจนถึงปัจจุบันนั้น ระบุว่า การขอพระราชทานพระมหากรุณาลดหย่อนผ่อนโทษต้องไม่โต้แย้งคำพิพากษาของศาลนั้น อยากถามว่าใช่นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรีหรือไม่ และนายวิษณุ อยู่เบื้องหลังหรือไม่ เพราะทราบข้อมูลมาว่า การนำเสนอดังกล่าวเป็นหนึ่งในเนื้อหาที่นายวิษณุ นำไปบรรยายที่คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า นายวิษณุรับงานใครมาหรือไม่ จึงเปลี่ยนรูปแบบใหม่มานำเสนอผ่านทางหนังสือพิมพ์ ถือเป็นแผนล้มการถวายฎีกา และไม่คิดว่านายวิษณุ จะเปลี่ยนจากมือกฎหมายระดับชาติมาเป็นหน่วยซุ่มโจมตี
**ปูดแผนปฎิบัติการเหมือนก่อน19 ก.ย.49
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทราบว่า มีความพยายามจะรวบรวมรายชื่อคัดค้านการถวายฎีกาให้ได้จำนวนมากที่สุด และทราบว่าในวันที่11 ส.ค. จะมีการระดมประชาชนเข้ามาแสดงความจงรักภักดี โดยมีการเตรียมป้ายผ้า เพื่อแสดงการคัดค้านการถวายฎีกาด้วย จึงอยากถามรัฐบาลว่า มีการเตรียมการเรื่องนี้จริงหรือไม่ ใครก็ตามที่ออกมาแสดงบทบาทคัดค้านการถวายฎีกานั้นอย่าคิดว่ามีความสำคัญมากกว่าประชาชน 5 ล้านคน โดยเฉพาะฝ่ายอำมาตย์ ที่พยายามใช้กลไกทุกอย่างเหมือนช่วงที่พยายามจะล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เมื่อไม่สำเร็จ ก็ใช้กำลังทหารมาปฎิบัติการ อยากถามว่าวิธีสุดท้ายนั้นมีการเตรียมจะปฎิบัติการเหมือนเหตุการณ์ 19 กันยา 49 ด้วยหรือไม่
**คุยคน1แสนร่วมวันถวายฎีกา
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวว่า การที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาประกาศจะเคลื่อนไหวคัดค้านการยื่นถวายฎีกา ในวันที่ 17 ส.ค.นั้น ไม่รู้ว่าจะหาแนวร่วมได้ที่ไหน การนำรายชื่อถวายฎีกาในวันที่ 17 ส.ค.นั้น หากรัฐบาลยังคัดค้านอยู่ หลังวันที่ 17 ส.ค. จะเจอกับคนเสื้อแดงอีกรอบ เพราะไม่มีอะไรจะมาขัดขวางการยื่นถวายฎีกาครั้งนี้ได้
ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์นองเลือด เพราะจะมีกลุ่มคนที่ออกมาคัดค้านการถวายฎีกาในวันนั้น นายจตุพร กล่าวว่า เราจะดำเนินการโดยสันติวิธี หลังจากยื่นผ่านสำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง เสร็จแล้วก็จะร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้นจะแยกย้ายกลับ
นายจตุพร กล่าวอีกว่าการไปยื่นถวายฎีกาครั้งนี้จะมีประชาชนไปร่วมประมาณ 1 แสนคน ซึ่งจะต้องใช้คนถือกล่องรายชื่อทั้งหมด 1,200 คน เพราะมีจำนวนถึง 600 กล่องๆละ 1 หมื่นรายชื่อ
ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณฝากอะไรถึงการเข้าชื่อถวายฎีกาหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ท่านไม่ได้ว่าอะไร ถือเป็นสิทธิของประชาชน และไม่ใช่เฉพาะคนเสื้อแดง แต่มีคนกลุ่มอื่นๆ ที่อยากให้พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศด้วย
**ตะแบง"แม้ว"ไม่ยุ่งเรื่องฎีกา
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า การที่รัฐบาลและพรรคภูมิใจไทย พยายามสกัดดั้นการถวายฎีกา เนื่องจากเกิดความหวั่นไหวอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม เรื่องการถวายฎีกา ประชาชนเป็นผู้ดำเนินการ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ยุ่งเกี่ยว เพราะหากท่านหรือครอบครัวเข้าไปมีส่วนร่วมก็จะถูกมองว่าทำเพื่อตัวเอง
