ASTVผู้จัดการรายวัน – ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ 7 เดือนผ่านสมาคมแอตต้าวูบ 38% สูงสุดในรอบ 10 ปี ส่งผลไทยเสียรายได้กว่า 17 ล้านบาท นายกแอตต้าวอนการเมืองต้องนิ่ง ครึ่งปีหลังยังมีหวัง เตรียมหารือสมาคมโรงแรมไทย อัดโปรโมชั่นแรง ลดแจกแถม ดึงนักท่องเที่ยวโค้งสุดท้ายปีนี้ พร้อมเดินหน้า จี้นายกฯอภิสิทธิ์ ถามความชัดเจน วาระแห่งชาติ
นายสุรพล ศรีตระกูล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) เปิดเผยว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยผ่านสมาชิกของสมาคมแอตต้าช่วง 7 เดือนแรกปีนี้(1 ม.ค.-20 ก.ค.52) มีจำนวน รวม 867,267 คน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 38.28% ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 1,405,329 คน ส่งผลให้รายได้หายไปราว 17.5 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี สาเหตุหลักน่าจะมาจากผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ และการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009
“ยอดบุ๊คกิ๊ง ที่เริ่มมีเข้ามาแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการเริ่มมีความหวัง และคิดว่า ถึงสิ้นปี ภาพรวมนักท่องเที่ยวคงติดลบจากปีก่อนน้อยกว่าที่คิดไว้ แต่ยังไม่ถึงกลับพลิกเป็นบวกขึ้นได้แน่”
ทั้งนี้ตลาดจีน ช่วง 7 เดือนแรกปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 40.8% มีจำนวนที่ 113,727 คน จากที่ปีก่อนมียอดที่ 192,196 คน ตลาดอินเดีย 7 เดือนแรก 7 เดือนแรกเพิ่มขึ้น 1.4% มีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 76,871คน ส่วนปีก่อนอยู่ที่ 75,836 คน ซึ่งการที่รัฐบาลมีนโยบายฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า
มีผลช่วยให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากทั้งสองตลาดนี้เพิ่มขึ้นได้มาก
นายสุรพล กล่าวว่า มีแนวคิดจะหารือกับสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) ขอความร่วมมือให้โรงแรมที่เป็นสมาชิก จัดโปรโมชั่น ลดราคาห้องพัก หรือ แถมวันพัก เช่น พัก 2 คืน แถม อีก 1 คืน เป็นต้น เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจเดินทางเข้ามาพักประเทศไทย ในช่วง5เดือนสุดท้ายของปีนี้ มองว่าโปรโมชั่นรูปแบบนี้ จะช่วยในการแข่งขันกับตลาดต่างประเทศได้ด้วย และให้สมาชิกหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่นประเทศในกลุ่ม CIS จากรัสเซีย ประเทศ ลิธัวเนีย ลัตเวีย และ อิหร่าน เป็นต้น
ล่าสุด 8 สมาคมท่องเที่ยวในนาม สหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟสต้า) ได้ทำเรื่องเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อทวงถามประเด็นสำคัญเรื่อง “การท่องเที่ยว วาระแห่งชาติ” ว่ามีความคืบหน้า และชัดเจนเพียงใดแล้ว เพราะขณะนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวอยู่ในภาวะวิกฤตที่ต้องการการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน นอกจากนั้น จะหารือเรื่องมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวในกลุ่มที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจ
///////////////////
นายสุรพล ศรีตระกูล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) เปิดเผยว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยผ่านสมาชิกของสมาคมแอตต้าช่วง 7 เดือนแรกปีนี้(1 ม.ค.-20 ก.ค.52) มีจำนวน รวม 867,267 คน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 38.28% ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 1,405,329 คน ส่งผลให้รายได้หายไปราว 17.5 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี สาเหตุหลักน่าจะมาจากผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ และการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009
“ยอดบุ๊คกิ๊ง ที่เริ่มมีเข้ามาแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการเริ่มมีความหวัง และคิดว่า ถึงสิ้นปี ภาพรวมนักท่องเที่ยวคงติดลบจากปีก่อนน้อยกว่าที่คิดไว้ แต่ยังไม่ถึงกลับพลิกเป็นบวกขึ้นได้แน่”
ทั้งนี้ตลาดจีน ช่วง 7 เดือนแรกปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 40.8% มีจำนวนที่ 113,727 คน จากที่ปีก่อนมียอดที่ 192,196 คน ตลาดอินเดีย 7 เดือนแรก 7 เดือนแรกเพิ่มขึ้น 1.4% มีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 76,871คน ส่วนปีก่อนอยู่ที่ 75,836 คน ซึ่งการที่รัฐบาลมีนโยบายฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า
มีผลช่วยให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากทั้งสองตลาดนี้เพิ่มขึ้นได้มาก
นายสุรพล กล่าวว่า มีแนวคิดจะหารือกับสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) ขอความร่วมมือให้โรงแรมที่เป็นสมาชิก จัดโปรโมชั่น ลดราคาห้องพัก หรือ แถมวันพัก เช่น พัก 2 คืน แถม อีก 1 คืน เป็นต้น เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจเดินทางเข้ามาพักประเทศไทย ในช่วง5เดือนสุดท้ายของปีนี้ มองว่าโปรโมชั่นรูปแบบนี้ จะช่วยในการแข่งขันกับตลาดต่างประเทศได้ด้วย และให้สมาชิกหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่นประเทศในกลุ่ม CIS จากรัสเซีย ประเทศ ลิธัวเนีย ลัตเวีย และ อิหร่าน เป็นต้น
ล่าสุด 8 สมาคมท่องเที่ยวในนาม สหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟสต้า) ได้ทำเรื่องเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อทวงถามประเด็นสำคัญเรื่อง “การท่องเที่ยว วาระแห่งชาติ” ว่ามีความคืบหน้า และชัดเจนเพียงใดแล้ว เพราะขณะนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวอยู่ในภาวะวิกฤตที่ต้องการการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน นอกจากนั้น จะหารือเรื่องมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวในกลุ่มที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจ
///////////////////