ASTVผู้จัดการรายวัน – ดีเซเว่น อัดงบ 50 ล้านบาท โดดสมรภูมิกาแฟพร้อมดื่มพรีเมียมมูลค่า 300 -400 ล้านบาท หลังพบเป็นตลาดที่มีศักยภาพโตพรวด 20-30% ชูกลยุทธ์ซูการ์ฟรี ดีไซน์บรรจุภัณฑ์ถ้วย เจาะกลุ่มวัยทำงานใส่ใจสุขภาพ หวังปีแรกกวาด 80 ล้านบาท คาดสิ้นปีรายได้รวม 300-400 ล้านบาท
นายพิชญ ส่งศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยแอทลาสโกลบอล ฟูด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟพร้อมดื่มดีเซเว่น เปิดเผยว่า นโยบายของบริษัทโฟกัสการดำเนินธุรกิจกาแฟ เน้นกลยุทธ์การตลาดมุ่งนำเสนอสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และสร้างความแตกต่างจากสินค้าที่อยู่ในตลาด โดยครึ่งปีหลังนี้วางแผนเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ 6 รายการขึ้นไป นำร่องแตกไลน์กาแฟพร้อมดื่มพรีเมียมภายใต้ยี่ห้อ”ดีเซเว่น”ลงตลาดหลังจากได้เปิดตัวกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยทุ่มงบ 20 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรมาใหม่ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา
สำหรับการรุกตลาดกาแฟพร้อมดื่มเซกเมนต์พรีเมียม เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และพฤติกรรมของผู้บริโภคมีความซับซ้อนมากขึ้น แม้ว่าขณะนี้ตลาดกาแฟพร้อมดื่มพรีเมียมมูลค่า 200-300 ล้านบาท แต่คาดว่าตลาดเติบโต 20-30% ในอนาคต เมื่อเทียบกับกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มมูลค่า 9,000 ล้านบาท สภาพตลาดเริ่มอิ่มตัว เติบโตไม่ถึง 5%
และกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใช้แรงงานกำลังซื้อลดลง พบว่าเดือนมีนาคม-เมษายน ตลาดติดลบ 10%
กาแฟพร้อมดื่มพรีเมียมดีเซเว่น เป็นกาแฟซูการ์ฟรี พาสเจอร์ไรซ์ เจาะกลุ่มวัยทำงานอายุ 30 ปีขึ้นไป ระดับกลางขึ้นไป และใส่ใจงสุขภาพ ขนาด 180 มล.ราคา 25 บาท มี 3รสชาติ ได้แก่ เอสเปรสโซ่ ลาเต้ มอคค่า โดยช่วงแรกแนะนำสินค้าจัดทำโปรโมชันลดเหลือ 22 บาท ขายผ่านทางวิลล่า มาร์เก็ต ฟู้ดส์แลนด์ ท็อปส์ และเซเว่น อีเลฟเว่นทำเลหัวเมือง และสถานที่ท่องเที่ยว 500-600 สาขา
“ความโดดเด่นของกาแฟพร้อมดื่มพรีเมียมดีเซเว่น คือ รสชาติ และบรรจุภัณฑ์ถ้วย ที่สอดรับกับเทรนด์ตลาดกาแฟในญี่ปุ่น ไต้หวัน ที่เปลี่ยนจากขวดเพ็ทมาเป็นบรรจุภัณฑ์ถ้วย ซึ่งปัจจุบันกาแฟพรีเมียมบรรจุภัณฑ์ถ้วยและยูเอชทีมีมูลค่า 200 ล้านบาท ส่วนบรรจุภัณฑ์ขวดเพ็ท 100 ล้านบาท” นายพิชญ กล่าว
บริษัททุ่มงบ 25-30 ล้านบาท ทำตลาด และบริษัทตั้งเป้ายอดขายปีแรก 80 ล้านบาท หวังเป็นผู้นำตลาดในอนาคต และยังส่งออกกาแฟพรีเมียมดีเซเว่น ไปยังประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ส่วนผลประกอบการปีนี้ ตั้งเป้า 300-400 ล้านบาท เติบโต 30% และตั้งเป้ากาแฟกระป๋องพร้อมดื่มดีเซเว่น มีส่วนแบ่ง 3-4% จากเดิมตั้งเป้า 5%
นายพิชญ ส่งศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยแอทลาสโกลบอล ฟูด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟพร้อมดื่มดีเซเว่น เปิดเผยว่า นโยบายของบริษัทโฟกัสการดำเนินธุรกิจกาแฟ เน้นกลยุทธ์การตลาดมุ่งนำเสนอสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และสร้างความแตกต่างจากสินค้าที่อยู่ในตลาด โดยครึ่งปีหลังนี้วางแผนเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ 6 รายการขึ้นไป นำร่องแตกไลน์กาแฟพร้อมดื่มพรีเมียมภายใต้ยี่ห้อ”ดีเซเว่น”ลงตลาดหลังจากได้เปิดตัวกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยทุ่มงบ 20 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรมาใหม่ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา
สำหรับการรุกตลาดกาแฟพร้อมดื่มเซกเมนต์พรีเมียม เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และพฤติกรรมของผู้บริโภคมีความซับซ้อนมากขึ้น แม้ว่าขณะนี้ตลาดกาแฟพร้อมดื่มพรีเมียมมูลค่า 200-300 ล้านบาท แต่คาดว่าตลาดเติบโต 20-30% ในอนาคต เมื่อเทียบกับกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มมูลค่า 9,000 ล้านบาท สภาพตลาดเริ่มอิ่มตัว เติบโตไม่ถึง 5%
และกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใช้แรงงานกำลังซื้อลดลง พบว่าเดือนมีนาคม-เมษายน ตลาดติดลบ 10%
กาแฟพร้อมดื่มพรีเมียมดีเซเว่น เป็นกาแฟซูการ์ฟรี พาสเจอร์ไรซ์ เจาะกลุ่มวัยทำงานอายุ 30 ปีขึ้นไป ระดับกลางขึ้นไป และใส่ใจงสุขภาพ ขนาด 180 มล.ราคา 25 บาท มี 3รสชาติ ได้แก่ เอสเปรสโซ่ ลาเต้ มอคค่า โดยช่วงแรกแนะนำสินค้าจัดทำโปรโมชันลดเหลือ 22 บาท ขายผ่านทางวิลล่า มาร์เก็ต ฟู้ดส์แลนด์ ท็อปส์ และเซเว่น อีเลฟเว่นทำเลหัวเมือง และสถานที่ท่องเที่ยว 500-600 สาขา
“ความโดดเด่นของกาแฟพร้อมดื่มพรีเมียมดีเซเว่น คือ รสชาติ และบรรจุภัณฑ์ถ้วย ที่สอดรับกับเทรนด์ตลาดกาแฟในญี่ปุ่น ไต้หวัน ที่เปลี่ยนจากขวดเพ็ทมาเป็นบรรจุภัณฑ์ถ้วย ซึ่งปัจจุบันกาแฟพรีเมียมบรรจุภัณฑ์ถ้วยและยูเอชทีมีมูลค่า 200 ล้านบาท ส่วนบรรจุภัณฑ์ขวดเพ็ท 100 ล้านบาท” นายพิชญ กล่าว
บริษัททุ่มงบ 25-30 ล้านบาท ทำตลาด และบริษัทตั้งเป้ายอดขายปีแรก 80 ล้านบาท หวังเป็นผู้นำตลาดในอนาคต และยังส่งออกกาแฟพรีเมียมดีเซเว่น ไปยังประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ส่วนผลประกอบการปีนี้ ตั้งเป้า 300-400 ล้านบาท เติบโต 30% และตั้งเป้ากาแฟกระป๋องพร้อมดื่มดีเซเว่น มีส่วนแบ่ง 3-4% จากเดิมตั้งเป้า 5%
