“สุเทพ” วัดใจ “มาร์ค” ปลด “พัชรวาท” อุ้ม ผบ.ตร.ย้ำไม่พบข้อมูลที่เป็นอุปสรรคต่อคดียิง “สนธิ” ยันแรงบีบปลด ผบ.ตร.ไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล หยอกมุกแรง-ถ้างัดข้อกัน “มาร์ค” แพ้อยู่แล้ว อ้างตัวใหญ่กว่า
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (28 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีจะนำความคืบหน้าคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาหารือว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรี การตัดสินใจทั้งหมดขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้น ผลการตัดสินใจทั้งหมด รวมถึงการปลด ผบ.ตร.ก็เป็นอำนาจของนายกฯ เมื่อถามว่า หากมีการปลด ผบ.ตร.จริงจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล เราไม่ได้ทำงานเพื่อตัวบุคคล แต่ทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ควรจะไปยึดถือตัวบุคคล
“ผมไม่กล้าพูดว่าจะมีการปลดหรือไม่ปลด เพราะไม่คิดว่าจะมีอย่างนั้น ที่ผ่านมาก็มีแต่ข่าว นายกรัฐมนตรีไม่เคยพูดกับผมเลยว่าจะมีการปลด ผบ.ตร. ดังนั้น ผมจึงเชื่อว่าการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีไม่ว่าจะทำอะไรต้องมีเหตุผล แต่สำหรับผมได้ทำรายงานเสนอนายกฯ ไปแล้วว่าข้อมูลที่ผมรับทราบจากรายงานของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนไม่มีข้อมูลตรงไหนที่จะบ่งชี้หรือยืนยันได้ว่า ผบ.ตร.เป็นอุปสรรคในการทำคดี ส่วนนายกรัฐมนตรีอาจจะมีข้อเท็จจริงอย่างอื่นก็แล้วแต่ ซึ่งผมได้อาศัยข้อมูลของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. และของพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำคดีนี้ตามลำดับ และจากรายงานทั้ง 4 สำนวนก็ไม่มีอะไรที่ทำให้เชื่อหรือเห็นเป็นหลักฐานได้ว่า ผบ.ตร.เป็นอุปสรรคต่อการทำคดี และได้รายงานนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว ผมจะไปจินตนาการเองไม่ได้ ข่าวที่เกิดขึ้นทุกวันนี้อาจจะเป็นข่าวปล่อย เพราะมีข่าวปล่อยกันเยอะ การกล่าวหาคนในบ้านเมืองไปทั่ว บ้านเมืองก็ไม่สงบสุข” นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่า การปลดหรือไม่ปลด ผบ.ตร.จะยืนอยู่บนเงื่อนไขอะไร รองนายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่ามีเหตุผลอะไร มีข้อมูลหรือไม่ กฎหมายระบุไว้อย่างไรก็ต้องพิจารณาตามนั้น ส่วนที่ตนได้กำชับให้มีการหาข้อมูลเพิ่มเติมขณะนี้ยังไม่มีรายงานความคืบหน้า ต่อข้อถามว่าการที่ยังไม่ตัดสินใจปลดผบ.ตร.เพราะเป็นน้องชาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ถามอย่างนี้เป็นการถามให้คนทะเลาะกันตอบไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมีเหตุอะไรที่ส่งผลต่อตำแหน่ง ผบ.ตร.คิดว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม จะเข้าใจหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ทำไมไม่ไปถาม พล.อ.ประวิตรเอาเอง ตนจะไปนั่งในหัวใจคนอื่นได้อย่างไร หัวใจคุณผมยังวัดไม่ถูกเลย ขณะนี้ไม่จำเป็นต้องประสานไปยังพรรคร่วมรัฐบาล เพราะยังไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา ยืนยันว่าไม่คิดว่าจะมีปัญหาและไม่กระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล เพราะตนมองโลกในแง่ดี ถ้าดีเกินไปก็จะได้มีบทเรียนในชีวิตตนเองว่ามองอะไรดีเกินไป เมื่อถามย้ำว่า การมองโลกในแง่ดีจะเป็นบทเรียนราคาแพงเกินไปหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า บางทีถ้าแพงเกินไปก็ต้องซื้อ
เมื่อถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเพราะคดีของนายสนธิเพียงคดีเดียวจึงทำให้มีการกดดันให้ปลด ผบ.ตร. นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่กล้าพูดอะไร เพราะผู้สื่อข่าวเล่นถามดักหน้าดักหลัง ตนพูดอะไรไปเดี๋ยวโดนท่านนายกรัฐมนตรีดุ วันนี้คงได้มีโอกาสคุยกันเพราะประชุม ครม.นั่งติดกัน ยืนยันว่าที่ผ่านมาตนไม่เคยพูดอะไรที่ขัดกับนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า หากนายกรัฐมนตรีตัดสินใจปลด ผบ.ตร.จริงจะทำให้เกิดความขัดข้องหมองใจกันกับนายสุเทพหรือไม่ เพราะให้การสนับสนุน ผบ.ตร.อยู่กรายๆ นายสุเทพกล่าวย้อนว่า ถามอย่างนี้แล้วตนจะตอบอย่างไร ถ้าคุณ (สื่อ) เป็นตนจะให้ตอบอย่างไร ช่วยแนะนำหน่อย เล่นถามดักกันอย่างนี้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าทุกอย่างได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีหมดแล้ว นายกรัฐมนตรีจะเรียกหารือเมื่อไหร่ได้ทุกเมื่อ เพราะตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ส่วนวันนี้จะได้ข้อสรุปหรือไม่ยังไม่ทราบ สุดแล้วแต่วิจารณญาณของนายกรัฐมนตรี ส่วนตัวยอมรับได้ทุกอย่าง เพราะตนเป็นลูกน้องนายกรัฐมนตรี ทัศนะของตนต่อเรื่องนี้เห็นว่าตำรวจก็ต้องทำหน้าที่ของตำรวจให้สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นคดีใครก็ตาม ไม่ใช่เฉพาะคดีนายสนธิ ตำรวจมีหน้าที่คลี่คลายคดีหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครบอกเลยว่าเขาเจอตอ มีแต่สื่อมาบอก ตนคิดตามสื่ออยู่เรื่อยตนก็กลุ้ม
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเกิดการงัดข้อกันหรือไม่ นายสุเทพ หัวเราะก่อนกล่าวว่า “นายกรัฐมนตรีจะงัดข้อสู้ผมได้เหรอ เพราะผมตัวใหญ่กว่าตั้งเยอะ และที่ผมตอบแบบนี้ ยืนยันไม่มีนัยอะไรเพราะสื่อมาถามเรื่องงัดข้อ ผมก็ต้องตอบแบบนี้ เราเข้ามาบริหารประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ใช่มางัดข้อแข่งกัน”
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีบอกว่า 2-3 วันก็ให้อดใจรอ สื่อจะไปทำอย่างอื่น หรือจะกินโอเลี้ยงรอก็ได้ เมื่อถามย้ำอีกว่า แสดงว่าไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร จะไม่สร้างความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลใช่ หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนบอกแล้วว่าตนมองโลกในแง่ดี คิดว่าคงจะไม่มีปัญหาอะไร และตนเชื่อว่าพวกเราทุกคนทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองไม่ใช่ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ถ้าทุกคนคิดอย่างนี้มันก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าทุกคนไปยึดถือเอาผลประโยชน์ของนาย ก. นาย ข. หรือกลุ่ม ก. กลุ่ม ข. แบบนี้เป็นปัญหาแน่นอน
