xs
xsm
sm
md
lg

ไล่ออก"จ่าปัญญา" ทบ.ปัดสวะคดีสนธิ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - กองทัพบกเพิ่งตื่นสั่งปลด"จ่าปัญญา" ผู้ต้องหาคดีลอบฆ่า สนธิ ลิ้มทองกุล พร้อมปัดพาหนี “มาร์ค”สร้างภาพชื่นมื่นนั่งรถคู่ "เทพเทือก"อ้างนั่งรถคุยคดี “สนธิ” ช่วงไปพัทยา หลังเข้าอวยพรวันเกิด “ชวน” ด้าน"พัชรวาท" ดอดพบนายกฯยันไม่หวั่นข่าวถูกปลด ขณะที่ นายกฯบอกสื่อไม่ให้สัมภาษณ์ คนใกล้ชิดเชื่อ มีแนวโน้มสูงส่อปลดผบ.ตร.

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด
โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาที่เป็นทหาร ในคดีลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล เพิ่มเติมว่า เท่าที่ตรวจสอบขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้มีการทำหนังสือขอตัวทหารคนใดเพิ่มเติม เพราะปกติการจะทำหนังสือขอตัวกำลังพลจากกองทัพ ต้องมีการออกหมายจับก่อน ซึ่งขณะนี้มีเพียงการขอตัว จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา นายทหารสังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษคนเดียวเท่านั้น

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า กรณีของ จ.ส.อ.ปัญญา ที่ยังคงหลบหนีการจับกุมของตำรวจ กองทัพพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนำตัว จ.ส.อ.ปัญญา มาดำเนินคดี และให้ความร่วมมือ หากตำรวจจะไปตรวจค้นในหน่วยทหารใด ทั้งนี้ กองทัพบกไม่ได้ให้สถานที่พักพิงหรือช่วยเหลือ จ.ส.อ.ปัญญา แต่อย่างใด รวมทั้ง ยังมีการสั่งการว่า หากกำลังพลคนใดพบเห็น จ.ส.อ.ปัญญา พักพิงอยู่ที่ใด ให้แจ้งผู้บังคับบัญชาทันที และหากใครให้สถานที่พักพิง จ.ส.อ.ปัญญา ถือว่ามีความผิด อย่างไรก็ตาม กองทัพคงไม่ถึงกับนำกำลังพลลงไปช่วยตำรวจในการตรวจค้นหาตัว จ.ส.อ.ปัญญา เพราะหน้าที่ดังกล่าวเป็นหน้าที่ของตำรวจ

โฆษกกองทัพบก กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้บัญชาการกองพลรบพิเศษที่ 1 ที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของ จ.ส.อ.ปัญญา ได้เซ็นคำสั่งปลด จ.ส.อ.ปัญญา เรียบร้อยแล้ว เพราะ จ.ส.อ.ปัญญา เป็นนายทหารชั้นประทวน จึงไม่ต้องให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้เซ็นปลด ซึ่งสาเหตุที่มีคำสั่งปลด จ.ส.อ.ปัญญา เนื่องจากเข้าข่ายผิดกฎหมายทหาร 2 ข้อ คือ 1. จ.ส.อ.ปัญญา ถูกส่งไปช่วยราชการที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 ซึ่งตามกฎหมายทหารห้ามไม่ให้กำลังพลที่ปฏิบัติราชการในพื้นที่ที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ลาราชการเกิน 3 วัน และ 2.กำลังพลที่หนีหมายจับ สามารถสั่งปลดได้ ซึ่งถือว่า จ.ส.อ.ปัญญา เข้าข่ายทั้ง 2 กรณี

**** "มารค์"ยื้อปลด"พัชรวาท"รายวัน
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(28 ก.ค.)ระหว่างที่คณะรัฐมนตรี มีการประชุม ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 12.30 น.ปรากฎว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงได้ออกจากห้องประชุมไปช่วงหนึ่ง โดยได้ให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมแทน จนกระทั่งในเวลา 13.00 น.ทั้งนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ได้เดินทางเข้าประชุมครม.อีกครั้งด้วยหน้าตาแจ่มใส เป็นช่วงเดียวกับที่มีข่าวว่า ป.ป.ช.จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 อีก 2 คน โดยหนึ่งในนั้นมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.รวมอยู่ด้วย

