xs
xsm
sm
md
lg

บทความ

x

บีโอไอ:ขอรับการส่งเสริมฯ ไม่ยากอย่างที่คิด

เผยแพร่:   โดย: วันเพ็ญ หรูจิตตวิวัฒน์

การขอรับการส่งเสริมฯ ในที่นี้หมายถึง การขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (Office of the Board of Investment – BOI) หรือบีโอไอ ซึ่งเป็นหน่วยราชการในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2534 และ พ.ศ. 2544 โดยการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอเป็นการให้สิทธิประโยชน์ ทั้งด้านภาษีอากร และมิใช่ภาษีอากร

นอกจากนี้ ยังมีการบริการอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนในการประกอบธุรกิจ ครอบคลุมบริการชี้แนะลู่ทางการลงทุน แนะนำการขอรับการส่งเสริมฯ บริการจัดหาผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ บริการจัดหาผู้ร่วมทุน บริการศูนย์ข้อมูลการลงทุน และบริการเพื่อการลงทุนของคนไทยในต่างประเทศ

หลักการ และหลักเกณฑ์พื้นฐานโดยสังเขปในการขอรับการส่งเสริมฯ ประกอบด้วย เขตส่งเสริมการลงทุน รูปแบบของสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ ประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริม หลักเกณฑ์การอนุมัติโครงการ หลักเกณฑ์การถือหุ้นของต่างชาติ และการยื่นขอรับการส่งเสริมฯ

เขตส่งเสริมการลงทุน

พื้นที่ในการส่งเสริมการลงทุนแบ่งตามเขตพื้นที่ โดยแบ่งออกเป็น 3 เขต ประกอบด้วย

เขต 1 6 จังหวัด คือ โครงการที่ตั้งสถานประกอบการในกรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร

เขต 2 12 จังหวัด คือ โครงการที่ตั้งสถานประกอบการในจังหวัดกาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครนายก พระนครศรีอยุธยา ภูเก็ต ระยอง ราชบุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง

เขต 3 58 จังหวัดที่เหลือผู้ประกอบการสามารถเลือกจัดตั้งโรงงาน หรือสถานประกอบการที่จังหวัดใดก็ได้หากไม่ขัดกับกฎหมายอื่น สิทธิประโยชน์ขึ้นอยู่กับเขตที่ตั้งของโครงการที่ได้รับการส่งเสริมและข้อกำหนดพิเศษสำหรับเงื่อนไขนั้นๆ โดยปกติโครงการลงทุนที่ตั้งในเขต 3 จะได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด

รูปแบบของสิทธิประโยชน์

สิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุน ครอบคลุมทั้งด้านภาษีอากร และไม่ใช่ภาษีอากร โดยสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากร ได้แก่ ยกเว้น/ลดหย่อนอากรขาเข้าเครื่องจักร ยกเว้น/ลดหย่อนอากรขาเข้าวัตถุดิบ/วัสดุจำเป็น ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินปันผล ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 50 หักค่าขนส่ง ไฟฟ้า ประปา 2 เท่า หักค่าติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่เกินร้อยละ 25 นอกจากการหักค่าเสื่อมราคาตามปกติแล้ว

สำหรับสิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ภาษีอากร ได้แก่ การถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน เพื่อดำเนินการตามโครงการที่ได้รับการส่งเสริม รวมถึงการขอใบอนุญาตทำงาน และการขออนุญาตอยู่ในประเทศไทยที่ศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (One Stop Service Center for Visas and Work Permits)

ประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริม

คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ได้ประกาศประเภทกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนครอบคลุมอุตสาหกรรมต่างๆ แบ่งเป็น 7 หมวด ประกอบด้วย

