ASTV ผู้จัดการรายวัน - รายย่อยระวังตัว “ดราก้อน วัน” ร้อนฉ่าอีกแล้ว แม้เพิ่งหลุด Turnover List วานนี้ ล่าสุดข่าวลือสะพัดอีกระลอก สองพี่น้องสิริวัฒนภักดี "ฐาปน-ปณต" ควักเงินส่วนตัว สั่งนอมินีต่างชาติเข้าเก็บหุ้น หากได้ครบตามเป้า 35% เตรียมเข้าคุยกลุ่มเตชะอุบล กลางสิงหาคมนี้ คาดโครงการคอมเพล็กซ์ตรงข้ามห้างซีคอน สแควร์ล่อใจ หวังรวบเพื่อช่วยเสริมแผนธุรกิจอสังหาฯของยูนิเวนเจอร์ที่กลุ่มตนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โบรกเกอร์ย้ำอย่าเสี่ยง!..เป็นแมงเม่า มีแต่เสียเปรียบ
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งว่า วานนี้(27ก.ค.)เป็นวันแรกของการซื้อขายหุ้นแบบปกติของ บมจ. ดราก้อน วัน (D1) และ บมจ. ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม (TIES) หลังจากติด Turnover List ซึ่งผู้ลงทุนที่สนใจต้องวางเงินสดไว้ล่วงหน้าเต็มจำนวนก่อนการซื้อ(Cash Balance)ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 -24 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยตลอดวานนี้พบว่า D1 ปิดที่ 0.73 บาท ลดลง 0.05 บาท หรือ 6.41% ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 0.79 บาท ต่ำสุด 0.72 บาท มูลค่าซื้อขาย 53.092 ล้านบาท ขณะที่ TIES ปิด 1.30 บาท ลดลง 0.27 บาท หรือ 17.20% ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 1.67 บาท และต่ำสุด 1.16 บาท มูลค่า 167.89 ล้านบาท
ส่วนราคาหุ้นย้อนหลัง D1 ตั้งแต่วันที่ 2 -24 ก.ค. พบว่า ราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยต่ำสุด(1ก.ค.) ที่ 0.61 บาท และสูงสุด(23ก.ค.) 0.79 บาท เมื่อเปรียบเทียบแล้วเพิ่มขึ้น0.18 บาท หรือ 29.50% แม้ติด Cash Balance ซึ่งส่วนใหญ่ราคาจะอยู่ที่ระดับ 0.64 -0.79 บาท ขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบราคาต่ำสุดกับราคาปิดวานนี้พบว่าเพิ่มขึ้น 0.12 บาท หรือ 19.67%
**ลือสะพัด”สิริวัฒนภักดี”เข้าเก็บ
เมื่อเร็วๆนี้ มีข่าวตามห้องค้าหลักทรัพย์ว่า มีกลุ่มทุนรายใหญ่เข้ามาเก็บหุ้น D1 ตั้งแต่อยู่ในช่วง Cash Balance ทำให้เป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วไปมาก และจากการสอบถาม แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า ได้มีคำสั่งผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศหลายแห่ง ให้เข้ามาซื้อหุ้นแทน(นอมินี) ในหุ้นของD1 โดยเป็นคำสั่งของนายฐาปน และนายปณต สิริวัฒนภักดี ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีการประชุมกันระหว่างผู้สั่งซื้อและผู้รับคำสั่ง ที่สิงคโปร์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยการซื้อหุ้น ในครั้งนี้จะมีบล.เครดิต สวิส (สิงคโปร์) เป็นศูนย์กลางรับสั่งคำสั่งซื้อจากโบรกเกอร์ (นอมินี) จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD,UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED,CITIBANK NOMINEES SINGAPORE ,MELLON BANK, UBS AG SINGAPORE,BRANCH-PB SECURITIES CLIENT CUSTODY และ BNP PARIBAS PRIVATE BANK HONG KONG BRANCH ด้วยวงเงินลงทุนรวมประมาณ 250 ล้านบาท
