ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วานนี้ ( 4 ส.ค.) นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ในฐานะอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เข้าให้ถ้อยคำ ต่อคณะกรรมการไต่สวน กรณีเงินบริจาคและเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง 258 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ โดยใช้เวลาชี้แจงเกือบ 2 ชั่วโมง ภายหลังการชี้แจงนายประดิษฐ์พยายามปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ถึงการเข้าชี้แจงดังกล่าว โดยระบุว่า ได้เคยอภิปรายชี้แจงไปในสภา รวมทั้งได้ชี้แจงกับคณะกรรมการไต่สวนฯแล้ว คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่าคำชี้แจงของนายประจวบ สังข์ขาว ผู้บริหารบริษัท เมซไซอะ บิชิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด ที่ปรากฎทางสื่อเป็นการให้การเท็จหรือไม่ นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ส่วนตนได้อภิปรายไปเช่นไรข้อเท็จจริงก็เป็นเช่นนั้น และได้ให้การกับ คณะกรรมการไต่สวน กกต.ไปหมดแล้ว และกรณีดังกล่าวจะเป็นสาเหตุให้พรรคประชาธิปัตย์ถูกยุบพรรคหรือไม่ ก็ไม่อาจทราบได้
ด้านนายอิศระ หลิมศิริวงษ์ ประธานคณะกรรมการไต่สวน กล่าวว่า ขณะนี้ทาง คณะกรรมการได้ดำเนินการสอบสวนไปแล้วประมาณ 90 % โดยในวันที่ 11 ส.ค.นี้ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ ในฐานะเหรัญญิกพรรคในขณะนั้น และผู้ดำเนินการอนุมัติโครงการดังกล่าว จะเดินทางเข้ามาให้ถ้อยคำกับคณะกรรมการไต่สวน
ส่วนนายธงชัย ดลศรีชัย ที่ถูกระบุว่า เป็นญาติกับนายประดิษฐ์นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้เข้ามาให้ถ้อยคำ แต่เบื้องต้นนายประดิษฐ์รับปากว่า จะพานายธงชัยเข้ามา ให้ถ้อยคำในเร็วๆ นี้ จึงคิดว่าการทำงานของคณะกรรมการไต่สวนไม่น่าที่จะต้องขอขยายเวลาออกไปอีก หากทั้ง 3 คนเข้ามาให้ถ้อยคำ
นายอิศระ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการไต่สวนน่าจะสรุปสำนวนเสนอให้กับกกต. ได้ไม่เกินวันที่ 19 ส.ค. ซึ่งจะเป็นการเสนอในประเด็นข้อเท็จจริง และขึ้นอยู่กับกกต.ว่า จะมีมติหรือดุลยพินิจเป็นอย่างไร หรือถ้าจะให้สอบเพิ่มในประเด็นอื่นเพิ่มเติม ก็พร้อมดำเนินการ
ต่อข้อถามว่า จากที่ได้สอบปากคำนายประจวบ และนายประดิษฐ์แล้ว กรณีนี้ เข้าข่ายเป็นนิติกรรมอำพรางหรือไม่ นายอิศระ กล่าวว่า คณะกรรมการฯยังสรุปไม่ได้ เพราะต้องรอให้สอบปากคำบุคคลต่างๆ ให้แล้วเสร็จก่อนจากนั้นก็ย้อนกลับไปดู ข้อเท็จจริงของเรื่องตั้งแต่สอบมารวมถึงสำนวนการสอบสวนของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า ทั้งหมดเป็นไปตามประเด็นคำร้องหรือไม่ แล้วจึงไปดูข้อกฎหมายต่อว่ามีการดำเนินการผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ แต่ขณะนี้ข้อเท็จจริงยังไม่ได้ข้อยุติ
ในส่วนของนายบัญญัติต้องเข้ามาให้ถ้อยคำในเรื่องของเงินบริจาค ที่ได้รับมาขณะนั้น การใช้จ่ายเงิน การอนุมัติโครงการในส่วนของการโฆษณาเป็นอย่างไร ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนปัจจุบัน เบื้องต้นคณะกรรมการเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องเชิญมาให้ถ้อยคำ เนื่องจากในขณะนั้นนายอภิสิทธิ์ดำรงตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องดำเนินการ ในด้านธุรกรรมเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า บริษัท เมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด เป็นบริษัทที่มีการ ก่อตั้งจริงหรือไม่ นายอิศระ กล่าวว่า จากการตรวจสอบบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่อยู่รูปของนิติบุคคล ในลักษณะบริษัทจำกัด
