ASTVผู้จัดการรายวัน – คลังพร้อมออกบอนด์ไทยเข้มแข็งรอบ 2 หลัง ครม.ไฟเขียวอนุมัติกรอบวงเงินอีก 3 หมื่นล้านบาท ดีเดย์เปิดขายวันแม่แห่งชาติ คาดดอกเบี้ยเคาะที่ 6.0-7.0% อายุพันธบัตร 7 ปี แนะรัฐบาลอย่างเอาใจตลาดเพียงอย่างเดียวต้องรับรู้ภาระดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นหากกู้เงินมาแล้วเบิกจ่ายไม่สอดคล้องกับแผนการใช้เงิน
นายจักรกฤษฎิ์ พาราพันธกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เปิดเผยว่า การเพิ่มวงเงินจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งจากเดิมที่รัฐบาลกำหนดวงเงินจำหน่ายไว้ที่ 5 หมื่นล้านบาทนั้น สบน.ได้เตรียมแผนงานรองรับการจำหน่ายพันธบัตรไทยเข้มแข็งเพิ่มเติมไว้แล้ว ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังจะเป็นผู้พิจารณาตัดสิสนใจเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อีกครั้งว่าจะเพิ่มวงเงินการขายพันธบัตรรอบใหม่จำนวนเท่าใด
“วงเงินจะเพิ่มขึ้นเท่าไรนั้นสุดท้ายต้องขึ้นอยู่กับ รมว.คลังเห็นว่าระดับใดที่สบน.เสนอไปมีความเหมาะสม แต่คงจะยังไม่เปิดขายในเร็วๆ นี้เนื่องจากรัฐบาลยังไม่มีความจำเป็นที่จะใช้เงินอย่างเร่งด่วน ซึ่งเม็ดเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรไทยเข้มแข็งรอบแรกจำนวน 5 หมื่นล้านบาทจะมีการทยอยเบิกจ่ายในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. จึงจะกำหนดวงเงิน อายุพันธบัตรและอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมในการขายครั้งต่อไป” นายจักรกฤษฎิ์กล่าว
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า แผนการเปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งรอบ 2 นั้น สบน.ได้เตรียมความพร้อมในการเปิดขายไว้แล้วซึ่งมีทางเลือกหลายทางในระดับนโยบายตัดสินใจว่าจะเลือกแนวทางใด แต่ในขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะใช้เงินจำนวนมากเพื่อรองรับปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง เนื่องจากทาง สบน.ได้วางแผนการกู้และแผนการใช้เงินให้สอดคล้องกันแล้ว
ทั้งนี้ หากรัฐบาลเร่งขายพันธบัตรไทยเข้มแข็งรอบใหม่สนองความต้องการให้กับประชาชนเพียงอย่างเดียวอาจส่งผลกระทบต่อวินัยทางการคลังและงบประมาณได้ เพราะในส่วนของผู้ปฏิบัติงานได้วางแผนการกู้และการเบิกจ่ายไว้อย่างเป็นระบบอยู่แล้วหากจะเร่งกู้อย่างเดียวจะส่งผลให้รัฐบาลต้องมารับภาระต้นทุนดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าตลาดมากในขณะที่เงินที่กู้มานั้นยังไม่สามารถเบิกจ่ายไปยังโครงการต่างๆ ได้
“การที่ประชาชนให้การตอบรับกับพันธบัตรไทยเข้มแข็งนั้นถือเป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลจะดึงเงินจากในระบบที่ไม่เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจใดๆ มาสร้างประโยชน์และทำให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าไปได้ แต่ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับภาระทางด้านงบประมาณและการคลังประกอบด้วยว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ที่จะเร่งกู้มากองไว้โดยที่เงินยังไม่สามารถเบิกจ่ายไปใช้ได้เกิดต้นทุนที่รัฐบาลต้องจ่ายไปโดยสูญเปล่าจึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาจุดนี้อย่างเหมาะสมด้วย” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับวงเงินการออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งรอบ 2 นั้น สามารถเปิดจำหน่ายได้จำนวน 3 หมื่นล้านบาทตามที่ครม.อนุมัติกรอบการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์รอบ 2 จำนวน 3 หมื่นล้านบาทได้โดยสบน.จะพิจารณาความเหมาะสมของช่วงระยะเวลาการจำหน่าย อายุพันธบัตรและอัตราดอกเบี้ย โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 6.0-7.0% เพื่อสร้างแรงจูงใจมากขึ้น คาดว่าจะเปิดจำหน่ายได้ในช่วงวันที่ 12 ส.ค.เป็นต้นไป
โดยวานนี้ ครม.ให้ความเห็นชอบตามข้อเสนอของ รมว.คลัง เพื่อเตรียมพร้อมในการออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งล็อตที่ 2 วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท หลังจากการออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งล็อตแรก 5 หมื่นล้านบาทในวันแรกประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ยังไม่ได้สรุปว่าจะออกได้เมื่อใด หรือขายให้กับใคร รายใหญ่หรือรายย่อย เป็นเพียงการอนุมัติกรอบไว้เบื้องต้นล่วงหน้าก่อนเท่านั้น
แบงก์พร้อมขายบอนด์รอบใหม่
บรรยากาศการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลวันที่ 2 ที่ธนาคารกรุงไทย วานนี้ (14 ก.ค.) ส่วนใหญ่ไม่มีประชาชนเดินทางมาเพื่อติดต่อขอซื้อพันธบัตร เนื่องจากทราบข่าวทางสื่อมวลชนแล้วว่า 3 หมื่นล้านแรกหมดเกลี้ยง ธนาคารได้เตรียมความพร้อมสำหรับการจำหน่ายไว้ในวันนี้พรุ่งนี้ (15 ก.ค.) อย่างไรก็ตามมีประชาชนบางส่วนเดินทางไปติดต่อเพื่อขอแบบฟอร์มการซื้อพันธบัตรรัฐบาลไปกรอกที่บ้านเพื่อความรวดเร็วในการคีย์ข้อมูลก่อนซื้อพันธบัตร หลายธนาคารเปิดให้บริการมากว่าเดิม เช่น เปิดช่องขายพันธบัตรมากขึ้นกว่าวันแรก เพื่ออำนายความสะดวกกับประชาชนที่จะมาซื้อพันธบัตรให้รวดเร็วกว่าเดิม.
นายจักรกฤษฎิ์ พาราพันธกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เปิดเผยว่า การเพิ่มวงเงินจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งจากเดิมที่รัฐบาลกำหนดวงเงินจำหน่ายไว้ที่ 5 หมื่นล้านบาทนั้น สบน.ได้เตรียมแผนงานรองรับการจำหน่ายพันธบัตรไทยเข้มแข็งเพิ่มเติมไว้แล้ว ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังจะเป็นผู้พิจารณาตัดสิสนใจเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อีกครั้งว่าจะเพิ่มวงเงินการขายพันธบัตรรอบใหม่จำนวนเท่าใด
“วงเงินจะเพิ่มขึ้นเท่าไรนั้นสุดท้ายต้องขึ้นอยู่กับ รมว.คลังเห็นว่าระดับใดที่สบน.เสนอไปมีความเหมาะสม แต่คงจะยังไม่เปิดขายในเร็วๆ นี้เนื่องจากรัฐบาลยังไม่มีความจำเป็นที่จะใช้เงินอย่างเร่งด่วน ซึ่งเม็ดเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรไทยเข้มแข็งรอบแรกจำนวน 5 หมื่นล้านบาทจะมีการทยอยเบิกจ่ายในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. จึงจะกำหนดวงเงิน อายุพันธบัตรและอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมในการขายครั้งต่อไป” นายจักรกฤษฎิ์กล่าว
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า แผนการเปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งรอบ 2 นั้น สบน.ได้เตรียมความพร้อมในการเปิดขายไว้แล้วซึ่งมีทางเลือกหลายทางในระดับนโยบายตัดสินใจว่าจะเลือกแนวทางใด แต่ในขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะใช้เงินจำนวนมากเพื่อรองรับปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง เนื่องจากทาง สบน.ได้วางแผนการกู้และแผนการใช้เงินให้สอดคล้องกันแล้ว