ทั้งนี้ในเวลาใกล้เคียงกัน ที่บ้านพิษณุโลก พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าคณะทำงานสอบสวนคดีนายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้เข้าพบนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ได้มีกระแสข่าวสะพัด นายกฯและนายสุเทพ ได้เดินทางไปสมทบที่บ้านพิษณุโลก แต่ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดนายกฯ ปฏิเสธว่า นายกฯและนายสุเทพไม่ได้เดินทางไปยังบ้านพิษณุโลกตามที่มีกระแสข่าว แต่เป็นหมายส่วนตัว

ขณะที่ในเวลา 16.50 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่ออวยพรวันคล้ายวันเกิดครบ 71 ปี ย่าง 72 ปี ของนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค พร้อมมอบกระเช้าดอกไม้ โดยนายกฯอวยพรให้นายชวน มีสุขภาพพลานมัยแข็งแรง เป็นกำลังหลักทำงานให้ประเทศ ช่วยประเทศชาติและประชาธิปัตย์เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมต่อไป

ด้านนายชวน กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจนายกฯในการปฏิบัติหน้าที่ ขอให้ประสบความสำเร็จ รู้ดีว่าเหนื่อยยากและจะเหนื่อยมากยิ่งขึ้น ขอให้สุขภาพแข็งแรงมีกำลังใจในการทำงาน ขณะที่นายสุเทพ อยู่ที่พรรคด้วย แต่ไม่ได้ร่วมการอวยพรพร้อมกับนายกฯ

ต่อมาเวลา 17.50 น.หลังจากการอวยพรนายชวนแล้ว นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยนายสุเทพ ได้เดินลงมาจากห้องทำงานที่พรรคประชาธิปัตย์พร้อมกัน ด้วยสีหน้าชื่นมื่น โดยนายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า “ผมต้องจับมือโชว์ให้เห็นไหม”ซึ่งทำให้นายสุเทพ หัวเราะ

อย่างไรก็ตามนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายสุเทพ ถึงคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล และตอนนี้ต้องรีบเดินทางไปพัทยา ขณะที่นายสุเทพ กล่าวว่า เดี๋ยวจะไปคุยกับนายกฯในรถประจำตำแหน่งของนายกฯระหว่างทางไปพัทยา ขณะที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้บอกว่าจะได้คำตอบหรือไม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้นนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ก็ขึ้นรถประจำตำแหน่งของนายกฯเพื่อเดินทางไปพัทยาด้วยกัน

**"พัชรวาท"พบนายกฯไม่สนลือปลด**
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่โรงแรมดุสิตธานี พัทยา จังหวัดชลบุรี ระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางเป็นประธานกล่าวต้อนรับในงานเลี้ยงอาหารค่ำ (Welcome Dinner) คณะนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนโลก ท่ามกลางกระแสข่าว ปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ว่า ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 200 คน เดินทางมาชุมนุมที่บริเวณหน้าโรงแรมดุสิตธานี โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ประมาณ 3,000 นาย ดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรอดักสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับกระแสข่าวปลด พล.ต.อ.พัชรวาท ผู้สื่อข่าวได้เห็น พล.ต.อ.พัชรวาท เดินทางมาที่โรงแรมดุสิตธานี แต่เมื่อผู้สื่อข่าวจะไปสัมภาษณ์ พล.ต.อ.พัชรวาท ได้รีบเข้าไปในห้องรับรอง และไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวเข้าไป

ต่อมาเวลา 20.40 น. พล.ต.อ.พัชรวาท ได้ปรากฎตัวมารอส่งนายกรัฐมนตรี เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปสัมภาษณ์ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่าไม่อยากให้สัมภาษณ์ ส่วนข่าวเรื่องปลด ก็เป็นเพียงกระแสข่าว ไม่ได้เป็นข้อเท็จจริง และตนก็ไม่ได้หวั่นไหวอะไร โดยตั้งแต่ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ก็มีข่าวถูกปลดหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นความจริง