เมื่อถามว่าจะให้ประชาชนใช้วิจารญาณของตนเองใช่หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว คิดว่าทางรัฐบาล และประชาชนคงใช้วิจารณญาณ เมื่อถามว่าควรทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องขั้นตอนกฎหมายหรือไม่ พล.อ.สุรุยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ ทางองคมนตรี ไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะเป็นผู้รับผิดชอบองคมนตรีไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่าห่วงหรือไม่ว่าจะส่งผลให้เกิดความแตกแยก พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสังคมเราแล้ว จึงไม่อยากให้ข้อคิดเห็นอะไรเพิ่มเติม
เมื่อถามว่าการถวายฏีกาจะทำให้พระองค์ท่านไม่สบายใจหรือไม่ เพราะทำให้ประชาชนแตกแยก พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่าให้ข้อคิดเห็นไม่ได้ เพราะไม่อยู่ในฐานะให้ข้อคิดเห็นว่าจะมีผลอย่างไร เมื่อถามว่าหากมีการยื่นถวายฎีกาผ่านองคมนตรีจะทำอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ ต้องรอให้เกิดขึ้นก่อน อย่างไรก็ตาม องคมนตรียังไม่มีข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
เมื่อถามถึงการบริหารงานของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรุยุทธ์ กล่าวว่าไม่สามารถให้ข้อคิดเห็นได้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เมื่อถามว่ อึดอัดต่อสถานการณ์การเมืองหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไร
นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า การถวายฎีกา เป็นสิทธิ์ของประชาชนที่สามารถเข้ายื่นได้ แต่อย่างไรก็ตาม ในเรื่องดังกล่าวมีข้อกฏหมายวิธีพิจารณาความคดีอาญาได้ระบุชัดเจนว่า จะต้องทำตามขั้นตอนอย่างไร ถึงแม้ว่าจะมีการเข้าชื่อมากหลายล้านชื่อก็ต้องกลับไปดูบทกฏหมายว่า สามารถทำได้หรือไม่ ส่วนเรื่องที่กลุ่มคนเสื้อแดงเข้ายื่นถวายฎีกานั้น ตนไม่ขอไปแสดงความคิดเห็น หรือวิพากษ์วิจารณ์เพราะว่าเหตุการณ์ในกรณีนี้เป็นเรื่องของการเมืองมากกว่า
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า การคัดค้านการถวายฎีกา ไม่ได้เป็นนโยบายของรัฐบาล เพราะอย่างที่เคยบอกว่า การถวายฎีกาครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ไม่บังควร เพราะไม่อยู่ในกฎเกณฑ์ กติกาที่กฎหมายกำหนดไว้ ไม่ได้ทำอย่างที่คนไทยอื่นๆ เขาได้ปฏิบัติกัน
"การถวายฎีกาคราวนี้ ไม่ทราบว่ามีเจตนาอะไร แต่คนไทยจำนวนมากเห็นว่า เป็นการกระทำที่กระทบเบื้องพระยุคลบาท ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ยังพยายามที่จะทำ เพราะฉะนั้นก็ต้องมีกระบวนการของคนไทย หรือกลุ่มคนไทย ที่เขาไม่เห็นด้วย เขาไม่พอใจ ผมก็ติดตามอยู่ว่ามีเจตนาอะไร สำหรับผมพอจะคาดเดาได้อยู่ แต่ยังไม่อยากจะพูดอะไร"นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่า อย่างนี้จะเท่ากับเป็นการดึงมวลชนมาชนกันเองหรือไม่ จะแก้ไขอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า การแก้ไขก็คือ ต้องไม่พยายามเอามวลชนไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เอาอย่างนี้ดีกว่า ตนก็ไม่อยากจะพูดให้แรงกว่านี้