หมวด 1 อุตสาหกรรมเกษตรและผลิตผลจากการเกษตร

หมวด 2 อุตสาหกรรมเหมืองแร่ เซรามิก และโลหะขั้นพื้นฐาน

หมวด 3 อุตสาหกรรมเบา

หมวด 4 อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง

หมวด 5 อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า

หมวด 6 อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ กระดาษ และพลาสติก

หมวด 7 อุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค

โดยหากประสงค์จะยื่นเอกสารขอรับการส่งเสริมฯ ที่สำนักงานใหญ่ สามารถยื่นได้ที่สำนักบริหารการลงทุนที่รับผิดชอบ แยกเป็นดังนี้

สำนักบริหารการลงทุน 1 กำกับดูแลและวิเคราะห์โครงการลงทุนหมวด 1 และ 3

สำนักบริหารการลงทุน 2 กำกับดูแลและวิเคราะห์โครงการลงทุนหมวด 2 และ 4

สำนักบริหารการลงทุน 3 กำกับดูแลและวิเคราะห์โครงการลงทุนหมวด 5

สำนักบริหารการลงทุน 4 กำกับดูแลและวิเคราะห์โครงการลงทุนหมวด 6 และ 7

หลักเกณฑ์การอนุมัติโครงการ

การพิจารณาความเหมาะสมของโครงการที่ขอรับการส่งเสริมฯ นั้น คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน มีหลักเกณฑ์การพิจารณา ดังนี้

1. มีเงินลงทุนของโครงการที่ขอรับการส่งเสริมฯ ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท สำหรับอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 500,000 บาท

2. ต้องมีมูลค่าเพิ่มไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของรายได้ ยกเว้นการผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน กิจการเกษตรกรรมและผลิตผลจากการเกษตร และโครงการที่คณะกรรมการให้ความเห็นชอบเป็นกรณีพิเศษ (มูลค่าเพิ่มเป็นผลต่างระหว่างรายได้ทั้งสิ้น หักด้วยค่าวัตถุดิบและวัสดุจำเป็นที่ใช้ทั้งหมด และค่าสินค้าและบริการที่มาจากแหล่งอื่น ได้แก่ ค่าบริการสาธารณูปโภค เป็นต้น)

3. มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนจดทะเบียนไม่เกิน 3 ต่อ 1 สำหรับโครงการริเริ่ม ส่วนโครงการขยายจะพิจารณาตามความเหมาะสมเป็นกรณีๆ ไป

4. ต้องใช้กรรมวิธีการผลิตที่ทันสมัยและใช้เครื่องจักรใหม่ กรณีที่ใช้เครื่องจักรเก่าต้องให้สถาบันที่เชื่อถือได้รับรองประสิทธิภาพ และคณะกรรมการฯ ให้ความเห็นชอบเป็นกรณีพิเศษ

5. มีระบบการป้องกันมลพิษที่ดี สำหรับโครงการที่อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการฯ จะพิจารณาเป็นพิเศษในเรื่องที่ตั้งและการจัดการมลพิษ

6. โครงการที่มีเงินลงทุนไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนมากกว่า 500 ล้านบาท ต้องแนบรายงานศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการตามที่คณะกรรมการฯ กำหนด

หลักเกณฑ์การถือหุ้นของต่างชาติ

โครงการลงทุนในกิจการเกษตรกรรมการเลี้ยงสัตว์ การประมง การสำรวจและการทำเหมืองแร่ และการให้บริการตามบัญชีหนึ่งท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ต้องมีผู้มีสัญชาติไทยถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ของทุนจดทะเบียน แต่โครงการลงทุนในกิจการอุตสาหกรรม ต่างชาติถือหุ้นข้างมากหรือทั้งสิ้นได้ ไม่ว่าจะตั้งอยู่ในเขตใด

การยื่นขอรับการส่งเสริมฯ

แบบฟอร์มการขอรับการส่งเสริมฯ มี 3 แบบ คือ แบบฟอร์มทั่วไป แบบฟอร์มบริการ และแบบฟอร์มกิจการประเภท 5.8 กิจการซอฟต์แวร์ หรือกิจการประเภท 5.9 กิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดย แบบฟอร์มทั่วไป ใช้สำหรับกิจการผลิต และกิจการบริการบางประเภท แบบฟอร์มบริการ ใช้สำหรับกิจการบริการ ส่วน แบบฟอร์มสุดท้าย จะใช้กับกิจการประเภท 5.8 และ 5.9 เท่านั้น