ต่อข้อถามที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด กรณีสลายการชุมนุม 7 ตุลาคม 2551 พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ตนทราบแล้ว ส่วนในวันที่ 3 ส.ค.นี้ จะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่ ยังไม่ทราบ เพราะติดภารกิจ อย่างไรก็ตาม ต่อข้อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะอยู่จนถึงเกษียณอายุราชการ 30 ก.ย.นี้ ผบ.ตร.กล่าวว่า ตนไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนข่าวปลดก็เป็นเพียงข่าว ต่อข้อถามว่า ที่มาพบนายกรัฐมนตรี เพื่อดับกระแสข่าวปลดหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ที่เดินทางมาเนื่องจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้โทรสอบถามว่า สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง จึงได้เดินทางมาดูสถานการณ์ด้วยตนเอง

**นายกฯบอกสื่อไม่ให้สัมภาษณ์**
จากนั้นเวลา 21.05 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้เดินทางออกมาจากห้อง และเมื่อพบกับ พล.ต.อ.พัชรวาท นายกรัฐมนตรี สอบถามว่า มาด้วยหรือ สถานการณ์ใต้เป็นอย่างไรบ้าง ดีไหม และไม่ยอมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว พร้อมโบกมือว่า ไม่ให้สัมภาษณ์นะ ก่อนจะขึ้นรถเดินทางกลับ

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่สัมภาษณ์ พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นที่น่าสังเกตุว่า นายตำรวจติดตาม พยายามกันสื่อไม่ให้ถาม โดยพูดอยู่ตลอดเวลาว่า พอได้แล้ว พอได้แล้ว

**เผยส่อปลด"พัชรวาท"สูง**
รายงานข่าวจากคนใกล้ชิด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถึงกระเเสข่าวโยกย้าย พ.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ว่าขอให้รอดูคำพูดของนายกฯในวันที่ 29 ก.ค.นี้ว่า จะเอาอย่างไร

เมื่อถามว่า นายกฯนั่งรถไปพัทยาพร้อมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เรื่องนี้จะได้ข้อสรุปหรือไม่ แหล่งข่าวคนดังกล่าวระบุว่า รอดูก่อน

เมื่อถามว่า หากเเนวโน้มเป็นเช่นนี้เเสดงว่า โอกาสที่จะย้าย ผบ.ตร.มาช่วยราชการที่สำนักนายกฯมีสูง เเละมาจากเหตุผลใด แหล่งข่าวรายเดิม ระบุว่า มีเรื่องร้องเรียนมายังนายกฯหลายคดี เช่น คดีในจังหวัดชายเเดนภาคใต้ คดีการเมืองอื่น ๆ ว่า ความคืบหน้าไปถึงไหนบ้าง นายกฯก็เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบถามความคืบหน้า เเละน่าจะตัดสินใจได้ในช่วงสัปดาห์นี้

**ชี้ปลด ผบ.ตร.ไม่กระทบรัฐบาล**
อย่างไรก็ตาม ก่อนการหารือกับนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ว่าหากมีการปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.จริงจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล เราไม่ได้ทำงานเพื่อตัวบุคคล แต่ทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ควรจะไปยึดถือกับตัวบุคคล

“ผมไม่กล้าพูดว่าจะมีการปลดหรือไม่ปลดเพราะไม่คิดว่าจะมีอย่างนั้น ที่ผ่านมาก็มีแต่ข่าว นายกรัฐมนตรีไม่เคยพูดกับผมเลยว่าจะมีการปลดผบ.ตร.ดังนั้นผมจึงเชื่อว่าการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีไม่ว่าจะทำอะไร ต้องมีเหตุผล แต่สำหรับผมได้ทำรายงานเสนอนายกฯไปแล้วว่า ข้อมูลที่ผมรับทราบจากรายงานของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนไม่มีข้อมูลตรงไหนที่จะบ่งชี้หรือยืนยันได้ว่า ผบ.ตร.เป็นอุปสรรคในการทำคดี ส่วนนายกรัฐมนตรีอาจจะมีข้อเท็จจริงอย่างอื่นก็แล้วแต่ ซึ่งผมได้อาศัยข้อมูลของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร.พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.และ ของ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผบ.ตร.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำคดีนี้ตามลำดับ และจากรายงานทั้ง 4 สำนวน ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้เชื่อ หรือเห็นเป็นหลักฐานได้ว่า ผบ.ตร.เป็นอุปสรรคต่อการทำคดี และได้รายงานนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว ผมจะไปจินตนาการเองไม่ได้ ข่าวที่เกิดขึ้นทุกวันนี้อาจจะเป็นข่าวปล่อย เพราะมีข่าวปล่อยกันเยอะ การกล่าวหาคนในบ้านเมืองไปทั่ว บ้านเมืองก็ไม่สงบสุข”นายสุเทพ กล่าว

