รอยเตอร์/เอเอฟพี – องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุในเว็บไซต์ของตนวานนี้(5) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั่วโลก ได้ทะลุขึ้นหลักพันมาอยู่ที่ 1,154 คน แล้ว โดยกระจายไป 168 ประเทศ นอกจากนั้นโฆษกขององค์การยังได้ยืนยันการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ว่า จะมีประชากรราวหนึ่งในสามของโลก หรือเท่ากับประมาณ 2,000 ล้านคน ติดเชื้อไวรัสร้ายนี้ ก่อนที่การแพร่ระบาดจะยุติลง
จำนวนผู้เสียชีวิต 1,154 คนตามข้อมูลล่าสุดในเว็บไซต์ของ WHO นี้ สูงกว่าที่ทางองค์การรายงานเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว ( 27 ก.ค.) ซึ่งมีจำนวน 816 คน
นอกจากนั้น เว็บไซต์ของ WHO บอกว่า จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม มีประเทศใหม่ๆ ที่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่และได้รับการยืนยันจากห้องปฏิบัติการแล้วอีก 9 ประเทศ ได้แก่ อาเซอร์ไบจาน, กาบอง, เกรเนดา, คาซัคสถาน, มอลโดวา, โมนาโก, นาอูรู, สวาซิแลนด์, และ ซูรินาเม
ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื่อในทั่วโลกที่ได้รับการยืนยันผลจากห้องปฏิบัติการแล้วมาถึงขีด 162,380 ราย ทว่าตัวเลขนี้น่าจะต่ำกว่าความเป็นจริงเอามากๆ ในเมื่อ WHO ได้แนะนำให้ประเทศต่างๆ เลิกทดสอบหรือรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อแต่ละรายแล้ว ภายหลังการแพร่ระบาดเป็นไปอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว จึงควรนำทรัพยากรทางการแพทย์ไปใช้ในการป้องกันและบำบัดรักษามากกว่า
จากจำนวนผู้เสียชีวิต 1,154 รายนี้ ส่วนใหญ่ คือ 1,008 รายอยู่ในภูมิภาคอเมริกาทั้งเหนือและใต้ ซึ่งรวมทั้งจุดแพร่ระบาดหลักคือเม็กซิโกและสหรัฐฯ ส่วนผู้เสียชีวิตในเขตรับผิดชอบของสำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ WHO มี 65 ราย ในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก 39 ราย และในยุโรป 41 ราย
แต่หากเปรียบเทียบกันแล้ว ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลยังมีความรุนแรงกว่ามาก โดยแต่ละปีเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกราว 250,000-500,000 ราย และมีกรณีที่อาการป่วยรุนแรงราว 3-5 ล้านราย
ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร(4) อาภาลักษณ์ ปาติยเสวี โฆษกหญิงของ WHO ระบุในคำแถลงว่า “เมื่อถึงตอนที่การแพร่ระบาดไปทั่วโลกนี้ยุติลงนั้น ทุกหนทุกแห่งจะมีประชากรระหว่าง 15-45 เปอร์เซ็นต์ ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ “ เธอยังกล่าวต่อไปว่า หากคิดที่จุดกึ่งกลางของ 15-45 เปอร์เซ็นต์ ก็จะได้ตัวเลข 30 เปอร์เซ็นต์ และ 30 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลกในเวลานี้ ก็คือจำนวน 2,000 ล้านคน
เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ถูกตรวจพบครั้งแรกในเดือนเมษายน และตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการระบาด ดร. เคอิจิ ฟูกูดะ รักษาการผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO เคยคาดการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกว่าจะอยู่ที่ราว 2,000 ล้านคน ทำให้มีเสียงติงว่า WHO กำลังสร้างความตื่นตระหนกเกี่ยวกับไวรัสไข้หวัดใหญ่นี้
แต่หลังจากที่ WHO ยกระดับการประกาศเตือนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดถึงระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ก็พบว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้แพร่ระบาดรวดเร็วกว่าไข้หวัดใหญ่ในอดีตมาก ในขณะเดียวกัน เนื่องจากผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีอาการเพียงเล็กน้อย WHO จึงไม่ได้ให้ประเทศต่างๆ รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นรายๆ ไป แต่ให้เฝ้าติดตามจุดที่สงสัยว่ามีการแพร่ระบาดกันมากเป็นพิเศษ และติดตามข้อมูลผู้เสียชีวิตแทน