ความเห็นแตกแยกเป็น 2 ฝ่ายในขณะนี้อาจจะเกิดความรุนแรงได้ จะดูแลอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า ก็อยากให้พี่น้องคนไทยได้ตระหนักว่า เขากำลังทำอะไร คนที่ทำเช่นนี้ไม่เหมาะอยู่แล้ว ทำทั้งๆ ที่คนส่วนใหญ่ของประเทศเห็นว่าไม่เหมาะ และยังดื้อดึงจะทำ
เมื่อถามว่ารัฐบาลประเมินหรือไม่ว่า หากมีการปะทะกันของคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยจะรุนแรงแค่ไหน รองนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ต้องการเห็นคนไทยปะทะกัน แต่รัฐบาลก็ไม่ต้องการเห็นใครที่ไปล่วงละเมิดองค์พระมหากษัตริย์
เมื่อถามว่าดูเจตนาของกลุ่มคนเสื้อแดง ต้องการปลุกปั่นให้เกิดการปะทะ ตรงนี้รัฐบาลจะระงับเหตุอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าเมื่อไรที่เข้าข่ายว่าทำผิดกฎหมาย เราก็จะดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อถามต่อว่า อย่างนี้จะต้องเอาทหารออกมาอีกหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า อะไรก็ได้ที่กฎหมายอนุญาตให้เราทำได้ เพื่อให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย เราก็จะทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประเมินจากหลายฝ่ายว่า การกระทำครั้งนี้ ต้องการให้สถาบันฯ ลงมาอย่าศึก รัฐบาลจะเข้าไปจัดการตรงนี้อย่างไร ก่อนที่จะให้สถาบันฯลงมา นายสุเทพ กล่าวว่า "พวกผมคงไม่ยินยอมให้ใครได้ล่วงละเมิดต่อองค์พระมหากษัตริย์หรอก"รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
**นับวันเสียงต่อต้านยิ่งมาก
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรากังวลมากเรื่องของความขัดแย้ง เพราะขณะนี้คนที่ไม่เห็นด้วยกับการถวายฎีกามีมากขึ้นทุกที ทำให้สภาพการณ์จะยิ่งคล้ายกับช่วงที่พ.ต.ท.ทักษิณ ขายหุ้นบริษัทชินคอร์ป ให้กับ เทมาเส็ก ซึ่งเสียงของคนที่ต่อต้านจะมากขึ้นทุกวัน เพราะฉะนั้นตนคิดว่ากระแสสังคมตอนนี้ และโดยข้อกฎหมายด้วย ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ออกมาชี้ชัดว่า ในทางกฎหมายทำไม่ได้เพราะอะไร
"กลุ่มคนเสื้อแดงควรทบทวนท่าที ประเด็นทั้งหมดอยู่ที่ คุณทักษิณ ถ้าคุณทักษิณ หยุดเรื่องนี้ทุกอย่างก็จะจบ ฉะนั้นในขณะนี้เราต้องดูแลไม่ให้เกิดการนำไปสู่ความขัดแย้งที่บานปลายออกไป จากวันนี้ไปถึงวันที่ 17 ส.ค. ยังเหลือเวลาอีกหลายวัน กลุ่มคนเสื้อแดง ควรทบทวนท่าทีตัวเองเสียใหม่ เพราะในเมื่อท่าทีของคนไทยส่วนใหญ่เขาไม่ยอม ก็เป็นเรื่องที่ไม่ใช่จะอ้างว่ามี 5 ล้าน 10 ล้าน แล้วจะมาบอกว่า ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องนี้ได้ ก็คงทำไม่ได้ ส่วนรัฐบาลก็ต้องดูแลไม่ให้มีการปะทะกันบนท้องถนน จนบานปลายออกไป เราจะทำความเข้าใจกับประชาชน และเดินหน้าทำต่อเนื่อง ต้องเปิดโอกาสให้กลุ่มที่ไม่เห็นด้วย ได้มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น เพราะเขาเองก็ติดตามเรื่องนี้มานาน กลุ่มนักวิชาการ กลุ่มมวลชน ก็ต้องให้โอกาสเขาออกมาชี้แจงต่อสังคมด้วย" นายสาทิตย์กล่าว