แต่ คำสั่งซื้อดังกล่าวไม่ใช่คำสั่งซื้อครั้งล่าสุดในหุ้น D1 ของนักลงทุนกลุ่มนี้ เพราะได้มีการเก็บหุ้นตัวนี้มาตั้งแต่ช่วงวันที่ 2 ก.ค. 2552 และตลอดช่วงเวลาที่หุ้นติด Turnover List รวมกว่า 335 ล้านหุ้น ซึ่งเมื่อรวมกับคำสั่งซื้อผ่าน บล.ยูบีเอส สิงคโปร์ วานนี้ (27ก.ค.)อีก 35 ล้านหุ้น พบว่าสองพี่น้อง สิริวัฒนภักดีได้เก็บหุ้นD1 ไปแล้วประมาณ 370 ล้านหุ้น โดยกระจายสัดส่วนการถือหุ้นผ่านโบรกเกอร์(นอมินี)ต่างชาติทั้งหมด
**คาดที่ดินล่อใจหวังร่วมมีเอี่ยว
ทั้งนี้ ไม่เป็นที่ยืนยันถึงสาเหตุในการเข้าเก็บหุ้น D1 ว่าทางกลุ่มสิริวัฒนภักดี ต้องการเพื่อจุดประสงค์ใด แต่เป็นที่เชื่อว่า น่าจะเป็นความต้องการเข้ามาร่วมลงทุนในด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมีข้อมูลก่อนหน้าผ่านสื่อต่างๆระบุว่า ดราก้อน วัน มีที่ดินในย่านถนนศรีนครินทร์ 23 ไร่ ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ มูลค่าประมาณจำนวน 280 ล้านบาท และมีเป้าหมายที่จะเข้ามาลงทุนในที่ดินแปลงนี้เพื่อนำไปพัฒนาเป็นซุปเปอร์คอมเพล็กซ์ หรือตลาดสดและปล่อยให้เช่า อีกทั้งด้วยกระแสเงินที่บริษัทมีอยู่ ณ ปัจจุบันประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการรับรู้รายได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุนให้นาย เบน เตชะอุบล (ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในปัจจุบัน) 345 ล้านหุ้น ประมาณ 51.75 ล้านบาท ทำให้หุ้นของบริษัทจึงมีความน่าสนใจ
“ด้วยมูลค่าที่ดิน23 ไร่กว่า 280 ล้านบาท บวกกับกระแสเงินสดอีก 300 ล้านบาทนั้น นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่มสริริวัฒนภักดี สนใจเข้ามาดอดเก็บหุ้นD1 เพราะมีการประมาณการไว้ว่าน่าจะใช้เงินแค่ 500 ล้านบาทก็สามารถเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทนี้ได้แล้ว”
**เตรียมเจรจาเตชะอุบลหลังวันแม่
ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อโบรกเกอร์ต่างประเทศสามารถเก็บหุ้นD1 ได้ประมาณ 35% ทางกลุ่มสิริวัฒนภักดีจะเข้าทำการเจรจากับกลุ่มเตชะอุบล ผู้ถือหุ้นใหญ่ของดราก้อน วัน ในช่วงประมาณกลางเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อชี้แจงเหตุผลในการซื้อหุ้นD1 ที่ผ่านมา และหลังจากได้ข้อสรปุเป็นที่พอใจ คาดว่าจะมีการโอนหุ้นD1 ที่ถืออยู่ทั้งหมดให้ บริษัท อเดลฟอส จำกัด (ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบมจ. ยูนิ เวนเจอร์ หรือ UV) รับช่วงต่อ ตามแผนที่ต้องการเข้าลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของUV
แต่เมื่อสอบถาม นายธนพล ศิริธนชัย กรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูนิเวนเจอร์ กล่าวเพียงว่า ตนไม่ได้รับทราบเรื่องอะไรทั้งสิ้น และไม่รู้ จึงไม่สามารถตอบได้ในเรื่องที่ผู้ถือหุ้นของบริษัทไปซื้อหุ้นไกลถึงสิงคโปร์
