ยะลา - นักธุรกิจ และผู้นำศาสนา จ.ยะลาอยากได้ รัฐมนตรีร่วม รัฐบาลอภิสิทธิ์ 1 มากจากคนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ เพราะรู้ดีถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
วันนี้ (17 ธ.ค.) นายพจน์ ไพบูลย์เกษมสุทธิ ที่ปรึกษาหอการค้า และอดีตประธานหอการค้าจังหวัดยะลา กล่าวถึงการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล ชุดอภิสิทธิ์ 1 ว่า ตนเห็นว่าปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นปัญหาระดับชาติ ที่รัฐบาลต้องเร่งรัดการแก้ไขถือเป็นปัญหาเร่งด่วน ดังนั้น ถ้าได้คนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สัก 1 ท่าน เข้ามาเป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล เป็นการดี
อย่างน้อย จะเป็นผู้ที่รู้สภาพปัญหาที่เกิดขึ้น รู้วัฒนธรรม และเศรษฐกิจในพื้นที่เป็นอย่างดี จะทำให้การแก้ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้น สามารถที่จะช่วยได้มากขึ้น เพราะอย่าลืมว่าพื้นที่ 3 จังหวัดรวมกับจังหวัดสงขลา มีสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรมแตกต่างไปจากพื้นที่อื่นๆ มากพอสมควร เพราะฉะนั้นหากได้คนในพื้นที่มามีส่วนร่วม คิดว่าสามารถจะช่วยในเรื่องของการเข้าใจสภาพปัญหา และสามารถที่จะเข้าถึงผู้นำทางศาสนา ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญกับคนในพื้นที่ ดังนั้นการที่จะให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาน่าจะราบรื่นดีขึ้น
นายพจน์ ยังกล่าวถึงที่ปัญหาที่ควรจะต้องเร่งแก้ไขเป็นการด่วน ก็คือ ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะปัญหาราคายางพารา ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาราคาตกต่ำมาก ทำให้ในอนาคตคนในพื้นที่จะอยู่ด้วยยากลำบากมาก โดยเฉพาะเยาวชนในพื้นที่ มีโอกาสที่จะถูกชักจูงเข้าสู่ในสิ่งที่ไม่ดีได้ง่ายขึ้น
ดังนั้นปัญหาเศรษฐกิจในพื้นที่ถือว่าเป็นปัญหาอันดับหนึ่งที่รัฐบาลใหม่ต้องเร่งแก้ไข อันดับรองที่ต้องทำการแก้ไขคือด้านการศึกษา เพระที่ผ่านมาการศึกษาจะเป็นตัวการสำคัญที่จะให้คนในพื้นที่ประสบความยากลำบากในการเข้าถึงแหล่งงาน หรือแหล่งเงินทุนในการดำเนินชีวิต
นายพจน์ ยังกล่าวอีกว่า ตามที่โผออกมาในทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ นั้น ส่วนใหญ่เป็นที่ยอมรับของนักธุรกิจ แต่อย่างไรก็ดี ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มาจากปัญหาเศรษฐกิจที่กระทบเป็นวงกว้างในระดับโลก การจะแก้ไขบางอย่างต้องใช้ระยะเวลา ซึ่งตนเองไม่แน่ใจว่าจะแก้ไขมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะฝ่ายตรงกันข้ามกับรัฐบาลยังไม่เลิกการก่อกวนอยู่ ที่สำคัญที่สุดการแก้ไขปัญหาให้เกิดผลที่ดี ต้องมีการสมัครสมานสามัคคีของคนชาติเป็นอันดับแรก การเมืองต้องนิ่ง แต่โผที่ออกมาในทีมเศรษฐกิจนั้น เป็นที่คาดหวังของนักธุรกิจมาก a
ด้านนายนิมุ มะกาเจ อดีตประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า สถานการณ์ ม๊อบเสือเหลือ เสื้อแดงที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯที่ผ่านมา สร้างความสับสนต่อเด็กๆ โดยเฉพาะการใช้กฎหมู่ แตกต่างจากภาคใต้ เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้หญิง คนชรา จนท.รัฐ ถูกระเบิด ถูกทำร้าย จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ เหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งในกรุงเทพฯ และภาคใต้ ล้วนเป็นสถานการณ์จำลองให้เด็กรุ่นใหม่ นำไปใช้เป็นเยี่ยงอย่าง เป็นอันตรายต่อบ้านเมืองทั้งสิ้น
ดังนั้นการแก้ปัญหาภาคใต้ ต้องรู้เข้าใจต้นเหตุ และผู้เกี่ยวข้องกับต้นเหตุทุกระดับทุกเหตุการณ์ สมควรให้ สส.ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รับมอบอำนาจแก้ปัญหา หากสามารถเป็นระดับรัฐมนตรี ยิ่งเป็นการดี เพื่อคนในพื้นที่ร่วมมือแก้ปัญหา ยิ่งมีคนในพื้นที่ให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหายิ่งมากยิ่งดี และ เชื่อว่า สส.ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถทำได้
