นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลง ผลการประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์นัดแรก วานนี้ (4 ส.ค.) ก่อนเปิดประชุมสภาฯสมัยนิติบัญญัติ ว่า พรรคได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้พบว่า มีความเคลื่อนไหวของของพรรคเพื่อไทยและกลุ่มเสื้อแดงโดยใช้ 3 ยุทธศาสตร์ คือ 1.ยึดพื้นที่ข่าว 2.ทำลายความน่าเชื่อของรัฐบาล รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ และ3.พยายามทำลายสมาธิของรัฐบาลในการแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจ
นพ.วรงค์กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาเรื่องการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีการอ้างว่าล่ารายชื่อได้ 5-6 ล้านคนแล้วนั้นทางพรรคได้มีการเสนอหลักคิดที่จะสนับสนุนการคัดค้านการถวายฎีกาทุกรูปแบบ และจะมีการทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ว่าจะเป็นเรื่องการถอนรายชื่อ หรือการลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกา
อย่างไรก็ตามสมาชิกพรรคได้สอบถามในที่ประชุมว่าถ้ามีการกระทำเช่นนั้นจะไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้นหรือ ซึ่งพรรคเห็นว่าการดำเนินการใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมายก็ต้องดำเนินการและพรรคจะยึดหลักข้อกฎหมายเป็นหลัก เพราะขณะนี้กลุ่มดังกล่าวกระทำทุกอย่างโดยไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดๆ อีกแล้วและไม่สนเรื่องการ สมานฉันท์เพราะเขาไม่มีความจริงใจ และเขาก็พร้อมที่จะทำเรื่องร้อนแรงขึ้นมาอีก ถ้าเรื่องนี้จบไปแล้วเขาจะสร้างเรื่องใหม่ขึ้นมาอีก จึงอยากจะเตือนกลุ่มเสื้อแดงให้ระวังทุกอย่างจะแดงขึ้น
ผู้สื่อข่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ประเมินสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ ความรุนแรงในช่วงนี้จนถึงวันที่ 17 ส.ค.ซึ่งเป็นวันที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาหรือไม่ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่ได้มีการประเมินถึงตรงนั้น แต่ประเมินในภาพกว้างๆ ว่า จะมีการดำเนินการสร้างสถานการณ์ของเสื้อแดงเป็นระลอกๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน พรรคชาติไทยพัฒนา ได้เรียกประชุม ส.ส.ของพรรค โดยมี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค เป็นประธานการประชุม เพื่อพบปะกันก่อนเปิดประชุมสภาฯ และให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณฯ รายงานความคืบหน้า ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณให้ที่ประชุมได้รับทราบ
แหล่งข่าวจากพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ พล.ต.สนั่น ซึ่งถือว่าเป็นนักการเมืองที่คร่ำหวอดมานาน ได้วิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองให้ ส.ส.ของพรรคฟังว่า ต้องจับตาดูสถานการณ์การเมืองขณะนี้อย่างใกล้ชิด เพราะสถานการณ์เช่นนี้อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมาก
เสธ.บอกว่าให้ส.ส.ของพรรคทุกคนติดตามการเมืองช่วงนี้อย่าได้คลาดสายตา และให้ทุกคนลงพื้นที่อย่างหนักตลอดเวลา ใครที่ทำอยู่แล้วให้ทำต่อไป ใครที่เริ่มได้นิดหน่อยขอให้ทำให้มากขึ้นเพราะการเมืองช่วงนี้เข้มข้นมากและอาจเกิดความพลิกผันได้ตลอด มันเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ง่าย แหล่งข่าวถ่ายทอดการวิเคราะห์ของ พล.ต.สนั่นให้ฟัง
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า พล.ต.สนั่น ให้ทุกคนจับตาดู 2 ประเด็นต่อไปนี้ คือ 1.สถานการณ์ภายในพรรคร่วมรัฐบาล ที่อาจจะมีประเด็นความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมกันเอง เช่น ความขัดแย้งเรื่องตำรวจซึ่งเป็นความขัดแย้งระหว่างนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งหัวหน้าพรรคกับเลขาธิการพรรคก็คนละความเห็น และยังลามไปถึงกองทัพ ซึ่งเป็นผลมาจากคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยน และ2.เรื่องที่ฝ่ายค้านรวบรวมรายชื่อเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะอาจพัฒนาไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงได้ ฉะนั้นให้จับตา อย่าประมาท
วันเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาลจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ภายใต้ชื่อ 6 พรรครวมพลังสร้างสรรค์ประเทศไทย ที่ห้องแกรนบอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนลตัล โดยจัดเป็นโต๊ะจีน 35 โต๊ะ โดย ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาร่วมงานตั้งแต่เวลา 17.00 น. ขณะที่ภายในงานได้เตรียมรางวัล ส.ส.ปฏิบัติงานดีเด่น ขวัญใจวิปรัฐบาล กระบอกเสียงประชาชน และนักสู้ในสภาฯ ไว้ให้กับ ส.ส.ที่ได้รับคัดเลือก โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้มอบรางวัล
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า เชื่อว่าการจัดงานครั้งนี้จะมีส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาลมาร่วมงานมากกว่าที่ผ่านมา เพราะเป็นการรวมพลังของพรรคร่วมฯ ในการทำงานครบรอบ 6 เดือน โดยการจัดงานครั้งนี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์และสะท้อนให้เห็นความสามัคคีของพรรคร่วมรัฐบาล โดยโลโก้ในการจัดงานครั้งนี้เป็นรูปต้นไผ่พันเกรียวเป็นรูปเลข 6 ซึ่งแสดงความสัมพันธ์ของ 6 พรรคร่วมฯ ซึ่งไม้ไผ่ถือเป็นไม้มงคลและเมื่อนำมามัดรวมกันก็จะเกิดความแข็งแกร่ง ทั้งนี้ให้สังเกตว่าตรงกลางมีตัวเลข 276 ซึ่งหมายถึงเสียงสนับสนุนของรัฐบาลที่จะทำงานร่วมกันต่อไป
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขึ้นกล่าวบนเวที ตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมาการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง ตนก็เป็น ส.ส.มาหลายปีไม่มียุคไหน ที่มีการนับองค์ประชุมทุกครั้งเท่ากับยุคนี้ ทำให้พวกเราทุกคนทำงานหนักมาก และขอขอชมเชยว่าพวกเราทำงานกันอย่างเข้มแข็งซึ่งตนก็พยายามทำตัวเป็นตัวอย่างกับรัฐมนตรี เพื่อให้เข้าร่วมประชุมสภาฯทุกครั้ง ซึ่งการทำงานในสภาหลายคนก็มองว่า เสียงของรัฐบาลปริ่มน้ำ แต่ตนก็ดีใจที่พรรคร่วมรัฐบาลสามารถผลักดันกฎหมายผ่านสภาได้มากกว่ารัฐบาลชุดอื่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมาเราทำงานกันอย่างเข้มแข็ง ซึ่งขณะนี้ตนกำลังจะผลักดันกฎหมายสำคัญๆ ที่ต้องการให้เสร็จภายใน 1 ปี เช่น ร่างพ.ร.บ.กองทุนสวัสดิการไปยังพี่น้องประชาชน เป็นต้น
้รัฐบาลมีเสียงอยู่ 276 เสียง ตอนนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ลาออกจาก ส.ส.ก็เหลือแค่ 275 ผมก็อยากให้รัฐบาลมี 275 อย่างนี้ต่อไป เพราะ ส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์หลายคนที่โดนพิษหุ้นอยู่ ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไร
นพ.วรงค์กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาเรื่องการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีการอ้างว่าล่ารายชื่อได้ 5-6 ล้านคนแล้วนั้นทางพรรคได้มีการเสนอหลักคิดที่จะสนับสนุนการคัดค้านการถวายฎีกาทุกรูปแบบ และจะมีการทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ว่าจะเป็นเรื่องการถอนรายชื่อ หรือการลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกา
อย่างไรก็ตามสมาชิกพรรคได้สอบถามในที่ประชุมว่าถ้ามีการกระทำเช่นนั้นจะไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้นหรือ ซึ่งพรรคเห็นว่าการดำเนินการใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมายก็ต้องดำเนินการและพรรคจะยึดหลักข้อกฎหมายเป็นหลัก เพราะขณะนี้กลุ่มดังกล่าวกระทำทุกอย่างโดยไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดๆ อีกแล้วและไม่สนเรื่องการ สมานฉันท์เพราะเขาไม่มีความจริงใจ และเขาก็พร้อมที่จะทำเรื่องร้อนแรงขึ้นมาอีก ถ้าเรื่องนี้จบไปแล้วเขาจะสร้างเรื่องใหม่ขึ้นมาอีก จึงอยากจะเตือนกลุ่มเสื้อแดงให้ระวังทุกอย่างจะแดงขึ้น
ผู้สื่อข่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ประเมินสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ ความรุนแรงในช่วงนี้จนถึงวันที่ 17 ส.ค.ซึ่งเป็นวันที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาหรือไม่ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่ได้มีการประเมินถึงตรงนั้น แต่ประเมินในภาพกว้างๆ ว่า จะมีการดำเนินการสร้างสถานการณ์ของเสื้อแดงเป็นระลอกๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน พรรคชาติไทยพัฒนา ได้เรียกประชุม ส.ส.ของพรรค โดยมี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค เป็นประธานการประชุม เพื่อพบปะกันก่อนเปิดประชุมสภาฯ และให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณฯ รายงานความคืบหน้า ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณให้ที่ประชุมได้รับทราบ