**เตือนแมงเม่าห้ามร่วมวง
นักวิเคราะห์รายหนึ่ง ให้ความเห็นว่า ยังมองไม่เห็นพื้นฐานของหุ้น D1 และตัวหุ้นเองไม่มีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนรายย่อยไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวด้วย เพราะจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบรายใหญ่ ซึ่งล่าสุดมีข่าวว่าหลังจากหุ้น D1 หลุด Turnover List วานนี้ ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งในบริษัทก็นำหุ้นออกมาปล่อยขายในกระดาน เพื่อหวังสร้างราคา แต่กลับไม่รู้ว่าที่ตนขายไปนั้นตกไปอยู่ในมือกลุ่มทุนที่ใหญ่กว่า และยังไม่รู้เหตุผลการเก็บหุ้นที่แน่ชัด
ขณะเดียวกัน เมื่อตรวจสอบงบการเงินในไตรมาส 1 ของD1 ที่ผ่านมา ไม่พบที่ดินจำนวนดังกล่าวระบุไว้ อีกทั้งกระแสเงินสดในไตรมาสเดียวกันก็มีเพียง 60 ล้านบาท และเมื่อรวมกับเงินที่ได้จากการขายหุ้นให้นายเบน เตชะอุล ก็ไม่น่าจะถึง 300 ล้านบาท ตามที่ผู้บริหารเคยให้ข่าวไปก่อนนี้ไม่ จึงมองว่าเป็นเรื่องที่ประเมินยาก และนักลงทุนรายย่อยไม่ควรเข้าไปเสี่ยงกับการซื้อหุ้นครั้งนี้ แม้ข่าวลือดังกล่าวจะเป็นความจริงภายหลัง
“D1 ไม่มีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษ และก็เป็นหุ้นอย่างที่รู้กัน แต่ยอมรับว่าข่าวนี้มีพูดถึงมากในห้องค้า ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปดูรายชื่อผู้ถือหุ้นของ UV จะพบว่านอมินีต่างชาติที่จะเข้ามงาเก็บD1 ในครั้งนี้ ล้วนมาจากแหล่งเดียวกันทั้งสิ้น และก่อนหน้านี้กลุ่มสิริวัฒนภักดีก็มีสัดส่วนถือหุ้นในD1 ผ่าน Quan SECURITIES ฮ่องกง 2.92% ซึ่งบริษัทแห่งนี้อยู่ในเครือ Quan Capital ทำธุรกิจด้านอสังหาฯ และจดทะเบียนในตลาดฮั่งเสง อีกทั้งเป็นพันธมิตรกับเครือสิริวัฒนภักดี”
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งว่า วานนี้(27ก.ค.)เป็นวันแรกของการซื้อขายหุ้นแบบปกติของ บมจ. ดราก้อน วัน (D1) และ บมจ. ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม (TIES) หลังจากติด Turnover List ซึ่งผู้ลงทุนที่สนใจต้องวางเงินสดไว้ล่วงหน้าเต็มจำนวนก่อนการซื้อ(Cash Balance)ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 -24 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยตลอดวานนี้พบว่า D1 ปิดที่ 0.73 บาท ลดลง 0.05 บาท หรือ 6.41% ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 0.79 บาท ต่ำสุด 0.72 บาท มูลค่าซื้อขาย 53.092 ล้านบาท ขณะที่ TIES ปิด 1.30 บาท ลดลง 0.27 บาท หรือ 17.20% ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 1.67 บาท และต่ำสุด 1.16 บาท มูลค่า 167.89 ล้านบาท
ส่วนราคาหุ้นย้อนหลัง D1 ตั้งแต่วันที่ 2 -24 ก.ค. พบว่า ราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยต่ำสุด(1ก.ค.) ที่ 0.61 บาท และสูงสุด(23ก.ค.) 0.79 บาท เมื่อเปรียบเทียบแล้วเพิ่มขึ้น0.18 บาท หรือ 29.50% แม้ติด Cash Balance ซึ่งส่วนใหญ่ราคาจะอยู่ที่ระดับ 0.64 -0.79 บาท ขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบราคาต่ำสุดกับราคาปิดวานนี้พบว่าเพิ่มขึ้น 0.12 บาท หรือ 19.67%
