ส.โรงแรมไทย อุ้มนักท่องเที่ยวต่างชาติ เตรียมทำหนังสือถึง “ชุมพล” บรรจุในวาระแห่งชาติ ให้ไฟเขียวผู้ประกอบการโรงแรมจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ทุกเทศกาลและตลอดเวลา อ้างเป็นวิธีหนึ่งที่จะฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ ระบุ ท่องเที่ยวครึ่งปีหลังจะฟื้นหรือไม่ การเมืองเป็นตัวแปรสำคัญ ถ้ามีความวุ่นวายอีก สิ้นปีธุรกิจโรงแรมติดลบ 30%
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า สมาคมอยู่ระหว่างการทำหนังสือ เสนอต่อ นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อขอให้มีการบรรจุแนวทางการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติในโรงแรมให้อยู่ในรายละเอียดของการจัดทำยุทธศาสตร์ท่องเที่ยว เพื่อเป็นวาระแห่งชาติด้วย
โดยในรายละเอียดของหนังสือนั้นจะยื่นข้อเสนอให้มีการผ่อนปรนการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในโรงแรมให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติได้ตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่ช่วงเทศกาลต่างๆที่แต่เดิมมีการห้ามจำหน่าย
ทั้งนี้ สมาคมมองว่า หากรัฐบาลให้การผ่อนปรนดังกล่าว จะเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยขับเคลื่อนไปได้ดี ในภาวะที่ถูกปัจจัยลบเข้ามารุมเร้าใหอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้องชะลอตัวอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้ในระยะยาว
นายประกิจ กล่าวว่า ชาวต่างชาติเขามองว่า เรื่องการท่องเที่ยวพักผ่อน กับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะระหว่างมื้ออาหาร เป็นเรื่องปกติในสังคม และเมื่อเขามาพักผ่อน ก็ต้องมีการสังสรรค์ร่วมอยู่ด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากยุโรป และอเมริกา ซึ่งเขาจะไม่เข้าใจในวิถีชาวพุทธศาสนามากนัก
ดังนั้น หากรัฐบาลออกกฎหมายห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสำคัญ หรือในวันปกติก็จำกัดเวลาการจำหน่ายนั้น จะทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทำให้เสียอารมณ์การพักผ่อนท่องเที่ยว และยังต้องเสียเวลาที่จะทำความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยวด้วย
“การที่จะนำประเด็นนี้มาถกเพื่อขออนุญาตเป็นครั้งคราวเฉพาะเทศกาล เป็นเรื่องยุ่งยาก ดังนั้นควรออกเป็นวาระแห่งชาติ รับรู้ตรงกันตลอดไปเลยจะสะดวกกว่า เพราะตอนนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยอยู่ในสถานะที่ย่ำแย่มากอยู่แล้ว จากปัญหาการเมือง วิกฤตเศรษฐกิจ และการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะผ่อนปรนกฎเกณฑ์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว หากเห็นว่า ท่องเที่ยวคือปัจจัยหลักที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยได้ ซึ่งหากรัฐมองข้ามประเด็นนี้ไป เชื่อว่า จะทำให้ท่องเที่ยวไทยเสียโอกาสในการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติและสูญเสียรายได้”
สำหรับอัตราเข้าพักโรงแรมทั่วประเทศ เฉพาะเดือน มิ.ย.52 มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยที่ 47% ลดลง 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่อัตราเข้าพักเฉลี่ยจะอยู่ราว 66% ส่วนภาพรวม 6 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.52) โรงแรมทั่วประเทศมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 50% ลดลง 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยประมาณ 70%
โดยสมาคมคาดหวังว่า ช่วงครึ่งปีหลังนี้สถานการณ์ท่องเที่ยวของไทยจะฟื้นตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เพราะเห็นสัญญาณจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว ดัชนีหุ้นเริ่มปรับตัวสูงขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ที่ว่าสถานการณ์การเมืองภายในประเทศในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะเป็นเช่นใดด้วย หากการเมืองนิ่ง จะทำให้ธุรกิจโรงแรมปีนี้ติดลบที่ 15-20% แต่หากมีความวุ่นวายเกิดขึ้นอีกตัวเลขการติดลบของธุรกิจจะตกไปมากกว่านี้ หรือติดลบราว 25-30% เมื่อเทียบกับปีก่อน
