ASTVผู้จัดการรายวัน – “ดีคิว กริล แอนด์ ชิล” ไปรุ่ง ตั้งเป้า3ปี เปิดครบ 10 สาขา ใช้เป็นเครื่องมือวัดใจ ลุ้นไทยคว้าไลเซ่นส์ดูแลในเซาส์อีสเอเซีย ล่าสุดไตรมาสสี่เตรียมเปิดสาขา 3 และ 4 หลังพบผู้บริโภคให้การตอบรับดี สิ้นปีกวาดรายได้อย่างน้อย 35-40 ล้านบาท ส่วนแดรี่ ควีน ปีนี้ตั้งเป้า 1,000 ล้านบาท เติบโต 16-17%
นายชุมพจน์ ตันติสุนทร รองกรรมการและกลุ่มผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ดกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากปีก่อนที่ได้เปิดตัวร้านอาหารสไตล์ Food&Treat ภายใต้แบรนด์ DQ ที่ชื่อว่า ดีคิว กริล แอนด์ ชิล (DQ Grill & Chill) ที่สยามเซ็นเตอร์ โดยภายในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เปิดให้บริการครบ 1 ปีเต็ม พบว่า ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 2-3ล้านบาท หรือตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ดีคิว กริล แอนด์ ชิล มีรายได้ที่ประมาณ 30 กว่าล้านบาท
ดังนั้นปีนี้ทางบริษัทจึงได้มีการขยายสาขาเพิ่ม โดยได้เปิดให้บริการสาขาที่ 2 ไปแล้ว ที่เซ็นทรัลพัทยา พื้นที่ประมาณ 150 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนน้อยกว่าสาขาแรก 20-25% จากที่ใช้ไป 15 ล้านบาท ขณะที่สาขาที่ 3 และ 4 จะเปิดให้บริการได้ประมาณช่วงไตรมาสที่ 4 นี้ โดยภายใน 3 ปี ตั้งเป้าเปิดให้ได้ 10 สาขา ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น เชื่อว่า รายได้ที่มาจากส่วนของร้าน ดีคิว กริล แอนด์ ชิล จะมีอย่างน้อย 300 กว่าล้านบาทต่อปี
อย่างไรก็ตามทางบริษัทได้มีการพูดคุยกับทาง แดรี่ ควีน อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ สหรัฐอเมริกา ในการของไลเซ่นส์เพื่อดูแลร้าน ดีคิว กริล แอนด์ ชิล ที่จะเปิดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป เพราะในภาคพื้นเอเชียนี้ ไทยถือเป็นประเทศแรก ที่ได้รับสิทธิ์ให้เปิดให้บริการรูปแบบร้านอาหารสไตล์ Food&Treat ต่อจากอเมริกา แคนาดา และตะวันออกกลางโดยเชื่อว่าจะมีความเป็นไปได้สูงมาก
สำหรับการเปิดให้บริการ ดีคิว กริล แอนด์ ชิล ในประเทศไทยนั้น จะมีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่นและกลุ่มคนวัยทำงาน ภายใต้แผนการทำตลาดที่แตกต่างจากคู่แข่ง โดยเฉพาะโปรโมชั่น sweet & deals รวมถึงเมนูอาหารที่คัดสรรวัตถุดิบอย่างดีจากต่างประเทศ ในราคาที่นำเสนอในระดับกลางๆ ที่สำคัญมีจุดเด่นของร้านอยู่ที่การให้บริการอาหารและของหวานพร้อมๆกัน
ทั้งนี้รายได้จากร้านดีคิว กริล แอนด์ ชิล จาก 2 สาขา ที่เปิดให้บริการ และรวมสาขาใหม่ที่จะเปิดในช่วงปลายปีนี้ คาดว่ารวมแล้วสิ้นปีนี้ น่าจะมีรายได้ราว 35-40 ล้านบาท
นายชุมพจน์ กล่าวต่อว่า สำหรับร้านแดรี่ ควีน ในรูปแบบคีออส ซึ่งให้บริการเครื่องดื่ม ไอศกรีมและเค้กนั้น ปัจจุบันเปิดให้บริการกว่า 211 สาขา ปีนี้ยังเดินหน้าขยายเพิ่ม 15 สาขา ซึ่งเป็นอัตราการขยายสาขาปกติ สิ้นปีนี้คาดว่าจะมียอดขายเติบโตที่ 16-17% คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีที่ผ่านมา มีการเติบโตไปแล้ว 16-17% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ขณะที่ปี 2551 ที่ผ่านมา ปิดยอดขายด้วยอัตราการเติบโตที่ 18% ทั้งนี้ยอดขายจากร้านแดรี่ควีนนี้ คิดเป็นรายได้ประมาณ 15-17% ของภาพรวมไมเนอร์ กรุ๊ป