**ลือสะพัด”สิริวัฒนภักดี”เข้าเก็บ
เมื่อเร็วๆนี้ มีข่าวตามห้องค้าหลักทรัพย์ว่า มีกลุ่มทุนรายใหญ่เข้ามาเก็บหุ้น D1 ตั้งแต่อยู่ในช่วง Cash Balance ทำให้เป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วไปมาก และจากการสอบถาม แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า ได้มีคำสั่งผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศหลายแห่ง ให้เข้ามาซื้อหุ้นแทน(นอมินี) ในหุ้นของD1 โดยเป็นคำสั่งของนายฐาปน และนายปณต สิริวัฒนภักดี ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีการประชุมกันระหว่างผู้สั่งซื้อและผู้รับคำสั่ง ที่สิงคโปร์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยการซื้อหุ้น ในครั้งนี้จะมีบล.เครดิต สวิส (สิงคโปร์) เป็นศูนย์กลางรับสั่งคำสั่งซื้อจากโบรกเกอร์ (นอมินี) จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD,UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED,CITIBANK NOMINEES SINGAPORE ,MELLON BANK, UBS AG SINGAPORE,BRANCH-PB SECURITIES CLIENT CUSTODY และ BNP PARIBAS PRIVATE BANK HONG KONG BRANCH ด้วยวงเงินลงทุนรวมประมาณ 250 ล้านบาท
แต่ คำสั่งซื้อดังกล่าวไม่ใช่คำสั่งซื้อครั้งล่าสุดในหุ้น D1 ของนักลงทุนกลุ่มนี้ เพราะได้มีการเก็บหุ้นตัวนี้มาตั้งแต่ช่วงวันที่ 2 ก.ค. 2552 และตลอดช่วงเวลาที่หุ้นติด Turnover List รวมกว่า 335 ล้านหุ้น ซึ่งเมื่อรวมกับคำสั่งซื้อผ่าน บล.ยูบีเอส สิงคโปร์ วานนี้ (27ก.ค.)อีก 35 ล้านหุ้น พบว่าสองพี่น้อง สิริวัฒนภักดีได้เก็บหุ้นD1 ไปแล้วประมาณ 370 ล้านหุ้น โดยกระจายสัดส่วนการถือหุ้นผ่านโบรกเกอร์(นอมินี)ต่างชาติทั้งหมด
**คาดที่ดินล่อใจหวังร่วมมีเอี่ยว
ทั้งนี้ ไม่เป็นที่ยืนยันถึงสาเหตุในการเข้าเก็บหุ้น D1 ว่าทางกลุ่มสิริวัฒนภักดี ต้องการเพื่อจุดประสงค์ใด แต่เป็นที่เชื่อว่า น่าจะเป็นความต้องการเข้ามาร่วมลงทุนในด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมีข้อมูลก่อนหน้าผ่านสื่อต่างๆระบุว่า ดราก้อน วัน มีที่ดินในย่านถนนศรีนครินทร์ 23 ไร่ ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ มูลค่าประมาณจำนวน 280 ล้านบาท และมีเป้าหมายที่จะเข้ามาลงทุนในที่ดินแปลงนี้เพื่อนำไปพัฒนาเป็นซุปเปอร์คอมเพล็กซ์ หรือตลาดสดและปล่อยให้เช่า อีกทั้งด้วยกระแสเงินที่บริษัทมีอยู่ ณ ปัจจุบันประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการรับรู้รายได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุนให้นาย เบน เตชะอุบล (ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในปัจจุบัน) 345 ล้านหุ้น ประมาณ 51.75 ล้านบาท ทำให้หุ้นของบริษัทจึงมีความน่าสนใจ