การยื่นแบบฟอร์มขอรับการส่งเสริมฯ สามารถยื่นทางอินเทอร์เน็ตได้ที่ https://boieservice.boi.go.th/IPS/Default.aspx หรือยื่นเป็นเอกสารที่สำนักงานใหญ่ สำนักงานสาขา หรือสำนักงานในต่างประเทศก็ได้

ขอรับการส่งเสริมฯ ง่ายนิดเดียว

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามขอข้อมูลได้ที่ศูนย์บริการลงทุน หรือศึกษาข้อมูลจากเว็บไซต์ของสำนักงานที่ http://www.boi.go.th โดยสามารถอีเมลหรือโทรศัพท์นัดหมายเพื่อมาพบเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการลงทุน หรือเจ้าหน้าที่สำนักบริหารการลงทุนที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือสอบถามการกรอกแบบฟอร์ม รวมถึงปัญหาอื่นๆ 

                       “โครงการลงทุนที่ยื่นขอรับการส่งเสริมฯ
         ไม่ว่าจะเป็นโครงการของนักลงทุนไทย หรือนักลงทุนต่างชาติ
            จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่เลือกปฏิบัติ
     และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ได้ประกาศไว้”

เมื่อยื่นขอรับการส่งเสริมฯ แล้ว เจ้าหน้าที่สำนักบริหารการลงทุนที่รับผิดชอบในการวิเคราะห์โครงการลงทุนจะเชิญผู้ขอรับการส่งเสริมฯ มาชี้แจงโครงการ ซึ่งมีขั้นตอนการดำเนินการปรากฏตาม http://www.boi.go.th/thai/about/boi_promotion_procedure.asp หากข้อมูลที่กรอกในแบบฟอร์มไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขประเภทกิจการนั้นๆ เจ้าหน้าที่ก็จะแนะนำให้ผู้ขอรับการส่งเสริมฯ ปรับปรุงข้อมูล ถ้าสามารถปรับปรุงได้ และเมื่อโครงการเป็นไปตามหลักเกณฑ์การอนุมัติให้การส่งเสริม โครงการจะได้รับการพิจารณาให้การส่งเสริมต่อไป

โครงการลงทุนที่ยื่นขอรับการส่งเสริมฯ ไม่ว่าจะเป็นโครงการของนักลงทุนไทย หรือนักลงทุนต่างชาติ จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่เลือกปฏิบัติ และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ได้ประกาศไว้

นอกจากนั้นก็ไม่มีข้อห้ามที่จะยื่นขอรับการส่งเสริมฯ เข้ามาใหม่ หากเคยยื่นขอรับการส่งเสริมฯ แล้วไม่ได้รับการอนุมัติ จะต้องดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลที่เป็นสาเหตุให้ไม่เข้าเกณฑ์การให้การส่งเสริมเสียก่อน แล้วจึงยื่นขอรับการส่งเสริมฯ ใหม่ในกรณีที่สามารถแก้ไขได้

ฉะนั้น เมื่อใดที่ต้องการลงทุนในธุรกิจประเภทใดก็ตาม ก่อนการลงทุนขอให้นึกถึงบีโอไอเป็นอันดับแรก แล้วค้นหาประเภทที่ให้การส่งเสริมนั้นว่า ครอบคลุมประเภทกิจการที่ต้องการประกอบการหรือไม่ หากมีประเภทที่ขอรับการส่งเสริมฯ ได้ ขอให้ศึกษาเงื่อนไขประเภทกิจการโดยละเอียด เพื่อให้ได้รับสิทธิและประโยชน์สูงสุด รวมทั้งเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันอีกด้วย

ติดต่อขอข้อมูล ติชม และเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่ศูนย์บริการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน 0-2537-8161 หรือที่ head@boi.go.th
กำลังโหลดความคิดเห็น