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจาก เลขานุการคณะกรรมการไต่สวนกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ขณะนี้เหลือการสอบสวนพยานอีก 5 ปาก และคาดว่า การสอบสวนจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่ขอขยายโดยคณะกรรมการไต่สวนจะมีการสรุปและเสนอรายงานผลการสอบสวนต่อประธานกกต.ได้ในวันที่ 18 ส.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าคำชี้แจงของนายประจวบ สังข์ขาว ผู้บริหารบริษัท เมซไซอะ บิชิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด ที่ปรากฎทางสื่อเป็นการให้การเท็จหรือไม่ นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ส่วนตนได้อภิปรายไปเช่นไรข้อเท็จจริงก็เป็นเช่นนั้น และได้ให้การกับ คณะกรรมการไต่สวน กกต.ไปหมดแล้ว และกรณีดังกล่าวจะเป็นสาเหตุให้พรรคประชาธิปัตย์ถูกยุบพรรคหรือไม่ ก็ไม่อาจทราบได้
ด้านนายอิศระ หลิมศิริวงษ์ ประธานคณะกรรมการไต่สวน กล่าวว่า ขณะนี้ทาง คณะกรรมการได้ดำเนินการสอบสวนไปแล้วประมาณ 90 % โดยในวันที่ 11 ส.ค.นี้ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ ในฐานะเหรัญญิกพรรคในขณะนั้น และผู้ดำเนินการอนุมัติโครงการดังกล่าว จะเดินทางเข้ามาให้ถ้อยคำกับคณะกรรมการไต่สวน
ส่วนนายธงชัย ดลศรีชัย ที่ถูกระบุว่า เป็นญาติกับนายประดิษฐ์นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้เข้ามาให้ถ้อยคำ แต่เบื้องต้นนายประดิษฐ์รับปากว่า จะพานายธงชัยเข้ามา ให้ถ้อยคำในเร็วๆ นี้ จึงคิดว่าการทำงานของคณะกรรมการไต่สวนไม่น่าที่จะต้องขอขยายเวลาออกไปอีก หากทั้ง 3 คนเข้ามาให้ถ้อยคำ
นายอิศระ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการไต่สวนน่าจะสรุปสำนวนเสนอให้กับกกต. ได้ไม่เกินวันที่ 19 ส.ค. ซึ่งจะเป็นการเสนอในประเด็นข้อเท็จจริง และขึ้นอยู่กับกกต.ว่า จะมีมติหรือดุลยพินิจเป็นอย่างไร หรือถ้าจะให้สอบเพิ่มในประเด็นอื่นเพิ่มเติม ก็พร้อมดำเนินการ
ต่อข้อถามว่า จากที่ได้สอบปากคำนายประจวบ และนายประดิษฐ์แล้ว กรณีนี้ เข้าข่ายเป็นนิติกรรมอำพรางหรือไม่ นายอิศระ กล่าวว่า คณะกรรมการฯยังสรุปไม่ได้ เพราะต้องรอให้สอบปากคำบุคคลต่างๆ ให้แล้วเสร็จก่อนจากนั้นก็ย้อนกลับไปดู ข้อเท็จจริงของเรื่องตั้งแต่สอบมารวมถึงสำนวนการสอบสวนของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า ทั้งหมดเป็นไปตามประเด็นคำร้องหรือไม่ แล้วจึงไปดูข้อกฎหมายต่อว่ามีการดำเนินการผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ แต่ขณะนี้ข้อเท็จจริงยังไม่ได้ข้อยุติ
ในส่วนของนายบัญญัติต้องเข้ามาให้ถ้อยคำในเรื่องของเงินบริจาค ที่ได้รับมาขณะนั้น การใช้จ่ายเงิน การอนุมัติโครงการในส่วนของการโฆษณาเป็นอย่างไร ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนปัจจุบัน เบื้องต้นคณะกรรมการเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องเชิญมาให้ถ้อยคำ เนื่องจากในขณะนั้นนายอภิสิทธิ์ดำรงตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องดำเนินการ ในด้านธุรกรรมเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า บริษัท เมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด เป็นบริษัทที่มีการ ก่อตั้งจริงหรือไม่ นายอิศระ กล่าวว่า จากการตรวจสอบบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่อยู่รูปของนิติบุคคล ในลักษณะบริษัทจำกัด
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจาก เลขานุการคณะกรรมการไต่สวนกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ขณะนี้เหลือการสอบสวนพยานอีก 5 ปาก และคาดว่า การสอบสวนจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่ขอขยายโดยคณะกรรมการไต่สวนจะมีการสรุปและเสนอรายงานผลการสอบสวนต่อประธานกกต.ได้ในวันที่ 18 ส.ค.นี้