“ด้วยมูลค่าที่ดิน23 ไร่กว่า 280 ล้านบาท บวกกับกระแสเงินสดอีก 300 ล้านบาทนั้น นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่มสริริวัฒนภักดี สนใจเข้ามาดอดเก็บหุ้นD1 เพราะมีการประมาณการไว้ว่าน่าจะใช้เงินแค่ 500 ล้านบาทก็สามารถเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทนี้ได้แล้ว”
**เตรียมเจรจาเตชะอุบลหลังวันแม่
ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อโบรกเกอร์ต่างประเทศสามารถเก็บหุ้นD1 ได้ประมาณ 35% ทางกลุ่มสิริวัฒนภักดีจะเข้าทำการเจรจากับกลุ่มเตชะอุบล ผู้ถือหุ้นใหญ่ของดราก้อน วัน ในช่วงประมาณกลางเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อชี้แจงเหตุผลในการซื้อหุ้นD1 ที่ผ่านมา และหลังจากได้ข้อสรปุเป็นที่พอใจ คาดว่าจะมีการโอนหุ้นD1 ที่ถืออยู่ทั้งหมดให้ บริษัท อเดลฟอส จำกัด (ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบมจ. ยูนิ เวนเจอร์ หรือ UV) รับช่วงต่อ ตามแผนที่ต้องการเข้าลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของUV
แต่เมื่อสอบถาม นายธนพล ศิริธนชัย กรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูนิเวนเจอร์ กล่าวเพียงว่า ตนไม่ได้รับทราบเรื่องอะไรทั้งสิ้น และไม่รู้ จึงไม่สามารถตอบได้ในเรื่องที่ผู้ถือหุ้นของบริษัทไปซื้อหุ้นไกลถึงสิงคโปร์
**เตือนแมงเม่าห้ามร่วมวง
นักวิเคราะห์รายหนึ่ง ให้ความเห็นว่า ยังมองไม่เห็นพื้นฐานของหุ้น D1 และตัวหุ้นเองไม่มีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนรายย่อยไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวด้วย เพราะจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบรายใหญ่ ซึ่งล่าสุดมีข่าวว่าหลังจากหุ้น D1 หลุด Turnover List วานนี้ ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งในบริษัทก็นำหุ้นออกมาปล่อยขายในกระดาน เพื่อหวังสร้างราคา แต่กลับไม่รู้ว่าที่ตนขายไปนั้นตกไปอยู่ในมือกลุ่มทุนที่ใหญ่กว่า และยังไม่รู้เหตุผลการเก็บหุ้นที่แน่ชัด
ขณะเดียวกัน เมื่อตรวจสอบงบการเงินในไตรมาส 1 ของD1 ที่ผ่านมา ไม่พบที่ดินจำนวนดังกล่าวระบุไว้ อีกทั้งกระแสเงินสดในไตรมาสเดียวกันก็มีเพียง 60 ล้านบาท และเมื่อรวมกับเงินที่ได้จากการขายหุ้นให้นายเบน เตชะอุล ก็ไม่น่าจะถึง 300 ล้านบาท ตามที่ผู้บริหารเคยให้ข่าวไปก่อนนี้ไม่ จึงมองว่าเป็นเรื่องที่ประเมินยาก และนักลงทุนรายย่อยไม่ควรเข้าไปเสี่ยงกับการซื้อหุ้นครั้งนี้ แม้ข่าวลือดังกล่าวจะเป็นความจริงภายหลัง
“D1 ไม่มีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษ และก็เป็นหุ้นอย่างที่รู้กัน แต่ยอมรับว่าข่าวนี้มีพูดถึงมากในห้องค้า ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปดูรายชื่อผู้ถือหุ้นของ UV จะพบว่านอมินีต่างชาติที่จะเข้ามงาเก็บD1 ในครั้งนี้ ล้วนมาจากแหล่งเดียวกันทั้งสิ้น และก่อนหน้านี้กลุ่มสิริวัฒนภักดีก็มีสัดส่วนถือหุ้นในD1 ผ่าน Quan SECURITIES ฮ่องกง 2.92% ซึ่งบริษัทแห่งนี้อยู่ในเครือ Quan Capital ทำธุรกิจด้านอสังหาฯ และจดทะเบียนในตลาดฮั่งเสง อีกทั้งเป็นพันธมิตรกับเครือสิริวัฒนภักดี”