**ภท.ปัดจัดมวลชนต้าน"ฎีกาแดง"
นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การที่ที่พรรคภูมิใจไทย ออกมาต่อต้านการยื่นถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะขณะนี้คนทั่วประเทศก็ออกมาคัดค้านการถวายฎีกาเต็มไปหมด โดยที่ จ.ขอนแก่น มีผู้ออกมาคัดค้านแล้ว 5 หมื่นคน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า พรรคภูมิใจไทย จะจัดมวลชนมาคัดค้านการยื่นถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงผ่านสำนักราชเลขาธิการในวันที่ 17 ส.ค.นี้ นั้น คงไม่ใช่ความคิดของพวกเรา
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าพรรคไม่ได้จัดมวลชนไปให้กำลังใจนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรค ที่จะไปฟังคำพิพากษาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่จะตัดสินคดีกล้ายาง ในวันที่ 17 ส.ค. ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันที่กลุ่มเสื้อแดงจะถวายฎีกา แต่อาจจะมีส.ส.ของพรรคไปให้กำลังใจ ส่วนประชาชนที่สนใจเกี่ยวกับคดีนี้ ก็อาจจะไปรับฟัง แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับพรรค และคิดว่าไม่น่าจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้น เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงบอกว่าจะไปรวมตัวกันด้วยความสงบ จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคจะมีมาตรการป้องกันหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย นายศุภชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องของตำรวจที่ต้องดูแลความเรียบร้อย แต่อยากให้ไปดูในฝั่งของคนเสื้อแดงมากกว่า เพราะคนที่ไปฟังคำพิพากษา และอยู่ในสถานที่ซึ่งเป็นอำนาจศาล ทุกคนต้องอยู่ ด้วยความเรียบร้อยอยู่แล้ว
**อ้างฎีกาไม่โต้แย้งคำพิพากษาศาล
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวว่า การที่รัฐบาลและบุคคลหลายกลุ่มพยายามคัดค้านการถวายฎีกาช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะการที่อ้างว่าพระราชกฎษฎีกาพระราชทานอภัยโทษสามารถทำได้ แต่ต้องไม่โต้แย้งคำพิพากษาของศาลฎีกานั้น จากการตรวจสอบเนื้อหาในหนังสือฎีกา ขอยืนยันว่าไม่มีถ้อยคำใดที่ไปโต้ หรือแย้งคำพิพากษาศาลฎีกา แต่เป็นการร้องทุกข์ที่เกิดจากการยึดอำนาจ มีรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และกระบวนการยุติธรรม ที่ไม่ใช่สากลในการตัดสินคดี พ.ต.ท.ทักษิณ จึงมีความชอบธรรมที่ประชาชนจะเข้าชื่อถวายฎีกา
**จวก"วิษณุ"จากมือกม.มาซุ่มโจมตี
สำหรับกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีนักกฎหมายระดับประเทศคนหนึ่งบอกว่า พระราชกฤษฎีกาวางระเบียบทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาซึ่งตราขึ้นสมัยรัชกาลที่ 6 และยังมีผลใช้บังคับจนถึงปัจจุบันนั้น ระบุว่า การขอพระราชทานพระมหากรุณาลดหย่อนผ่อนโทษต้องไม่โต้แย้งคำพิพากษาของศาลนั้น อยากถามว่าใช่นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรีหรือไม่ และนายวิษณุ อยู่เบื้องหลังหรือไม่ เพราะทราบข้อมูลมาว่า การนำเสนอดังกล่าวเป็นหนึ่งในเนื้อหาที่นายวิษณุ นำไปบรรยายที่คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า นายวิษณุรับงานใครมาหรือไม่ จึงเปลี่ยนรูปแบบใหม่มานำเสนอผ่านทางหนังสือพิมพ์ ถือเป็นแผนล้มการถวายฎีกา และไม่คิดว่านายวิษณุ จะเปลี่ยนจากมือกฎหมายระดับชาติมาเป็นหน่วยซุ่มโจมตี
