นายธนชาติ แสงประดับ ธรรมโชติ ทนายความอิสระ และเป็นทีมกฎหมายของพรรคพรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบ การยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินอันเป็นเท็จของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย 156 คน อาทิ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ส.ส.ขอนแก่น ในการเข้ารับตำแหน่งการเป็นส.ส.
นายธนชาติ ระบุว่า ส.ส.ทั้ง 156 คน ไม่ได้แจ้งบัญชีการเป็นเจ้าหนี้ของ พรรคพลังประชาชน จากมูลหนี้ติดตั้งป้ายหาเสียงนโยบายของพรรค ในสมัย การเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 โดยระบุว่า พรรคพลังประชาชน เป็นหนี้ส.ส. คนละ1 แสนบาท
นายธนชาติ กล่าวว่า หากป.ป.ช. มีการชี้มูลว่า ส.ส.ทั้งหมด มีความผิดในการ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินหรือหนี้สิน หรือ จงใจยื่นด้วยความเป็นเท็จ หรือ ปกปิดความจริงที่ควรให้ทราบ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอ ต่อ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และหากศาลวินัยฉัยว่ากระทำความผิดให้พ้นจากตำแหน่งนับตั้งแต่วันที่ศาลวินิจฉัย และห้ามดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองหรือตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา263
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวหลังการประชุมคณะกรรมการติดตามการทำงาการเมืองของพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเป็นประะานว่า ที่ประชุมได้พูดคุยถึงกรณีที่นายธนชาติ แสงประดับธรรมโชติ ทีมกฎหมายพรรคภูมิใจไทย เข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ตรวจสอบ การยื่นแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จของส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวน 156 คน โดยพรรคเห็นว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษายุบพรรคพลังประชาชน กระบวนการทางกฏหมายหลังจากนั้นพรรคพลังประชาชนต้องยื่นชำระบัญชีงบดุล ต่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งจนถึงขณะนี้ผู้ทำบัญชีของพรรคพลังประชาชนก็ยังชี้แจงไม่แล้วเสร็จ ตัว ส.ส.เองก็อยู่ระหว่างส่งคำชี้แจงต่อ สตง.เช่นกัน แต่เมื่อเอกสารรั่วออกมาพรรคภูมิใจไทยก็รีบออกมาเปิดเผยโดยไม่ศึกษาข้อเท็จจริง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบไปยังส.ส.ที่ถูกร้องเรียน กล้ายืนยันได้ว่าไม่มีส.ส.คนใดเป็นเจ้าหนี้พรรคตามที่ถูกกล่าวหา และจำนวนส.ส.ของ พรรคเพื่อไทยที่ต้องชี้แจง สตง.คือ 141 คน ส่วน 15 คนที่เหลือน่าจะสังกัด พรรคภูมิใจไทยหลายคน จึงวิเคราะห์กันว่าเป้าหมายของพรรคภูมิใจไทย เพื่อต้องการดิสเครดิตพรรคเพื่อไทยโดยโยงกับช่วงเวลายื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตามพรรคไม่ปิดกั้นถ้าจะมีส.ส.รายใดฟ้องร้องกลับพรรคภูมิใจไทย หากเห็นว่าการกระทำดังกล่าวส่งผลให้ได้รับความเสียหาย
นายธนชาติ ระบุว่า ส.ส.ทั้ง 156 คน ไม่ได้แจ้งบัญชีการเป็นเจ้าหนี้ของ พรรคพลังประชาชน จากมูลหนี้ติดตั้งป้ายหาเสียงนโยบายของพรรค ในสมัย การเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 โดยระบุว่า พรรคพลังประชาชน เป็นหนี้ส.ส. คนละ1 แสนบาท
นายธนชาติ กล่าวว่า หากป.ป.ช. มีการชี้มูลว่า ส.ส.ทั้งหมด มีความผิดในการ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินหรือหนี้สิน หรือ จงใจยื่นด้วยความเป็นเท็จ หรือ ปกปิดความจริงที่ควรให้ทราบ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอ ต่อ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และหากศาลวินัยฉัยว่ากระทำความผิดให้พ้นจากตำแหน่งนับตั้งแต่วันที่ศาลวินิจฉัย และห้ามดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองหรือตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา263
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวหลังการประชุมคณะกรรมการติดตามการทำงาการเมืองของพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเป็นประะานว่า ที่ประชุมได้พูดคุยถึงกรณีที่นายธนชาติ แสงประดับธรรมโชติ ทีมกฎหมายพรรคภูมิใจไทย เข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ตรวจสอบ การยื่นแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จของส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวน 156 คน โดยพรรคเห็นว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษายุบพรรคพลังประชาชน กระบวนการทางกฏหมายหลังจากนั้นพรรคพลังประชาชนต้องยื่นชำระบัญชีงบดุล ต่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งจนถึงขณะนี้ผู้ทำบัญชีของพรรคพลังประชาชนก็ยังชี้แจงไม่แล้วเสร็จ ตัว ส.ส.เองก็อยู่ระหว่างส่งคำชี้แจงต่อ สตง.เช่นกัน แต่เมื่อเอกสารรั่วออกมาพรรคภูมิใจไทยก็รีบออกมาเปิดเผยโดยไม่ศึกษาข้อเท็จจริง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบไปยังส.ส.ที่ถูกร้องเรียน กล้ายืนยันได้ว่าไม่มีส.ส.คนใดเป็นเจ้าหนี้พรรคตามที่ถูกกล่าวหา และจำนวนส.ส.ของ พรรคเพื่อไทยที่ต้องชี้แจง สตง.คือ 141 คน ส่วน 15 คนที่เหลือน่าจะสังกัด พรรคภูมิใจไทยหลายคน จึงวิเคราะห์กันว่าเป้าหมายของพรรคภูมิใจไทย เพื่อต้องการดิสเครดิตพรรคเพื่อไทยโดยโยงกับช่วงเวลายื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตามพรรคไม่ปิดกั้นถ้าจะมีส.ส.รายใดฟ้องร้องกลับพรรคภูมิใจไทย หากเห็นว่าการกระทำดังกล่าวส่งผลให้ได้รับความเสียหาย