เมื่อถามว่า การปลดหรือไม่ปลด ผบ.ตร.จะยืนอยู่บนเงื่อนไขอะไร รองนายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่ามีเหตุผลอะไร มีข้อมูลหรือไม่ กฎหมายระบุไว้อย่างไร ก็ต้องพิจารณาตามนั้น

**ยอมรับการตัดสินใจของนายกฯ**
เมื่อถามว่า หากนายกรัฐมนตรีตัดสินใจปลด ผบ.ตร.จริงจะทำให้เกิดความขัดข้องหมองใจกันกับ นายสุเทพ หรือไม่ เพราะให้การสนับสนุน ผบ.ตร.อยู่กลาย ๆ นายสุเทพ กล่าวย้อนว่า ถามอย่างนี้แล้วตนจะตอบอย่างไร ถ้าคุณ (สื่อ) เป็นตนจะให้ตอบอย่างไร ช่วยแนะนำหน่อย เล่นถามดักกันอย่างนี้ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าทุกอย่างได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีหมดแล้ว นายกรัฐมนตรีจะเรียกหารือเมื่อไหร่ได้ทุกเมื่อ เพราะตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ส่วนจะได้ข้อสรุปหรือไม่ยังไม่ทราบ สุดแล้วแต่วิจารณญาณของนายกรัฐมนตรี ส่วนตัวยอมรับได้ทุกอย่าง เพราะตนเป็นลูกน้องนายกรัฐมนตรี ทัศนะของตนต่อเรื่องนี้เห็นว่าตำรวจก็ต้องทำหน้าที่ของตำรวจให้สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นคดีใครก็ตาม ไม่ใช่เฉพาะคดีนายสนธิ ตำรวจมีหน้าที่คลี่คลายคดีหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกระบวนการ ยุติธรรม แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครบอกเลยว่าเขาเจอตอ มีแต่สื่อมาบอก ตนคิดตามสื่ออยู่เรื่อยตนก็กลุ้ม

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเกิดการงัดข้อกันหรือไม่ นายสุเทพ หัวเราะก่อนกล่าวว่า “นายกรัฐมนตรีจะงัดข้อสู้ผมได้เหรอ เพราะผมตัวใหญ่กว่าตั้งเยอะ และที่ผมตอบแบบนี้ ยืนยันไม่มีนัยยะอะไรเพราะสื่อมาถามเรื่องงัดข้อ ผมก็ต้องตอบแบบนี้ เราเข้ามาบริหารประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ใช่มางัดข้อแข่งกัน”

**รอนายกตัดสินใจ-ชงหมายจับ**
ส่วนความเคลื่อนไหวของ ชุดพนักงานสืบสวนสอบสวน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดทั้งวันไม่มีการประชุมกันแต่อย่างใด โดยชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ เพื่อติดตามไล่ล่าจับกุม จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา และส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้

สำหรับการเสนอศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับกุม ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีในระดับปฎิบัติการอีก 3 คน ประกอบด้วย ร.ต.(ว) และทหารยศ จ่า อีก 2 ราย โดยทั้ง 3 คน สังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ สังกัดเดียวกับ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา ที่อยู่ระหว่างหลบหนีนั้น มีรายงานว่า พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน รอการตัดสินใจของ นายกรัฐมนตรีก่อน จากนั้น พล.ต.อ.ธานี ก็จะเข้ารายงานเกี่ยวกับคดีให้ นายกรัฐมนตรี รับทราบก่อนเสนอออกหมายต่อไป โดยคาดว่าภายในสัปดาห์นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น