ผู้สื่อข่าวรายงาน ภารกิจของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางลงพื้นที่ จ.สงขลา เพื่อพบปะประชาชนและเยี่ยมชมองค์กรสวัสดิการชุมชน ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง โดยภารกิจแรกนายกรัฐมนตรีจะมอบใบรับรองการเป็นองค์การสวัสดิการชุมชน และองค์กรสาธารณะประโยชน์ ที่ จ.สงขลา พร้อมมอบนโยบายรัฐบาลในการสนับสนุนสวัสดิการชุมชน เป็นวาระแห่งชาติ ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการจัดสวัสดิการชุมชนในหลักการสมทบสามฝ่าย คือ องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และรัฐบาล โดยในปี 2553 รัฐบาลจะสมทบกองทุนสวัสดิการชุมชน ที่จัดตั้งแล้วกว่า 3,000 ตำบล และส่งเสริมให้มีการจัดสวัสดิการชุมชนในพื้นที่ใหม่อีก 2,000 ตำบล รวมงบประมาณ กว่า 727 ล้านบาท และจะสนับสนุนให้เกิดกองทุนสวัสดิการชุมชนครอบคลุมทั่วประเทศ ภายในปี 2553 ดังนั้นจึงถือโอกาสนี้ประกาศว่า รัฐบาลจะให้เรื่องสวัสดิการชุมชนเป็นวาระแห่งชาติ ในการสร้างหลักประกันความมั่นคงของชุมชนฐานรากฟื้นฟูทางสังคม เปิดโอกาสให้ทุกพื้นที่สามารถจัดตั้งและพัฒนาคุณภาพสวัสดิการชุมชนอย่างทั่วถึงต่อไป
จากนั้นรับฟังรายงานภาพรวมการส่งเสริมสวัสดิการชุมชนท้องถิ่น และเยี่ยมชมกิจกรรมพัฒนาในพื้นที่ที่ทำการกองทุนสวัสดิการชุมชน ต.เขาพระ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเปิดสำนักงานสหกรณ์การเกษตรหาดใหญ่แห่งใหม่ และเปิดงานมหกรรมเปิดโลกฮาลาล และวัฒนธรรมสัมพันธ์ พร้อมเยี่ยมชมมัสยิดประจำ จ.สงขลา
นายกฯ เป็นประธานเปิดงานมหกรรมเปิดโลกฮาลาล และวัฒนธรรมสัมพันธ์ ที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา โดยมีนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย นายพระนายสุวรรณรัฐ ผู้อำนายการศูนย์อำนวยการบริหารชายแดนใต้ ซึ่งคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลาร่วมกับจังหวัดสงขลา และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ จัดงานนี้ขึ้น เพื่อยกระดับและพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมมากขึ้น และช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงธุรกิจร่วมกันได้ ซึ่งต้องการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้เป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารฮาลาลเพื่อป้อนสู่ตลาดโลก ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในเวลา 20.00 น.
ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการจัดสวัสดิการชุมชนในหลักการสมทบสามฝ่าย คือ องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และรัฐบาล โดยในปี 2553 รัฐบาลจะสมทบกองทุนสวัสดิการชุมชน ที่จัดตั้งแล้วกว่า 3,000 ตำบล และส่งเสริมให้มีการจัดสวัสดิการชุมชนในพื้นที่ใหม่อีก 2,000 ตำบล รวมงบประมาณ กว่า 727 ล้านบาท และจะสนับสนุนให้เกิดกองทุนสวัสดิการชุมชนครอบคลุมทั่วประเทศ ภายในปี 2553 ดังนั้นจึงถือโอกาสนี้ประกาศว่า รัฐบาลจะให้เรื่องสวัสดิการชุมชนเป็นวาระแห่งชาติ ในการสร้างหลักประกันความมั่นคงของชุมชนฐานรากฟื้นฟูทางสังคม เปิดโอกาสให้ทุกพื้นที่สามารถจัดตั้งและพัฒนาคุณภาพสวัสดิการชุมชนอย่างทั่วถึงต่อไป
จากนั้นรับฟังรายงานภาพรวมการส่งเสริมสวัสดิการชุมชนท้องถิ่น และเยี่ยมชมกิจกรรมพัฒนาในพื้นที่ที่ทำการกองทุนสวัสดิการชุมชน ต.เขาพระ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเปิดสำนักงานสหกรณ์การเกษตรหาดใหญ่แห่งใหม่ และเปิดงานมหกรรมเปิดโลกฮาลาล และวัฒนธรรมสัมพันธ์ พร้อมเยี่ยมชมมัสยิดประจำ จ.สงขลา
นายกฯ เป็นประธานเปิดงานมหกรรมเปิดโลกฮาลาล และวัฒนธรรมสัมพันธ์ ที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา โดยมีนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย นายพระนายสุวรรณรัฐ ผู้อำนายการศูนย์อำนวยการบริหารชายแดนใต้ ซึ่งคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลาร่วมกับจังหวัดสงขลา และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ จัดงานนี้ขึ้น เพื่อยกระดับและพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมมากขึ้น และช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงธุรกิจร่วมกันได้ ซึ่งต้องการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้เป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารฮาลาลเพื่อป้อนสู่ตลาดโลก ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในเวลา 20.00 น.
