‘พธม.สงขลา’เร่งระดมทุนตั้งสถานีวิทยุชุมชน-ศูนย์ประสานงาน

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – พันธมิตรฯสงขลาเดินหน้าตั้งศูนย์ประสานงานและสถานีวิทยุชุมชน วาดหวังใช้เป็นกระบอกเสียงเพื่อกระจายข่าวสารความเคลื่อนไหวงานการเมืองภาคประชาชน และเป็นเครื่องมือในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน คาดใช้งบประมาณ 8 แสนบาท ขณะที่คณะทำงานและกลุ่มแม่ยกตกลงว่าจะใช้วิธีระดมทุน โดยเปิดโอกาสให้ชาวสงขลาทุกคนได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของด้วยการลงขัน

นายทนงศักดิ์ พงศ์จินดามณี รองประธานกรรมการฝ่ายการเงิน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้พันธมิตรฯสงขลากำลังเร่งเดินหน้าจัดตั้งสถานีวิทยุชุมชนและศูนย์ประสานงาน เพื่อให้เป็นจุดกระจายข้อมูลข่าวสาร ทั้งที่เป็นความเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯจากทั่วประเทศและพันธมิตรฯสงขลาเอง รวมถึงให้เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันและกันของพี่น้องประชาชนชาวสงขลา โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ผองพี่น้องพันธมิตรฯกำลังมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างการเมืองใหม่ให้ปรากฏเป็นจริง

ทั้งนี้ ตามโครงการจัดตั้งสถานีวิทยุชุมชนและศูนย์ประสานงานของพันธมิตรฯสงขลา เป็นที่ยอมรับกันว่าการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่ผ่านมา ได้มีสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV และสื่อในเครือ ASTVผู้จัดการ ทำหน้าที่ตีแผ่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง ในขณะที่สื่ออื่นๆ แทบไม่กล้านำเสนอข้อมูลข่าวสารเหล่านั้น โดยได้ทำให้เกิดการตื่นตัวทางการเมืองของประชาชนทุกภาคส่วน ซึ่งพร้อมจะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลที่ไม่มีคุณธรรมและจริยธรรม มีพฤติกรรมฉ้อฉล บริหารประเทศแบบเห็นแก่ประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ละเลยไม่พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน

“ที่สำคัญในเวลานี้พี่น้องพันธมิตรฯ กำลังร่วมมือร่วมใจกันเดินหน้าทำการเมืองใหม่ให้ปรากฏเป็นจริง” นายทนงศักดิ์ กล่าว

ในส่วนของพันธมิตรฯสงขลา ซึ่งก็มีพัฒนาการและร่วมต่อสู้เคียงคู่มากับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ทั้งการต่อสู้ในท้องถิ่นแบบคู่ขนาน และได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพันธมิตรฯ ในเวลานี้พันธมิตรฯสงขลาเล็งเห็นว่า พี่น้องประชาชนชาวสงขลาย่อมจะต้องมีทางเลือกในการรับข้อมูลข่าวสาร และศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระหว่างกันเอง

“ประกอบกับได้มีเสียงเรียกร้องให้พันธมิตรฯสงขลาถ่ายทอดเสียงรายการต่างๆ ที่น่าสนใจของ ASTV ทางสถานีวิทยุเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากพันธมิตรฯสงขลายังไม่มีสถานีวิทยุเป็นของตนเอง” นายทนงศักดิ์กล่าว และว่า

ปัจจุบันแม้พันธมิตรฯได้รับการสนับสนุนจากสถานีวิทยุเสียงกรรมการ FM 102.75 เมกะเฮิรตซ์ โดยมีการถ่ายทอดเสียงเป็นบางส่วนของบางรายการทาง ASTV และดำเนินรายการภาคท้องถิ่นได้ในระดับหนึ่งแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีข้อจำกัดหลายประการ

ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามเสียงเรียกร้องของพี่น้องประชาชนชาวสงขลา ที่ผ่านมาคณะกรรมการ คณะทำงานและผู้สนับสนุน รวมถึงพี่น้องพันธมิตรฯสงขลาได้ประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว ซึ่งได้มีมติให้จัดตั้งสถานีวิทยุเป็นของพันธมิตรฯสงขลาเอง โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกภาคส่วนในจังหวัดสงขลาได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของสถานีวิทยุเสียงของพันธมิตรฯสงขลาแห่งนี้

สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสถานีวิทยุชุมชนและศูนย์ประสานงานพันธมิตรฯสงขลา 1.เพื่อให้พันธมิตรฯสงขลามีเครื่องมือไว้ใช้สื่อสารและแจ้งข้อมูลข่าวสารให้กับพี่น้องชาวสงขลาได้รับทราบความเคลื่อนไหวงานการเมืองภาคประชาชน ทั้งของพันธมิตรฯสงขลาเองและพี่น้องพันธมิตรฯทั่วประเทศ 2.เพื่อให้พันธมิตรฯสงขลา ได้เดินหน้าปฏิบัติงานการเมืองภาคประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการร่วมสร้างสรรค์การเมืองใหม่ให้เป็นจริงได้ในที่สุด

3.เพื่อให้พันธมิตรฯสงขลา ได้มีส่วนร่วมเกื้อหนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง สิ่งแวดล้อม รวมถึงคุณภาพชีวิตของสังคมชาวสงขลาไปสู่สิ่งที่ดีกว่า 4.เพื่อให้พันธมิตรฯสงขลา ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาจิตใจและยกระดับคุณภาพของเยาวชนในท้องถิ่นให้มีสำนึกถึงประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนโดยส่วนร่วม และ 5.เพื่อให้พันธมิตรฯสงขลา ได้มีศูนย์ประสานงาน ซึ่งจะเป็นสถานที่ติดต่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างพี่น้องพันธมิตรฯสงขลาด้วยกัน

ด้าน นายสุมิตร นวลมณี รองประธานกรรมการฝ่ายปฏิบัติการ พันธมิตรฯสงขลา กล่าวถึงประมาณการค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งสถานีวิทยุชุมชนและศูนย์ประสานงานว่า คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 8 แสนบาท ซึ่งจะเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของด้วยการบริจาคการสนับสนุน ซึ่งในเรื่องนี้คณะทำงานและผู้สนับสนุนพันธมิตรฯสงขลาได้หารือกันแล้ว และเห็นร่วมกันว่าแนวทางที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดคือ จะใช้วิธีจัดซื้อเครื่องมือการกระจายเสียงและวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นจากสถานีวิทยุชุมชนในท้องถิ่น ซึ่งปัจจุบันมีอยู่จำนวนมากและหลายแห่งได้ประกาศขายอยู่ในเวลานี้

“สถานที่ตั้งศูนย์ประสานงานตอนนี้ก็มีผู้สนับสนุนที่ดินเปล่าในเขตเมืองหาดใหญ่ให้แล้ว 1 แห่ง ซึ่งก็ได้ประสานงานกับทั้งผู้ให้การช่วยเหลือและผู้สนับสนุนจนเป็นที่ตกลงกันแล้ว เราจะเข้าไปปรับสภาพพื้นที่เพื่อนำเต็นท์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็นทรัพย์สินของพันธมิตรฯสงขลาไปติดตั้งต่อไป” นายสุมิตรกล่าว