แหล่งข่าวจากพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ พล.ต.สนั่น ซึ่งถือว่าเป็นนักการเมืองที่คร่ำหวอดมานาน ได้วิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองให้ ส.ส.ของพรรคฟังว่า ต้องจับตาดูสถานการณ์การเมืองขณะนี้อย่างใกล้ชิด เพราะสถานการณ์เช่นนี้อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมาก
เสธ.บอกว่าให้ส.ส.ของพรรคทุกคนติดตามการเมืองช่วงนี้อย่าได้คลาดสายตา และให้ทุกคนลงพื้นที่อย่างหนักตลอดเวลา ใครที่ทำอยู่แล้วให้ทำต่อไป ใครที่เริ่มได้นิดหน่อยขอให้ทำให้มากขึ้นเพราะการเมืองช่วงนี้เข้มข้นมากและอาจเกิดความพลิกผันได้ตลอด มันเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ง่าย แหล่งข่าวถ่ายทอดการวิเคราะห์ของ พล.ต.สนั่นให้ฟัง
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า พล.ต.สนั่น ให้ทุกคนจับตาดู 2 ประเด็นต่อไปนี้ คือ 1.สถานการณ์ภายในพรรคร่วมรัฐบาล ที่อาจจะมีประเด็นความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมกันเอง เช่น ความขัดแย้งเรื่องตำรวจซึ่งเป็นความขัดแย้งระหว่างนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งหัวหน้าพรรคกับเลขาธิการพรรคก็คนละความเห็น และยังลามไปถึงกองทัพ ซึ่งเป็นผลมาจากคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยน และ2.เรื่องที่ฝ่ายค้านรวบรวมรายชื่อเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะอาจพัฒนาไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงได้ ฉะนั้นให้จับตา อย่าประมาท
วันเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาลจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ภายใต้ชื่อ 6 พรรครวมพลังสร้างสรรค์ประเทศไทย ที่ห้องแกรนบอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนลตัล โดยจัดเป็นโต๊ะจีน 35 โต๊ะ โดย ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาร่วมงานตั้งแต่เวลา 17.00 น. ขณะที่ภายในงานได้เตรียมรางวัล ส.ส.ปฏิบัติงานดีเด่น ขวัญใจวิปรัฐบาล กระบอกเสียงประชาชน และนักสู้ในสภาฯ ไว้ให้กับ ส.ส.ที่ได้รับคัดเลือก โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้มอบรางวัล
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า เชื่อว่าการจัดงานครั้งนี้จะมีส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาลมาร่วมงานมากกว่าที่ผ่านมา เพราะเป็นการรวมพลังของพรรคร่วมฯ ในการทำงานครบรอบ 6 เดือน โดยการจัดงานครั้งนี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์และสะท้อนให้เห็นความสามัคคีของพรรคร่วมรัฐบาล โดยโลโก้ในการจัดงานครั้งนี้เป็นรูปต้นไผ่พันเกรียวเป็นรูปเลข 6 ซึ่งแสดงความสัมพันธ์ของ 6 พรรคร่วมฯ ซึ่งไม้ไผ่ถือเป็นไม้มงคลและเมื่อนำมามัดรวมกันก็จะเกิดความแข็งแกร่ง ทั้งนี้ให้สังเกตว่าตรงกลางมีตัวเลข 276 ซึ่งหมายถึงเสียงสนับสนุนของรัฐบาลที่จะทำงานร่วมกันต่อไป
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขึ้นกล่าวบนเวที ตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมาการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง ตนก็เป็น ส.ส.มาหลายปีไม่มียุคไหน ที่มีการนับองค์ประชุมทุกครั้งเท่ากับยุคนี้ ทำให้พวกเราทุกคนทำงานหนักมาก และขอขอชมเชยว่าพวกเราทำงานกันอย่างเข้มแข็งซึ่งตนก็พยายามทำตัวเป็นตัวอย่างกับรัฐมนตรี เพื่อให้เข้าร่วมประชุมสภาฯทุกครั้ง ซึ่งการทำงานในสภาหลายคนก็มองว่า เสียงของรัฐบาลปริ่มน้ำ แต่ตนก็ดีใจที่พรรคร่วมรัฐบาลสามารถผลักดันกฎหมายผ่านสภาได้มากกว่ารัฐบาลชุดอื่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมาเราทำงานกันอย่างเข้มแข็ง ซึ่งขณะนี้ตนกำลังจะผลักดันกฎหมายสำคัญๆ ที่ต้องการให้เสร็จภายใน 1 ปี เช่น ร่างพ.ร.บ.กองทุนสวัสดิการไปยังพี่น้องประชาชน เป็นต้น
้รัฐบาลมีเสียงอยู่ 276 เสียง ตอนนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ลาออกจาก ส.ส.ก็เหลือแค่ 275 ผมก็อยากให้รัฐบาลมี 275 อย่างนี้ต่อไป เพราะ ส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์หลายคนที่โดนพิษหุ้นอยู่ ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไร