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า สมาคมอยู่ระหว่างการทำหนังสือ เสนอต่อ นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อขอให้มีการบรรจุแนวทางการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติในโรงแรมให้อยู่ในรายละเอียดของการจัดทำยุทธศาสตร์ท่องเที่ยว เพื่อเป็นวาระแห่งชาติด้วย
โดยในรายละเอียดของหนังสือนั้นจะยื่นข้อเสนอให้มีการผ่อนปรนการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในโรงแรมให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติได้ตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่ช่วงเทศกาลต่างๆที่แต่เดิมมีการห้ามจำหน่าย
ทั้งนี้ สมาคมมองว่า หากรัฐบาลให้การผ่อนปรนดังกล่าว จะเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยขับเคลื่อนไปได้ดี ในภาวะที่ถูกปัจจัยลบเข้ามารุมเร้าใหอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้องชะลอตัวอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้ในระยะยาว
นายประกิจ กล่าวว่า ชาวต่างชาติเขามองว่า เรื่องการท่องเที่ยวพักผ่อน กับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะระหว่างมื้ออาหาร เป็นเรื่องปกติในสังคม และเมื่อเขามาพักผ่อน ก็ต้องมีการสังสรรค์ร่วมอยู่ด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากยุโรป และอเมริกา ซึ่งเขาจะไม่เข้าใจในวิถีชาวพุทธศาสนามากนัก
ดังนั้น หากรัฐบาลออกกฎหมายห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสำคัญ หรือในวันปกติก็จำกัดเวลาการจำหน่ายนั้น จะทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทำให้เสียอารมณ์การพักผ่อนท่องเที่ยว และยังต้องเสียเวลาที่จะทำความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยวด้วย
“การที่จะนำประเด็นนี้มาถกเพื่อขออนุญาตเป็นครั้งคราวเฉพาะเทศกาล เป็นเรื่องยุ่งยาก ดังนั้นควรออกเป็นวาระแห่งชาติ รับรู้ตรงกันตลอดไปเลยจะสะดวกกว่า เพราะตอนนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยอยู่ในสถานะที่ย่ำแย่มากอยู่แล้ว จากปัญหาการเมือง วิกฤตเศรษฐกิจ และการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะผ่อนปรนกฎเกณฑ์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว หากเห็นว่า ท่องเที่ยวคือปัจจัยหลักที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยได้ ซึ่งหากรัฐมองข้ามประเด็นนี้ไป เชื่อว่า จะทำให้ท่องเที่ยวไทยเสียโอกาสในการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติและสูญเสียรายได้”
สำหรับอัตราเข้าพักโรงแรมทั่วประเทศ เฉพาะเดือน มิ.ย.52 มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยที่ 47% ลดลง 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่อัตราเข้าพักเฉลี่ยจะอยู่ราว 66% ส่วนภาพรวม 6 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.52) โรงแรมทั่วประเทศมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 50% ลดลง 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยประมาณ 70%
โดยสมาคมคาดหวังว่า ช่วงครึ่งปีหลังนี้สถานการณ์ท่องเที่ยวของไทยจะฟื้นตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เพราะเห็นสัญญาณจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว ดัชนีหุ้นเริ่มปรับตัวสูงขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ที่ว่าสถานการณ์การเมืองภายในประเทศในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะเป็นเช่นใดด้วย หากการเมืองนิ่ง จะทำให้ธุรกิจโรงแรมปีนี้ติดลบที่ 15-20% แต่หากมีความวุ่นวายเกิดขึ้นอีกตัวเลขการติดลบของธุรกิจจะตกไปมากกว่านี้ หรือติดลบราว 25-30% เมื่อเทียบกับปีก่อน