**ปูดแผนปฎิบัติการเหมือนก่อน19 ก.ย.49
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทราบว่า มีความพยายามจะรวบรวมรายชื่อคัดค้านการถวายฎีกาให้ได้จำนวนมากที่สุด และทราบว่าในวันที่11 ส.ค. จะมีการระดมประชาชนเข้ามาแสดงความจงรักภักดี โดยมีการเตรียมป้ายผ้า เพื่อแสดงการคัดค้านการถวายฎีกาด้วย จึงอยากถามรัฐบาลว่า มีการเตรียมการเรื่องนี้จริงหรือไม่ ใครก็ตามที่ออกมาแสดงบทบาทคัดค้านการถวายฎีกานั้นอย่าคิดว่ามีความสำคัญมากกว่าประชาชน 5 ล้านคน โดยเฉพาะฝ่ายอำมาตย์ ที่พยายามใช้กลไกทุกอย่างเหมือนช่วงที่พยายามจะล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เมื่อไม่สำเร็จ ก็ใช้กำลังทหารมาปฎิบัติการ อยากถามว่าวิธีสุดท้ายนั้นมีการเตรียมจะปฎิบัติการเหมือนเหตุการณ์ 19 กันยา 49 ด้วยหรือไม่
**คุยคน1แสนร่วมวันถวายฎีกา
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวว่า การที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาประกาศจะเคลื่อนไหวคัดค้านการยื่นถวายฎีกา ในวันที่ 17 ส.ค.นั้น ไม่รู้ว่าจะหาแนวร่วมได้ที่ไหน การนำรายชื่อถวายฎีกาในวันที่ 17 ส.ค.นั้น หากรัฐบาลยังคัดค้านอยู่ หลังวันที่ 17 ส.ค. จะเจอกับคนเสื้อแดงอีกรอบ เพราะไม่มีอะไรจะมาขัดขวางการยื่นถวายฎีกาครั้งนี้ได้
ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์นองเลือด เพราะจะมีกลุ่มคนที่ออกมาคัดค้านการถวายฎีกาในวันนั้น นายจตุพร กล่าวว่า เราจะดำเนินการโดยสันติวิธี หลังจากยื่นผ่านสำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง เสร็จแล้วก็จะร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้นจะแยกย้ายกลับ
นายจตุพร กล่าวอีกว่าการไปยื่นถวายฎีกาครั้งนี้จะมีประชาชนไปร่วมประมาณ 1 แสนคน ซึ่งจะต้องใช้คนถือกล่องรายชื่อทั้งหมด 1,200 คน เพราะมีจำนวนถึง 600 กล่องๆละ 1 หมื่นรายชื่อ
ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณฝากอะไรถึงการเข้าชื่อถวายฎีกาหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ท่านไม่ได้ว่าอะไร ถือเป็นสิทธิของประชาชน และไม่ใช่เฉพาะคนเสื้อแดง แต่มีคนกลุ่มอื่นๆ ที่อยากให้พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศด้วย
**ตะแบง"แม้ว"ไม่ยุ่งเรื่องฎีกา
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า การที่รัฐบาลและพรรคภูมิใจไทย พยายามสกัดดั้นการถวายฎีกา เนื่องจากเกิดความหวั่นไหวอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม เรื่องการถวายฎีกา ประชาชนเป็นผู้ดำเนินการ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ยุ่งเกี่ยว เพราะหากท่านหรือครอบครัวเข้าไปมีส่วนร่วมก็จะถูกมองว่าทำเพื่อตัวเอง
