xs
xsm
sm
md
lg

อัยการจี้“บัวแก้ว-สตช.” หาที่อยู่"นช.แม้ว"ในดูไบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“อธิบดีอัยการต่างประเทศ”ยันหากพบ“ทักษิณ”ฉลองแซยิดที่ดูไบ “บัวแก้ว-สตช.” นิ่งไม่ได้ ต้องเร่งตรวจสอบหาข้อมูลยืนยันให้อัยการทำหนังสือ แจ้งยูเออี อีกรอบให้จับกุม ก่อนร้องส่งผู้ร้ายข้ามแดน หลังหนังสือฉบับแรกส่งไปแล้ว เม.ย.ที่ผ่านมา

วานนี้(26 ก.ค.)นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการต่างประเทศ เปิดเผยถึงการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องโทษจำคุก 2 ปี ตามคำพิพากษาคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกลับมารับโทษ ขณะที่มีข่าวว่าบุตรชาย บุตรสาว เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ในวันครบรอบวันเกิด ว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะติดตามตรวจสอบหาข้อมูลว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ดูไบจริงหรือไม่ เพื่อที่จะนำข้อมูลมายืนยัน เพื่อประสานงานผ่านวิถีทางการทูตที่จะให้ทางการ UAE จับกุมตัวไว้ก่อนเพื่อทางการไทยจะขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนโดยวิธีการต่างตอบแทน ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุด เคยทำหนังสือให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการไปก่อนแล้ว หลังจากการทำหนังสือฉบับแรกส่งให้ทางการ UAE เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศเคยแจ้งกับอัยการว่า ทางการ UAE ต้องการที่จะหารือกับอัยการ แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีการยืนยันข้อมูลหรือประเด็นใดๆ มาอีก

“หากพบข้อมูลชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปอยู่ที่ดูไบอีก จะทำเป็นไม้รู้ไม่เห็นคงไม่ได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบเพื่อยืนยันที่อยู่ ซึ่งอัยการจะได้ทำหนังสือโดยทันทีผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เหมือนที่เคยทำมาแล้ว เพื่อแจ้งให้ทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดำเนินการจับกุมตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ไว้ก่อน โดยอัยการมีทั้งคำร้อง และเอกสารประกอบคำร้องพร้อมอยู่แล้ว”อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศกล่าว

ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ทางการ UAE ประสานให้ทางการไทยจับกุมตัวนายไมเคิล ไบรอัน สมิธ นักธุรกิจชาวอังกฤษ ผู้ต้องหากระทำความผิดฉ้อโกงบริษัทในนครดูไบนั้น นายศิริศักดิ์กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยติดตามตัวจับกุมตัวนายไมเคิล ผู้ต้องหาได้ และพนักงานอัยการฝ่ายต่างประเทศได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 21 พ.ค.นี้ ให้คุมขังผู้ต้องหาไว้ก่อนเพื่อร้องหนังสือทางการ UAE ขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ค. อัยการได้รับหนังสือจากทางการ UAE แล้ว ขณะนี้กำลังพิจารณาตรวจสอบว่าเอกสารครบถ้วนถูกต้องตามขั้นตอนร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ หากครบถ้วนแล้วอัยการจะยื่นคำร้องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนนายไมเคิลต่อศาลอาญา

**ย้ำเตือนโทษคุก นช.ทักษิณ**

สำหรับคำพิพากษาของศาล ระบุไว้ชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 เป็นนายกรัฐมนตรีมีอำนาจบารมีเหนือรัฐมนตรีและมีอำนาจทางการเมืองสูงอีกทั้งฐานะการเงินมั่งคั่ง ตามหลักธรรมาภิบาลนายกรัฐมนตรี ภริยา หรือบุตรไม่สมควรเข้าไปประมูลซื้อเพราะการซื้อได้ราคาต่ำก็เป็นผลทำให้กองทุนฯ มีรายได้น้อยลง ขณะที่จำเลยที่ 2 มีผู้รู้จักจำนวนมาก ประกอบกับข้าราชการมีค่านิยมจำนนต่อผู้มีบารมีสูง นอกจากนั้นยังอาจให้คุณให้โทษทางราชการได้

เมื่อปรากฏว่า จำเลยที่ 1 ได้ให้บัตรประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีลงนามยินยอมให้จำเลยที่ 2 ทำสัญญาซื้อขายที่ดินย่อมถือได้ว่าเป็นการเข้าทำสัญญาด้วยตัวเอง ตาม พรบ.ปปช. 2542 ม.100 (1) วรรคสาม ที่จำเลยที่ 1 อ้างว่าการลงชื่อยินยอมเป็นเพียงทำตามระเบียบราชการ แต่จำเลยที่ 1 ก็ไม่มีหลักฐานมาแสดงให้เห็นได้ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นต่อการซื้อขาย องค์คณะจึงมีมติ 5 ต่อ 4 เห็นว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำผิดตาม พ.ร.บ. ป.ป.ช. มาตรา 100 (1) วรรคสาม และต้องรับโทษตามมาตรา 122 ขอต่อสู้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น

ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 เป็นนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายให้บริหารราชการแผ่นดินเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการและประชาชน แต่จำเลยที่ 1 กลับฝ่าฝืนกฎหมายทั้งที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล ต้องกระทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ประพฤติตนในสิ่งที่ดีงามตามจริยธรรมของนักการเมืองให้เหมาะสมกับที่ได้รับความไว้วางใจในตำแหน่งหน้าที่อันสำคัญยิ่งจึงไม่สมควรรอการลงโทษ

พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม พ.ร.บ. ป.ป.ช. มาตรา 100(1) วรรคสาม และมาตรา 122 วรรคหนึ่งให้ลงโทษจำคุก 2 ปีส่วนความผิดฐานอื่นและคำขออื่นให้ยกฟ้อง เนื่องจากจำเลยที่ 1 หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาจึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับจำเลยที่ 1 เพื่อมาปฏิบัติตามคำพิพากษาต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น