“แดงถ่อย” ป่วนไม่เลิก บุกพัทยา โห่ไล่ “มาร์ค” ท่ามกลางสายตานักธุรกิจต่างชาติ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - “มาร์ค” ร่วมงานเลี้ยงสมาคมนักธุรกิจจีน หวังสานสัมพันธ์เปิดตลาดลงทุนทั้งใน-นอกประเทศ ขณะที่ “แดงถ่อย” ยังไม่หยุดป่วน ฉีกหน้านายกฯ ชูป้ายต้าน พร้อมยื่นหนังสือถึงนักธุรกิจจีน ยินดีให้ลงทุนในไทย แต่ไม่ต้อนรับ “มาร์ค” อ้างเป็น รบ.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ด้านนักลงทุนจีน มอง “เสื้อแดง” ไร้ค่า ลงขันร่วมลงทุนมูลค่า 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

วันนี้ (28 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเป็นประธานมอบของที่ระลึกแก่ นายหลู จวิ้นชิง ประธานสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนทั่วโลก พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำในพิธีปิดการประชุมสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนทั่วโลก ที่โรงแรมดุสิตธานี พัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งทางรัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเพื่อให้ภาคเอกชนไทยได้มีโอกาสเจรจาลงทุนกับนักธุรกิจจีน

โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถา มีใจความ ดังนี้ การประชุมครั้งนี้ราบรื่น ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นการเสวนา หรือเปิดโอกาสให้มีการเจรจาการค้าและการลงทุนร่วมกันในอนาคต โดยมีนักธุรกิจจีนกว่า 300 คน และเอกชนไทยกว่า 400 คน ร่วมงานดังกล่าว ซึ่งในส่วนการเจราจาภาคธุรกิจ พบว่า เกิดผลสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยจะเห็นได้จากมีความตกลงร่วมมือขั้นต้นระหว่างกันถึง 48 ความตกลง รวมมูลค่ากว่า 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเรื่องนี้รัฐบาลไทยจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และจะคอยให้การสนับสนุน เพื่อให้เกิดความราบรื่นในการลงทุนของทั้งสองฝ่าย

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปร่วมประชุมสมาชิกตระกูลแซ่ อาเซียน +4 และรู้สึกชื่นชมความสำเร็จด้านเศรษฐกิจการลงทุนของจีน เนื่องจากพบว่า เติบโตเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังได้พบปะกับนักธุรกิจจากเมืองกวางโจว ที่มีแนวคิดจัดตั้งตลาดสินค้าการเกษตรของไทย โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้ผลิตผลทางการเกษตรของไทยมีตลาดขนาดใหญ่รองรับ และทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุดในอนาคต

สำหรับในส่วนความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลไทยแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนในการต้อนรับการลงทุนจากจีน และแสดงความพร้อมของนักธุรกิจไทย ที่เปิดกว้างในการดำเนินธุรกิจ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน โดยยืนยันว่า ทางรัฐบาลไทยมีนโยบายต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศ และจะพยายามทุกวิถีทางให้เกิดการกระตุ้นมากที่สุด เพื่อหวังจะจัดตั้งศูนย์ประสานการบริการนักลงทุน หรือ One Stop One Start Center ให้บริการนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและจีน นับวันจะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าประเทศจีน ถือเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 3 ของไทย และเป็นตลาดนำเข้าเป็นอันดับที่ 2 ของไทยด้วย สำหรับในส่วนการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ พบว่า ในปัจจุบันยังคงไม่สูงมากนัก แต่ทางไทยเล็งเห็นแล้วว่าในอนาคตมีโอกาสขยายตัวสูง โดยเฉพาะการลงทุนของจีนในประเทศไทย ที่ตอนนี้อยู่ในระดับ 3,000-4,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเชื่อว่าหากมีการศึกษาอย่างจริงจัง โอกาสการลงทุนจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น

ข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่คณะของนายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางมาถึงโรงแรมสถานที่จัดงาน ได้มีกลุ่มชมรมรักประชาธิปไตยพัทยา ประมาณ 200 คน นำรถขยายเสียงและป้ายผ้าเขียนโจมตีรัฐบาล มารอขับไล่นายกรัฐมนตรี โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากคอยดูแลรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ กลุ่มเสื้อแดง ยังได้ยื่นหนังสือถึงตัวแทนนักธุรกิจจีน ว่า เหตุที่รวมตัวกันครั้งนี้ เพราะไม่ต้อนรับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ โดยอ้างว่าไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง