ศรีสะเกษ -ประธานหอการค้าศรีสะเกษ โอดปิด “อุทยานฯเขาพระวิหาร” ทำการท่องเที่ยวทรุดหนัก วอนรัฐบาลเปิดผามออีแดง บนอุทยานฯ ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมได้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษ ฟื้นกลับสู่ปกติโดยเร็ว ชี้ฝ่ายกัมพูชาเปิดให้ต่างชาติและชาวเขมรขึ้นเที่ยวชม“ประสาทพระวิหาร” โดยตลอด
นายศรีวรรณ เกียรติสุรนนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จากกรณีที่ขณะนี้ทหารไทยและกัมพูชา ยังคงตรึงกำลังรอบบริเวณเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา และเกิดเหตุปะทะกันหลายครั้ง ทำให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)ต้องสั่งปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อย่างไม่มีกำหนดนั้นส่งผลให้เศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยวของ จ.ศรีสะเกษ ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ เพราะอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารเป็นจุดขายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของ จ.ศรีสะเกษ และภาคอีสานตอนล่าง เมื่อปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารทำให้คณะนักท่องเที่ยวพากันเปลี่ยนโปรแกรมไปเที่ยวแห่งอื่นหมด
ขณะเดียวกันแม้ชายแดนฝั่งไทยจะปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร แต่ในส่วนของฝั่งประเทศกัมพูชาได้เปิดปราสาทพระวิหารให้นักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวกัมพูชาขึ้นมาเที่ยวชมได้โดยตลอด ไม่มีการปิดแต่อย่างใด ทั้งที่มีการตรึงกำลังระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทยอยู่ใกล้บริเวณดังกล่าวเช่นกัน
“การที่ทางฝ่ายกัมพูชาได้เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมปราสาทพระวิหารได้ เป็นการแสดงว่าทางฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าบริเวณที่มีการตรึงกำลังทหารมีความปลอดภัยและเมื่อเร็วๆนี้คณะกรรมาธิการต่างประเทศสภาผู้แทนราษฎรของไทย ก็ได้มาตรวจเยี่ยมที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ซึ่งก็ยืนยันว่าบริเวณเขาพระวิหารเหตุการณ์ปกติ ไม่มีปัญหา” นายศรีวรรณ กล่าว
ดังนั้น จึงเห็นว่ารัฐบาลไทยควรสั่งการให้เปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ซึ่งตั้งอยู่ในเขตแดนไทยให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมได้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยวของ จ.ศรีสะเกษ ให้ฟื้นกลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว จะทำให้ผู้ประกอบการและประชาชนในท้องถิ่นมีรายได้เหมือนที่ผ่านมา