สธ.เตรียมข้อมูลให้ “สนั่น” ในฐานะประธานนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รับทราบผลดี-เสีย ของการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ด้านเครือข่ายต้านเหล้าเตรียมขอพบ “สนั่น” 23 มี.ค.นี้ แจงเปลี่ยนเงินซื้อเหล้ามาซื้อสินค้าเป็นเรื่องดี
นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวยืนยันว่า ไม่รู้สึกท้อในกรณี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อย่างไรก็ตาม ตนจะเร่งทำรายละเอียดข้อมูลดังกล่าวให้กับ พล.ต.สนั่น รับทราบ คาดว่า หนังสือดังกล่าวจะถึงในวันนี้ เชื่อว่า หากได้รับข้อมูลครบทุกด้านอาจจะทำให้เปลี่ยนใจได้ เพราะในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากการดื่มแอลกอฮอล์และขับขี่เป็นจำนวนมาก การห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเทศกาลสงกรานต์ มุ่งหวังสกัดนักดื่มหน้าใหม่ที่ริลองดื่มและขับ
นายมานิต กล่าวว่า การห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เพราะในการเสนอการห้ามจำหน่ายมี 2 แนวทาง คือ 1.ห้ามจำหน่าย 3 วัน คือวันที่ 12, 13 และ 14 เมษายน 2.ห้ามจำหน่าย 3 วัน วันที่ 12, 13 และ 14 เมษายน ยกเว้นเวลา 18.00-24.00 น. ยังอนุญาตให้ ผับ บาร์ โรงแรม สามารถจำหน่ายได้ตามปกติ อีกทั้งมีมินิบาร์ให้ห้องพัก ซึ่งเท่ากับเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการจำหน่ายสินค้าในโรงแรม
นายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า อยากถามรองนายกรัฐมนตรีนำข้อมูลอะไรมาตัดสินในเรื่องนี้ เนื่องจากข้อมูลทางวิชาการมีการยืนยันอย่างชัดเจนว่าในแต่ละปีมีการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เพราะการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และขับขี่ถึงปีละไม่ต่ำกว่า 500 ราย และในทุกๆ 20 นาที มีการเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ทุกๆ 2 นาที และผลการสำรวจความคิดเห็นในนักท่องเที่ยวก็ระบุชัดไม่ได้ตั้งใจมาเที่ยวไทยเพื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่จะมาดูวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 23 มีนาคมนี้ เครือข่ายองค์กรงดเหล้าเตรียมทำหนังสือและขอเข้าพบ พล.ต.สนั่น ที่พรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อทวงถามความคิดเห็นในเรื่องนี้ และยืนยันว่าทางกลุ่มเสนอความคิดตามข้อมูลปราศจากอคติ และไม่มีผลประโยชน์กับฝ่ายใด
“ห้ามขายเหล้าในช่วงเทศกาล เป็นการเปลี่ยนเงินจากซื้อเหล้ามาเป็นของ OTOP แทน หรือของฝากอื่นที่เป็นสินค้า เป็นการกระจายรายได้ไปยังผู้คนทุกพื้นที่ ดีกว่าได้ประโยชน์แค่คนกลุ่มเดียว และการที่คนไทยเองกลับมาบ้านกินเหล้าช่วงเทศกาล ก็จะได้นำเงินซื้อเหล้ามาซื้อของฝากให้พ่อแม่ ครอบครัว ถือเป็นการกตัญญู ไม่เห็นว่าจะไม่ดีตรงไหน” นายสงกรานต์ กล่าว