ทั้งนี้ หากรัฐบาลเร่งขายพันธบัตรไทยเข้มแข็งรอบใหม่สนองความต้องการให้กับประชาชนเพียงอย่างเดียวอาจส่งผลกระทบต่อวินัยทางการคลังและงบประมาณได้ เพราะในส่วนของผู้ปฏิบัติงานได้วางแผนการกู้และการเบิกจ่ายไว้อย่างเป็นระบบอยู่แล้วหากจะเร่งกู้อย่างเดียวจะส่งผลให้รัฐบาลต้องมารับภาระต้นทุนดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าตลาดมากในขณะที่เงินที่กู้มานั้นยังไม่สามารถเบิกจ่ายไปยังโครงการต่างๆ ได้
“การที่ประชาชนให้การตอบรับกับพันธบัตรไทยเข้มแข็งนั้นถือเป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลจะดึงเงินจากในระบบที่ไม่เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจใดๆ มาสร้างประโยชน์และทำให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าไปได้ แต่ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับภาระทางด้านงบประมาณและการคลังประกอบด้วยว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ที่จะเร่งกู้มากองไว้โดยที่เงินยังไม่สามารถเบิกจ่ายไปใช้ได้เกิดต้นทุนที่รัฐบาลต้องจ่ายไปโดยสูญเปล่าจึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาจุดนี้อย่างเหมาะสมด้วย” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับวงเงินการออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งรอบ 2 นั้น สามารถเปิดจำหน่ายได้จำนวน 3 หมื่นล้านบาทตามที่ครม.อนุมัติกรอบการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์รอบ 2 จำนวน 3 หมื่นล้านบาทได้โดยสบน.จะพิจารณาความเหมาะสมของช่วงระยะเวลาการจำหน่าย อายุพันธบัตรและอัตราดอกเบี้ย โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 6.0-7.0% เพื่อสร้างแรงจูงใจมากขึ้น คาดว่าจะเปิดจำหน่ายได้ในช่วงวันที่ 12 ส.ค.เป็นต้นไป
โดยวานนี้ ครม.ให้ความเห็นชอบตามข้อเสนอของ รมว.คลัง เพื่อเตรียมพร้อมในการออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งล็อตที่ 2 วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท หลังจากการออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งล็อตแรก 5 หมื่นล้านบาทในวันแรกประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ยังไม่ได้สรุปว่าจะออกได้เมื่อใด หรือขายให้กับใคร รายใหญ่หรือรายย่อย เป็นเพียงการอนุมัติกรอบไว้เบื้องต้นล่วงหน้าก่อนเท่านั้น
แบงก์พร้อมขายบอนด์รอบใหม่
บรรยากาศการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลวันที่ 2 ที่ธนาคารกรุงไทย วานนี้ (14 ก.ค.) ส่วนใหญ่ไม่มีประชาชนเดินทางมาเพื่อติดต่อขอซื้อพันธบัตร เนื่องจากทราบข่าวทางสื่อมวลชนแล้วว่า 3 หมื่นล้านแรกหมดเกลี้ยง ธนาคารได้เตรียมความพร้อมสำหรับการจำหน่ายไว้ในวันนี้พรุ่งนี้ (15 ก.ค.) อย่างไรก็ตามมีประชาชนบางส่วนเดินทางไปติดต่อเพื่อขอแบบฟอร์มการซื้อพันธบัตรรัฐบาลไปกรอกที่บ้านเพื่อความรวดเร็วในการคีย์ข้อมูลก่อนซื้อพันธบัตร หลายธนาคารเปิดให้บริการมากว่าเดิม เช่น เปิดช่องขายพันธบัตรมากขึ้นกว่าวันแรก เพื่ออำนายความสะดวกกับประชาชนที่จะมาซื้อพันธบัตรให้รวดเร็วกว่าเดิม.