ก่อนหน้านี้ อาภาลักษณ์ได้ระบุระหว่างการแถลงสรุปว่า WHO กำลังประสานงานกับเครือข่ายสถาบันอิสระที่กำลังจัดทำคาดหมายจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสทั้งหมด เพราะเวลานี้ยังไม่มีผู้ใดสามารถประมาณการตัวเลขดังกล่าวได้อย่างน่าเชื่อถือ ซึ่งก็ทำให้เป็นไปไม่ได้ด้วยเช่นกันที่จะระบุอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อไวรัสนี้
จำนวนผู้เสียชีวิต 1,154 คนตามข้อมูลล่าสุดในเว็บไซต์ของ WHO นี้ สูงกว่าที่ทางองค์การรายงานเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว ( 27 ก.ค.) ซึ่งมีจำนวน 816 คน
นอกจากนั้น เว็บไซต์ของ WHO บอกว่า จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม มีประเทศใหม่ๆ ที่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่และได้รับการยืนยันจากห้องปฏิบัติการแล้วอีก 9 ประเทศ ได้แก่ อาเซอร์ไบจาน, กาบอง, เกรเนดา, คาซัคสถาน, มอลโดวา, โมนาโก, นาอูรู, สวาซิแลนด์, และ ซูรินาเม
ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื่อในทั่วโลกที่ได้รับการยืนยันผลจากห้องปฏิบัติการแล้วมาถึงขีด 162,380 ราย ทว่าตัวเลขนี้น่าจะต่ำกว่าความเป็นจริงเอามากๆ ในเมื่อ WHO ได้แนะนำให้ประเทศต่างๆ เลิกทดสอบหรือรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อแต่ละรายแล้ว ภายหลังการแพร่ระบาดเป็นไปอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว จึงควรนำทรัพยากรทางการแพทย์ไปใช้ในการป้องกันและบำบัดรักษามากกว่า
จากจำนวนผู้เสียชีวิต 1,154 รายนี้ ส่วนใหญ่ คือ 1,008 รายอยู่ในภูมิภาคอเมริกาทั้งเหนือและใต้ ซึ่งรวมทั้งจุดแพร่ระบาดหลักคือเม็กซิโกและสหรัฐฯ ส่วนผู้เสียชีวิตในเขตรับผิดชอบของสำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ WHO มี 65 ราย ในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก 39 ราย และในยุโรป 41 ราย
แต่หากเปรียบเทียบกันแล้ว ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลยังมีความรุนแรงกว่ามาก โดยแต่ละปีเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกราว 250,000-500,000 ราย และมีกรณีที่อาการป่วยรุนแรงราว 3-5 ล้านราย
ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร(4) อาภาลักษณ์ ปาติยเสวี โฆษกหญิงของ WHO ระบุในคำแถลงว่า “เมื่อถึงตอนที่การแพร่ระบาดไปทั่วโลกนี้ยุติลงนั้น ทุกหนทุกแห่งจะมีประชากรระหว่าง 15-45 เปอร์เซ็นต์ ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ “ เธอยังกล่าวต่อไปว่า หากคิดที่จุดกึ่งกลางของ 15-45 เปอร์เซ็นต์ ก็จะได้ตัวเลข 30 เปอร์เซ็นต์ และ 30 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลกในเวลานี้ ก็คือจำนวน 2,000 ล้านคน
เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ถูกตรวจพบครั้งแรกในเดือนเมษายน และตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการระบาด ดร. เคอิจิ ฟูกูดะ รักษาการผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO เคยคาดการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกว่าจะอยู่ที่ราว 2,000 ล้านคน ทำให้มีเสียงติงว่า WHO กำลังสร้างความตื่นตระหนกเกี่ยวกับไวรัสไข้หวัดใหญ่นี้
แต่หลังจากที่ WHO ยกระดับการประกาศเตือนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดถึงระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ก็พบว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้แพร่ระบาดรวดเร็วกว่าไข้หวัดใหญ่ในอดีตมาก ในขณะเดียวกัน เนื่องจากผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีอาการเพียงเล็กน้อย WHO จึงไม่ได้ให้ประเทศต่างๆ รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นรายๆ ไป แต่ให้เฝ้าติดตามจุดที่สงสัยว่ามีการแพร่ระบาดกันมากเป็นพิเศษ และติดตามข้อมูลผู้เสียชีวิตแทน
ก่อนหน้านี้ อาภาลักษณ์ได้ระบุระหว่างการแถลงสรุปว่า WHO กำลังประสานงานกับเครือข่ายสถาบันอิสระที่กำลังจัดทำคาดหมายจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสทั้งหมด เพราะเวลานี้ยังไม่มีผู้ใดสามารถประมาณการตัวเลขดังกล่าวได้อย่างน่าเชื่อถือ ซึ่งก็ทำให้เป็นไปไม่ได้ด้วยเช่นกันที่จะระบุอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อไวรัสนี้