นายชุมพจน์ ตันติสุนทร รองกรรมการและกลุ่มผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ดกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากปีก่อนที่ได้เปิดตัวร้านอาหารสไตล์ Food&Treat ภายใต้แบรนด์ DQ ที่ชื่อว่า ดีคิว กริล แอนด์ ชิล (DQ Grill & Chill) ที่สยามเซ็นเตอร์ โดยภายในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เปิดให้บริการครบ 1 ปีเต็ม พบว่า ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 2-3ล้านบาท หรือตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ดีคิว กริล แอนด์ ชิล มีรายได้ที่ประมาณ 30 กว่าล้านบาท
ดังนั้นปีนี้ทางบริษัทจึงได้มีการขยายสาขาเพิ่ม โดยได้เปิดให้บริการสาขาที่ 2 ไปแล้ว ที่เซ็นทรัลพัทยา พื้นที่ประมาณ 150 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนน้อยกว่าสาขาแรก 20-25% จากที่ใช้ไป 15 ล้านบาท ขณะที่สาขาที่ 3 และ 4 จะเปิดให้บริการได้ประมาณช่วงไตรมาสที่ 4 นี้ โดยภายใน 3 ปี ตั้งเป้าเปิดให้ได้ 10 สาขา ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น เชื่อว่า รายได้ที่มาจากส่วนของร้าน ดีคิว กริล แอนด์ ชิล จะมีอย่างน้อย 300 กว่าล้านบาทต่อปี
อย่างไรก็ตามทางบริษัทได้มีการพูดคุยกับทาง แดรี่ ควีน อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ สหรัฐอเมริกา ในการของไลเซ่นส์เพื่อดูแลร้าน ดีคิว กริล แอนด์ ชิล ที่จะเปิดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป เพราะในภาคพื้นเอเชียนี้ ไทยถือเป็นประเทศแรก ที่ได้รับสิทธิ์ให้เปิดให้บริการรูปแบบร้านอาหารสไตล์ Food&Treat ต่อจากอเมริกา แคนาดา และตะวันออกกลางโดยเชื่อว่าจะมีความเป็นไปได้สูงมาก
สำหรับการเปิดให้บริการ ดีคิว กริล แอนด์ ชิล ในประเทศไทยนั้น จะมีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่นและกลุ่มคนวัยทำงาน ภายใต้แผนการทำตลาดที่แตกต่างจากคู่แข่ง โดยเฉพาะโปรโมชั่น sweet & deals รวมถึงเมนูอาหารที่คัดสรรวัตถุดิบอย่างดีจากต่างประเทศ ในราคาที่นำเสนอในระดับกลางๆ ที่สำคัญมีจุดเด่นของร้านอยู่ที่การให้บริการอาหารและของหวานพร้อมๆกัน
ทั้งนี้รายได้จากร้านดีคิว กริล แอนด์ ชิล จาก 2 สาขา ที่เปิดให้บริการ และรวมสาขาใหม่ที่จะเปิดในช่วงปลายปีนี้ คาดว่ารวมแล้วสิ้นปีนี้ น่าจะมีรายได้ราว 35-40 ล้านบาท
นายชุมพจน์ กล่าวต่อว่า สำหรับร้านแดรี่ ควีน ในรูปแบบคีออส ซึ่งให้บริการเครื่องดื่ม ไอศกรีมและเค้กนั้น ปัจจุบันเปิดให้บริการกว่า 211 สาขา ปีนี้ยังเดินหน้าขยายเพิ่ม 15 สาขา ซึ่งเป็นอัตราการขยายสาขาปกติ สิ้นปีนี้คาดว่าจะมียอดขายเติบโตที่ 16-17% คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีที่ผ่านมา มีการเติบโตไปแล้ว 16-17% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ขณะที่ปี 2551 ที่ผ่านมา ปิดยอดขายด้วยอัตราการเติบโตที่ 18% ทั้งนี้ยอดขายจากร้านแดรี่ควีนนี้ คิดเป็นรายได้ประมาณ 15-17% ของภาพรวมไมเนอร์ กรุ๊ป