xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.ท่องเที่ยวฯ แนะ รบ.ชะลองดขายเหล้าช่วงสงกรานต์ ชี้ศึกษาให้ดีก่อนใช้จริงปีหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กมธ.ท่องเที่ยว-ผู้อำนวยการสมาคมโรงแรม-สำนักควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล สัมมนาหาทางออก มาตรการห้ามขาย “แอลกอฮอล์” ช่วงสงกรานต์ เผยให้รัฐบาลชลอนโยบาย ศึกษาให้ถ่องแท้ก่อนใช้จริงปีหน้า ยันประกาศใช้ กระทบการท่องเที่ยวแน่ เสนอทางเลือกที่ 3 สำหรับธุรกิจโรงแรม

วันนี้ (23 มี.ค.) ที่รัฐสภา มีการสัมมนาเรื่อง “มาตรการในการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว” โดยคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหากฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว มีผู้เข้าร่วมสัมมนาคือ นายพรชัย สุนทรพันธุ์ ส.ว.สรรหา ประธาน กมธ.ศึกษาปัญหากฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว นางธันยรัศน์ อัจฉริยะฉาย ประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยว วุฒิสภา นายศักรินทร์ ช่อไสว ผู้อำนวยการสมาคมโรงแรมไทย นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา สำนักงานคณะกรรมาการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ รวมทั้งตัวแทนจากธุรกิจภาคต่างๆ เข้าร่วมประชุม เพื่อพิจารณาข้อเสนอของ นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข ทั้ง 2 มาตรการ คือ 1.การห้ามขายในช่วง 12-14 เม.ย.ตลอด 24 ชม. และ 2.ห้ามขายในช่วง 12-14 เม.ย. ยกเว้นให้กับโรงแรม ผับ บาร์ ร้านอาหาร ที่มีใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำหน่ายได้เฉพาะ 18.00-24.00 น.


นางธันยรัศน์กล่าวว่า ในเบื้องต้นทางคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวเห็นว่าในช่วงเศรษฐกิจเช่นนี้ รัฐบาลควรจะชะลอ นโยบายดังกล่าวออกไปก่อน โดยอาจจะให้เริ่มใช้มาตรการนี้ในปีหน้า อีกทั้งควรต้องทำการศึกษาให้ถ่องแท้ก่อนจะมีการประกาศใช้ เพราะเห็นว่าการประกาศห้ามจำหน่ายสุราในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะไม่ทำให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุลดลง เนื่องจากไม่ได้มีการจำกัดการดื่ม และอาจมีการกักตุนสินค้า รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวอาจจะได้รับผลกระทบตามไปด้วย เพราะฉะนั้น การประกาศดังกล่าวจึงเป็นการซ้ำเติมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการประกาศใช้ที่ไม่รอบคอบ

นางธันยรัศน์กล่าวต่อว่า ทางคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวจะมีการสรุปแนวทางการประชุมภายใน กมธ.ในวันนี้ และจะทำหนังสือถึงรัฐบาลเพื่อให้พิจารณาชลอนโยบายดังกล่าวออกไปก่อน ทั้งนี้ อยากให้รัฐบาลได้มีการประชุมร่วมกันเพื่อหาแนวทางการป้องกันไม่ให้ประทบต่อทุกภาคส่วน อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องให้รัฐบาลยกการท่องเที่ยวขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งตนคิดว่ารัฐบาลควรจะนำไปพิจารณา

ขณะที่ นพ.บัณฑิต กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วตนเห็นว่าควรจะมีแนวทางที่ 3 เพื่อให้ทางรัฐบาลทำการพิจารณา เพื่อลดปัญหาที่จะตามมาของทุกภาคส่วน เนื่องจากสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ คือ การเมาแล้วซื้อเพิ่ม จากผลสำรวจพบว่ากว่า 50% มีการดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มเกินกว่าที่ตั้งใจไว้ โดยอาจมีการไปซื้อเพิ่ม ซึ่งวัตถุประสงค์ของการประกาศใช้นโยบายนี้ ไม่ได้ห้ามดื่ม เป็นเพียงการห้ามจำหน่าย หากมีการประกาศใช้ก็จะไม่ได้ผล โดยรัฐบาลควรจะออกแบบนโยบายเพื่อลดอุบัติเหตุให้ได้มากกว่า ในส่วนทางเลือกที่ 2 ตนเห็นว่าควรแยกธุรกิจโรงแรมออกมา เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ

นายศักรินทร์กล่าวว่า เห็นว่าควรจะมีทางเลือกที่ 3 สำหรับธุรกิจโรงแรม เนื่องจากจะกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ ทั้งนี้ยังเป็นตัวกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนใจไปเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้านที่มีเทศกาลคล้ายคลึงกับประเทศไทยแทน พร้อมกันนี้ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่าการที่รัฐบาลเสนอนโยบายนี้ออกมา อาจมีความพยายามให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคกักตุนสินค้า โดยการซื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนมองว่าการขายสุราไม่ใช่เรื่องจำเป็น แต่จะเป็นมาตรฐานสากล อย่างไรก็ตาม อยากฝากให้รัฐบาลกลับไปพิจารณา เพราะการออกนโยบายเช่นนี้จะเป็นการทำร้ายในหลายภาคส่วน
กำลังโหลดความคิดเห็น